พระราชพิธีพิเศษในรัชกาลปัจจุบัน : พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ
พระราชพิธีพิเศษในรัชกาลปัจจุบัน : พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ, พระราชพิธีพิเศษในรัชกาลปัจจุบัน : พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ หมายถึง, พระราชพิธีพิเศษในรัชกาลปัจจุบัน : พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ คือ, พระราชพิธีพิเศษในรัชกาลปัจจุบัน : พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ความหมาย, พระราชพิธีพิเศษในรัชกาลปัจจุบัน : พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ คืออะไร
เมื่อพุทธศักราช ๒๔๐๗ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ๕ รอบพระนักษัตร คือ ๖๐ พรรษา เป็นมหามงคลอันประเสริฐ ที่ทรงดำรงพระชนม์ชีพมายืนนานโดยพร้อมด้วยทศพิธราชธรรมบารมี และทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่พาชาติไทยให้สามารถดำรงอิสราธิปไตยไว้ได้ พร้อมกับความเจริญรุ่งเรืองสมกาลสมัย พระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการน้อยใหญ่ ตลอดจนพสกนิกร ต่างชื่นชมยินดีในพระราชวโรกาสอันเป็นมหามงคลนี้จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล พระสงฆ์ ๖๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ มีพระธรรมเทศนามงคลวิเศษกถาพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จออกมหาสมาคมให้พระบรมวงศานุวงศ์ข้าทูลละอองธุลีพระบาท ชาวต่างประเทศผู้มีเกียรติและพ่อค้าคหบดี เฝ้าฯ ถวายชัยมงคล ณ ท้องพระโรงพระที่นั่งอนันตสมาคมองค์เดิมในพระบรมมหาราชวัง และโปรดเกล้าฯ ให้มีการพระราชทานเลี้ยง พระราชทานเหรียญที่ระลึกในการฉลองพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษาอาณาประชาราษฎร์ต่างก็แสดงความจงรักภักดีด้วยการประดับตกแต่งบ้านเรือนร้านค้า ตามประทีปโคมไฟทั้งทางบกทางน้ำ มีมหรสพแสดงณ สถานที่ต่างๆ เป็นการสนุกสนานครึกครื้นถวายเฉลิมพระเกียรติ
ครั้นถึงพุทธศักราช ๒๕๓๐ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเจริญพระชนมพรรษา ๕ รอบพระนักษัตร พระบรมวงศานุวงศ์ รัฐบาลซึ่งมี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ข้าราชการทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน ประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างชื่นชมโสมนัสสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ เป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองและประชาชนเป็นอเนกนานัปการ จึงพร้อมใจสมัครสมานร่วมแสดงความจงรักภักดี โดยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดงานเฉลิมพระเกียรติถวายให้ยิ่งใหญ่ เพื่อจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ของชาติไทยสืบไป
โดยเหตุที่ตามโบราณราชประเพณีในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกปีนั้น จะต้องมีพระราชพิธีสรงพระมูรธาภิเษกก่อนทุกครั้งไป แต่การพระราชพิธีนี้ได้ว่างเว้นมาตั้งแต่ พุทธศักราช ๒๔๗๕ จนกระทั่งถึงพุทธศักราช ๒๕๐๖ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลยเดชทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๓ รอบพระนักษัตรในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาปีนั้น ได้เสด็จพระราชดำเนินออกประทับมณฑปนพปฎลมหาเศวตฉัตร สรงพระมูรธาภิเษก เพื่อเจริญพระราชสิริสวัสดิ์ตามพระราชพิธีโดยสมบูรณ์แต่ในปีต่อมาก็ว่างเว้นมีการพระราชพิธีตามปกติดังนั้น รัฐบาลจึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต จัดรัฐพิธีเสกทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์โดยทำพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งศักดิ์สิทธิ์ หรือปูชนียสถานสำคัญทั่วทุกจังหวัด อัญเชิญมาทูลเกล้าฯ ถวายแท่นพระราชพิธีสรงพระมูรธาภิเษกพร้อมกับทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพเพื่อถวายสักการะแทบเบื้องพระยุคลบาท ในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบตามโบราณราชประเพณี ในการนี้ได้ขอพระบรมราชานุญาตปลูกสร้างเป็นแบบพระที่นั่ง ที่ใช้ในการพระราชพิธีอันเป็นมหามงคล เช่นพระที่นั่งราชฤดีในพระบรมมหาราชวัง ประกอบด้วยพระแท่นราชอาสน์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร ขอพระราชทานเรียกว่า พระที่นั่งชัยมังคลาภิเษก แวดล้อมด้วยราชวัติฉัตรขาว ตามโบราณราชประเพณี และขอพระราชทานอัญเชิญเสด็จออกให้พระบรมวงศานุวงศ์ คณะรัฐมนตรี ข้าราชการฝ่ายทหาร พลเรือน สมาชิกรัฐสภา คณะทูตานุทูต ผู้มีเกียรติ พ่อค้าคหบดีตลอดจนประชาราษฎร์ทุกหมู่เหล่า ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นมหาสมาคมอันยิ่งใหญ่ ณ ท้องสนามหลวง แทนการเสด็จออกมหาสมาคม ณ ท้องพระโรง พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูริยพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง
อนึ่ง ในรัชกาลปัจจุบันยังไม่มีการพระราชพิธีหล่อพระพุทธรูปประจำพระชนมวารและพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษา ดังนั้น เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ รัฐบาลจึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ทรงประกอบพระราชพิธีหล่อพระพุทธรูป ๒ องค์ ดังกล่าว ตามโบราณราชประเพณี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการพระราชพิธีหล่อพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ปางห้ามญาติ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำวันจันทร์อันเป็นวันพระราชสมภพ ขนาดความสูง ๙ นิ้ว หล่อด้วยโลหะเงินกะไหล่ทอง และพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษามหามงคล ๕ รอบ แบบพระพุทธนวราชบพิตร แต่เป็นปางสมาธิ ขนาดหน้าตัก ๑๘ นิ้ว โดยอนุโลมจากเมื่อทรงพระผนวช วัดพระกรรปุระ (ศอก) เป็นขนาดของไตรครองได้ ๑๘ นิ้ว หล่อด้วยโลหะผสมทองแดงกะไหล่ทองอย่างหนา ถวายฉัตรปรุ ๕ ชั้น
ก่อนการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ จึงเริ่มด้วยพระราชพิธีหล่อพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร และพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษามหามงคล ๕ รอบ เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ รวม ๑๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ แล้วลงคาถาในแผ่นโลหะทองเงินที่จะหล่อพระพุทธรูป ได้เวลาพระฤกษ์ ๑๗.๔๙ น. ถึง ๑๘.๐๙ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรราชินีนาถจึงได้ทรงเททองหล่อพระพุทธรูป ๒ องค์ ดังกล่าว
ตามที่รัฐบาลได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต สร้างพระที่นั่งชัยมังคลาภิเษก ณ ท้องสนามหลวง เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคมนั้น กรมศิลปากรเป็นผู้รับผิดชอบในการออกแบบและก่อสร้าง โดยอาศัยรูปลักษณะของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแต่ทำเป็นพระที่นั่งโถง เป็นอาคารไม้เครื่องยอดทรงจตุรมุข องค์พระที่นั่งทาสีขาว ภายในประดับลวดลายฉลุสีทอง ช่อฟ้าใบระกาเป็นสีทองอนุโลมตามแบบพระที่นั่งราชฤดี ฐานกว้างและยาวด้านละ ๓๕ เมตร สูง ๓๒.๕o เมตร เมื่อการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สม เด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธียกเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระที่นั่งชัยมังคลาภิเษก เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๐
ส่วนรัฐพิธีเสกทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ทุกจังหวัดประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำสำคัญภายในจังหวัด รวมทั้งจากแหล่งน้ำที่เคยนำมาใช้ในพระราชพิธีสรงมูรธาภิเษกของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๔๙๓ โดยทำพิธีในวันพุธอันเป็นวันธงชัย วันที่ ๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๐ เวลา ๐๙.๐๐ น. แล้วนำไปพักไว้ที่วัดสำคัญของจังหวัด ประกอบพิธีเสกทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ทุกจังหวัดพร้อมกันในวันพุธ วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๐ เวลา ๑๓.๓๐ น. เสร็จแล้วนำส่ง กระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๐
รัฐพิธีที่กรุงเทพมหานคร ได้ประกอบเมื่อ วันพุธที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ ณ พระวิหารหลวง วัดสุทัศนเทพวราราม นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา เทน้ำศักดิ์สิทธิ์จากจังหวัดต่างๆ ลงในขันพระสาครพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๖๑ รูป มีสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานเจริญพระพุทธมนต์ แล้วหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ลงไปในขันพระสาคร ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา พร้อมกันตักน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากขันพระสาคร รินลงในพระเต้าปทุมนิมิตทอง พระเต้าปทุมนิมิตนากและพระเต้าปทุมนิมิตเงิน คนละองค์ตามลำดับเป็นอันเสร็จรัฐพิธี
การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพุทธศักราช ๒๕๓๐ นั้น เริ่มด้วยพระราชพิธีฉลองสมโภชพระพุทธรูปประจำพระชนมวารพระพุทธรูปมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบรรจุพระพิมพ์ผงจิตรลดาไว้ที่กลีบบัวฐานพระพุทธรูปแล้ว และในโอกาสเดียวกันนี้ รัฐบาลได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ฉลองพระไตรปิฎกฉบับสังคายนาในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบนี้ด้วย ในวันศุกร์ที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พระราชพิธีฉลองสมโภชพระพุทธรูปนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงใช้ผ้าชุบน้ำพระสุคนธ์เช็ดที่แววพระเนตรพระพุทธรูปทั้งสองข้างเป็นการเบิกพระเนตร แล้วทรงพระสุหร่ายทรงเจิม และถวายผ้าทรงสะพักกรองทอง พร้อมทั้งทรงเจิมพระไตรปิฎกฉบับสังคายนามหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ พระสงฆ์ ๖๑ รูปมีสมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นประธาน เจริญพระพุทธมนต์ฉลองพระพุทธรูป เมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับแล้ว พราหมณ์เบิกแว่นข้าราชการรับแว่นเวียนเทียนสมโภชฉลองพระพุทธรูปและพระไตรปิฎกครบ ๓ รอบ เมื่อเสร็จการพระราชพิธีนี้แล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐานพระพุทธรูปมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ณ ฐานชุกชีพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร คู่กับพระสัมพุทธพรรณี และเชิญพระพุทธรูปประจำพระชนมวารปางห้ามญาติประดิษฐานไว้ ณ หอพระสุราลัยพิมาน สำหรับอัญเชิญประกอบพระราชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษาตามราชประเพณีต่อไป
วันเสาร์ที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ ตอนเช้าเป็นงานเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งชัยมังคลาภิเษก เวลา ๐๗.๕๐ น. นายพิศาล มูลศาสตรสาทร ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำขบวนเชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงินขึ้นตั้งในบุษบกราชรถ ยาตราไปสู่มณฑลพิธีพระที่นั่งชัยมังคลาภิเษก ท้องสนามหลวง โดยมีกระบวนผู้แทนแต่ละจังหวัด เชิญพุ่มดอกไม้มาตั้งถวายที่ชั้นทักษิณรอบพระที่นั่ง
เวลา ๑๐.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งชัยมังคลาภิเษกโดยมีกองทหารม้ารักษาพระองค์ แห่นำ-ตามเสด็จ เมื่อประทับพระราชอาสน์บนพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตรแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กราบบังคมทูลถวายชัยมงคลจบแล้ว พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีนายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานรัฐสภา และนายจำรัส เขมะจารุ ประธานศาลฎีกา กราบบังคมทูลเฉลิมพระเกียรติและถวายชัยมงคลตามลำดับ แล้วทั้ง ๓ ท่านขึ้นเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทบนพระที่นั่งชัยมังคลาภิเษก ถวายพานดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วรินหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน ลงในพระครอบมูรธาภิเษกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถือ โดยแต่ละท่านรินหลั่งน้ำจากพระเต้าคนละองค์ตามลำดับ แล้วลงจากพระที่นั่งไปยืนเฝ้าฯ ที่เดิม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสขอบใจ และทรงแสดงให้เห็นถึงคุณประโยชน์ของความสามัคคี
เวลาบ่ายตั้งแต่ ๑๖.๓๐ น. มีพระราชพิธีต่างๆ ตามปกติของงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาประจำปี คือเสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม บรรพชิตจีนและญวนถวายพระพรที่มุขหน้าพระอุโบสถ พระสงฆ์ ๕ รูปสวดนวัคคหายุสมธัมม์ ทรงบูชาเทวดานพเคราะห์ และพระราชทานสังคหวัตถุแก่ข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายหน้าฝ่ายใน จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ทรงสถาปนาสมณศักดิ์พระสงฆ์ ซึ่งปีนี้มีรองสมเด็จพระราชาคณะ ๓ รูป พระราชาคณะ ๑๙ รูป พระราชทานฐานันดรศักดิ์แก่พราหมณ์ประจำราชสำนัก ๓ คน พระสงฆ์ ๖๑ รูป มีสมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นประธาน เจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่ข้าราชการ
วันอาทิตย์ที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓o เสด็จพระราชดำเนินไปถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์ และสวดนวัคคหายุสมธัมม์ เสร็จแล้วทรงสดับพระธรรมเทศนามงคลวิเศษกถา ที่สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร ถวายแทนสมเด็จพระสังฆราชหลังจากเสด็จพระราชดำเนินกลับแล้ว พระราชครูอัษฎาจารย์เบิกแว่น โหรหลวงและข้าราชการรับแว่นเวียนเทียนสมโภชพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ดวงพระบรมราชสมภพ พระสุพรรณบัฏ เป็นเสร็จการพระราชพิธี
เวลา ๑๖.๓๐ น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะทูตานุทูตเเละกงสุล เฝ้าฯ ถวายชัยมงคล ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เป็นงานเต็มยศ
วันจันทร์ที่ ๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ รัฐบาลจัดงานสโมสรสันนิบาต ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อถวายความจงรักภักดี โดยกราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนิน มาเสวยพระกระยาหาร ณ ทำเนียบรัฐบาล เป็นงานที่ยิ่งใหญ่มโหฬารสมพระเกียรติเป็นอย่างยิ่ง
พระราชพิธีพิเศษในรัชกาลปัจจุบัน : พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ, พระราชพิธีพิเศษในรัชกาลปัจจุบัน : พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ หมายถึง, พระราชพิธีพิเศษในรัชกาลปัจจุบัน : พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ คือ, พระราชพิธีพิเศษในรัชกาลปัจจุบัน : พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ความหมาย, พระราชพิธีพิเศษในรัชกาลปัจจุบัน : พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ คืออะไร
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!