การเลี้ยงกุ้งก้ามกรามทำได้หลายวิธี เช่น เลี้ยงในกระชัง เลี้ยงในคอกเฝือก หรือที่ล้อมขังในร่องสวน และในบ่อ แต่ถ้าจะเลี้ยงให้ได้ผลจริงจังแล้ว ควรเลี้ยงในบ่อดิน
ปัญหาที่สำคัญที่สุดในการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม คือ น้ำ ดังนั้น ในการพิจารณาสถานที่ที่จะเลี้ยงกุ้ง จึงต้องพิจารณาหาแหล่งน้ำที่มีอยู่ใกล้ๆ เช่น แม่น้ำ ลำธาร คลองที่มีน้ำไหลผ่านตลอดปีและน้ำนั้นจะต้องมีคุณภาพดี มีค่าความเป็นกรด-ด่างระหว่าง ๗.๕-๘.๕ ปลอดสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม และดินจะต้องสามารถเก็บกักน้ำได้ ไม่ควรเป็นดินทรายหรือดินที่มีทรายเกินกว่าร้อยละ ๓๐ เพราะจะมีปัญหาในการเก็บกักน้ำในฤดูแล้ง ซึ่งถ้าจะแก้ไขจะต้องลงทุนสูง อีกประการหนึ่งที่จะต้องพิจารณาด้วย คือ ทางคมนาคม ถ้าอยู่ใกล้ทางคมนาคมติดต่อสะดวก การขนส่งไม่ทำให้ลูกกุ้งบอบช้ำมาก สามารถจับกุ้งส่งตลาดได้รวดเร็ว กุ้งไม่เสื่อมคุณภาพและราคาไม่ตก ในบางแห่งอาจใช้น้ำบาดาลเลี้ยงกุ้งก็ได้แต่ต้องลงทุนสูง
สำหรับการเลี้ยงในร่องสวนหรือในที่ล้อมขังที่มีน้ำอยู่แล้วและไม่สามารถสูบน้ำออกหมดได้ ก่อนปล่อยกุ้งต้องฆ่าปลาที่มีอยู่เดิมออกให้หมด มิฉะนั้นปลาเหล่านี้อาจแย่งอาหารหรือกินลูกกุ้งได้ โดยใช้รากโล่ติ๊นสดทุบแช่น้ำไว้ ๑ คืน แล้วขยำให้ยางซึ่งมีสีขาวเหมือนน้ำนมออกให้มากที่สุด แล้วสาดลงในน้ำให้ทั่วในอัตราส่วนโล่ติ๊นสด ๑ กิโลกรัมต่อน้ำ ๑๐๐ ลูกบาศก์เมตร หรือกากเมล็ดชาป่นในอัตรา ๒๕-๓๐ กรัมต่อน้ำ ๑ ลูกบาศก์เมตร หรือจะใช้โซเดียมไซยาไนด์ (Sodium cyanide) ในอัตราส่วน ๑-๓ กรัมต่อน้ำ ๑ ตัน แต่การใช้โซเดียมไซยาไนด์ค่อนข้างเป็นอันตราย ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง หลังจากนั้นปลาใหญ่น้อยจะแสดงอาการสำลักน้ำ ว่ายน้ำผิดปกติขึ้นมาที่ผิวน้ำหรือขอบๆ บ่อ ต้องรีบจับก่อนจะจมลงไปเน่าเสียหมด
สำหรับบ่อเก่าที่สูบน้ำทิ้งจนแห้งโดยทั่วๆ ไปแล้วจะโรยปูนขาว ในอัตราไร่ละ ๑๕๐-๒๐๐ กิโลกรัม ควรตรวจวัดความเป็นกรด-ด่าง ของดินที่พื้นบ่อเสียก่อน แล้วจึงคำนวณปริมาณปูนขาวที่จะใส่ ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด แล้วปล่อยทิ้งไว้สัก ๗ วัน จึงปล่อยน้ำเข้าและเลี้ยงกุ้งได้ทันที
ปกติจะปล่อยลูกกุ้งขนาดลำตัวยาว ๑-๒ เซนติเมตร ซึ่งยังเป็นขนาดเล็ก หากคนที่ไม่เคยสังเกตมาก่อนจะไม่รู้เลยว่าลูกกุ้งก้ามกรามต่างกับกุ้งฝอยอย่างไร จึงมักมีข่าวอยู่เสมอว่าซื้อลูกกุ้งก้ามกรามไปปล่อยแล้วกลายเป็นกุ้งฝอย ฉะนั้นจึงขอแนะวิธีสังเกตลูกกุ้งก้ามกรามกับกุ้งฝอยดังตารางข้างล่างนี้
ถ้าเลี้ยงในกระชังไม้หรือที่ล้อมขัง ควรจะปล่อยกุ้งที่มีขนาดใหญ่กว่าขนาดดังกล่าว คือ กุ้งจะต้องมีขนาดลำตัวยาวไม่น้อยกว่า ๒ นิ้ว