ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

พระราชพิธีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๓ รอบพระนักษัตร, พระราชพิธีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๓ รอบพระนักษัตร หมายถึง, พระราชพิธีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๓ รอบพระนักษัตร คือ, พระราชพิธีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๓ รอบพระนักษัตร ความหมาย, พระราชพิธีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๓ รอบพระนักษัตร คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
พระราชพิธีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา  ครบ ๓ รอบพระนักษัตร

          พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของพระมหากษัตริย์ไทยได้เริ่มในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทั้งนี้ตั้งแต่ยังทรงพระผนวชอยู่ ได้มีพระราชดำริว่า เมื่อคำนวณวันทางสุริยคติวันใดตรงกับวันพระราชสมภพ ก็จะทรงบำเพ็ญพระราชกุศล  เนื่องจากทรงรำลึกว่าการมีอายุจนบรรจบรอบปีไม่ตายไปก่อนนั้น  เป็นลาภอันอุดมอย่างหนึ่งควรยินดี  น่าที่จะบำเพ็ญกุศลอันเป็นประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น  และทำใจให้เป็นที่ตั้งแห่งความไม่ประมาท  ด้วยไม่สามารถจะรู้ได้ว่า จะมีชีวิตอยู่ต่อไปจนบรรจบรอบปีเช่นนี้ได้อีกหรือไม่  ดังนั้น  แม้เมื่อทรงลาพระผนวชมาดำรงสิริราชสมบัติแล้ว  ก็ยังทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวันทางสุริยุคติที่ตรงกับวันพระราชสมภพ  อันเป็นต้นเค้าของพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน

           เมื่อ พุทธศักราช  ๕๐๖  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา  ครบ ๓  รอบพระนักษัตร  ๓๖  พรรษา เป็นมหามงคลวาระพิเศษ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  ให้ตั้งการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาประจำปีนั้นเป็นพิเศษ  ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา  การใดที่เป็นราชประเพณีแต่ยังมิได้ทรงกระทำเมื่อทรงรับบรมราชาภิเษก  คือ  การเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครทางสถลมารคและชลมารค ก็โปรดให้จัดการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครทางสถลมารคขึ้นก่อนในมหามงคลวโรกาสนี้ นอกจากนั้นตามที่ทรงหล่อพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาลขึ้นตามบูรพราชประเพณี  เมื่อวันที่  ๓๑ ตุลาคม  พุทธศักราช  ๕๐๖ โปรดให้ประกอบการพระราชพิธีฉลองสมโภชพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาปีนั้นด้วย สำนักพระราชวังจึงขอพระราชทานชื่อการพระราชพิธีขึ้นใหม่ว่า  “พระราชพิธีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๓ รอบพระนักษัตร”

          การหล่อพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาลเป็นราชประเพณีที่ปฏิบัติสืบเนื่องกันมายาวนานคือ เมื่อสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชทรงรับบรมราชาภิเษกแล้ว จะทรงหล่อพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ขึ้นไว้สำหรับทรงสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ราชสมบัติ และรัฐสีมาอาณาจักร  พระราชวงศ์และทวยนาครภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารจักได้อยู่เย็นเป็นสุข  ดังปรากฏในพระราชพงศาวดารรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า  ก็มีการเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ไปในงานพระราชสงครามด้วย  แสดงว่าอย่างน้อยก็มีพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์นี้มาตั้งแต่รัชกาลนั้นแล้ว

           พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะพิเศษกว่าพระพุทธรูปธรรมดาคือ เป็นแบบนั่งขัดสมาธิเพชร  แต่พระหัตถ์ซ้ายจะอยู่ในลักษณะถือด้ามพัด เป็นพระพุทธรูปขนาดย่อมหรือค่อนข้างเล็ก  เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้ายไปในพิธีต่าง ๆ ในพระราชพิธีสำคัญ  เช่น  พระราชพิธีบรมราชาภิเษก  พิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา  จะต้องเชิญมาประดิษฐานในมณฑลพิธีเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานพระราชสงคราม  ถ้าเป็นทางสถลมารคก็จะเชิญขึ้นช้าง  นำหน้าช้างพระที่นั่งจึงเรียกว่า “พระชัยหลังช้าง” ทางชลมารคก็เชิญลงเรือพระที่นั่ง หน้าเรือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเหมือนกัน จนต่อมากึงแม้มิใช่งานพระราชสงคราม เมื่อเสด็จพระราชดำเนินประพาสหัวเมือง ก็เชิญเข้ากระบวนเสด็จด้วยเสมอ ท่านผู้รู้ทางโบราณคดีได้สันนิษฐานว่า คำว่า  “ชัย” นั้น หมายถึงชัยชนะในงานสงครามนั่นเอง แม้แต่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์  ก็มีพระมติว่าพระชัยน่าจะมาจากพระมารวิชัย  ที่ถือตาลปัตรทำให้นึกไปได้ว่าเพื่อบังอาวุธ แต่ทั้งนี้ไม่ทรงยืนยันว่าจะผิดหรือถูก เพราะเป็นการคาดคะเนเอาเท่านั้น

          พระราชพิธีหล่อพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาลนั้น ถือเป็นพระราชพิธีสำคัญ มีขั้นตอนการดำเนินพิธีมาก ในรัชกาลก่อนๆ  ใช้เวลาถึง ๕ วันก็มี พระพุทธมนต์ที่พระสงฆ์สวดในพิธีก็เป็นพระพุทธมนต์พิเศษใช้ในการนี้โดยเฉพาะ  มีการสวดภาณวาร  คือ  นั่งปรกปลุกเสกกันทั้งวันทั้งคืนตลอดพระราชพิธี  และมีพิธีพราหมณ์ประกอบด้วย  ในรัชกาลปัจจุบันแม้จะได้ปรับปรุงขั้นตอนของพระราชพิธีให้กะทัดรัดเหมาะสมกับกาลสมัย  ก็ยังต้องใช้เวลาถึง  ๓  วัน คือ  ตั้งแต่วันที่  ๒๙-๓๑  ตุลาคมพุทธศักราช  ๒๕๐๖ ซึ่งโหรหลวงได้คำนวณพระฤกษ์ศุภมงคล  เพื่อประกอบการพระราชพิธีขึ้นทูลเกล้าฯ  ถวาย โดยมีพระราชพิธีที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

          พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลปัจจุบันเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งหล่อด้วยเงิน ประทับนั่งขัดสมาธิเพชรภายใต้ฉัตร  ๕  ชั้น  หน้าตักกว้าง  ๗  นิ้ว  สูงจากทับเกษตรถึงยอดพระรัศมี  ๙  นิ้ว  ทรงพัดแฉก  ที่ฐานจารึกอักษรไทยเป็นภาษามคธ  แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า

          ความตั้งใจมุ่งมั่น  ความเพียร  ความมีขันติ  เป็นพลังที่เป็นเหตุให้ประสบความสำเร็จโดยแท้

          ผู้บรรลุถึงความสำเร็จนั้น เป็นบัณฑิต ได้รับความชนะมาก  ย่อมก่อให้เกิดความสุขยินดี

          ต่อมา  “เลขาธิการพระราชวังรับพระบรมราชโองการเหนือเกล้าฯ  สั่งว่า ในปีเถาะ พุทธศักราช  ๒๕๐๖  นี้  เป็นสมัยที่บรรจบครบ  ๓  รอบปีแห่งพระบรมราชสมภพ  ทรงพระราชปรารถที่จะทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นพิเศษ  ซึ่งได้ทรงหล่อพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาลขึ้นไว้ตามบูรพราชประเพณี  บัดนี้การแต่งพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ได้สำเร็จบริบูรณ์แล้ว  จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบการพระราชพิธีฉลองสมโภชพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่ได้ทรงหล่อไว้นั้นในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพยุหยาตราสถลมารคตามโบราณราชประเพณี  ไปทรงบูชาพระรัตนตรัย  ณ  พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร  ในโอกาสแห่งมงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๓ รอบนี้ด้วย”  พระราชพิธีดังกล่าวมีรายการดังนี้

          วันที่ ๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๐๖ เป็นพระราชพิธีฉลองสมโภชพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ  ทรงบรรจุดวงชาตาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในฐานองค์พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์  ทรงพระสุหร่าย  ถวายผ้าทรงสะพัก และทรงเจิม แล้วเจ้าพนักงานเชิญขึ้นประดิษฐานบนพระแท่นมหาเศวตฉัตรพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์

          วันที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช  ๒๕๐๖  เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ  ทรงประเคนภัตตาหาร จตุปัจจัยไทยธรรม และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  ให้เจ้าพนักงานตั้งบายศรีแก้ว ทอง เงิน  เวียนเทียนสมโภชพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาล

          วันที่  ๕  ธันวาคม  พุทธศักราช  ๒๕๐๖  เวลา  ๑๐.๓๐ น.  เสด็จออก  ณ  ท้องพระโรงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์บนพระราชบัลลังก์ ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์  คณะรัฐมนตรีและข้าราชบริพาร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทน้อมเกล้าฯ ถวายชัยมงคล  มีพระราชดำรัสตอบขอบใจ  และพระราชทานพรให้ทุกคนประสบความสุขความเจริญ

          เวลา  ๑๖.๓๐  น.  เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม  ทรงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร  และเทพยดานพเคราะห์  จากนั้นเสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ  ทรงสถาปนาสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นหิรัญบัฏ  พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าแก่เลขาธิการพระราชวังและสมุหราชองครักษ์ และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก่ข้าราชการผู้ใหญ่

          วันที่  ๖  ธันวาคม พุทธศักราช  ๒๕๐๖  มีพระราชพิธีสรงมูรธาภิเษก แล้วทรงสดับพระธรรมเทศนามงคลวิเศษกถา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ

          เวลา  ๑๖.๓๐  น.  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  เสด็จออกท้องพระโรงกลาง  พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท  คณะทูตานุทูตและผู้แทนฝ่ายกงสุลเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายชัยมงคลเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา

          วันที่  ๗ ธันวาคม  พุทธศักราช  ๒๕๐๖  เวลา  ๑๔.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์  ทรงพระมหามาลา  ประทับพระที่นั่งราชยานพุดตานทอง  เสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพยุหยาตราสถลมารคตามโบราณราชประเพณี  จากพระบรมมหาราชวังไปสู่วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อทรงบูชาพระรัตนตรัยทดแทนการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครในงานพระบรมราชาภิเษก ซึ่งเดิมเป็นการประกาศพระองค์ให้พสกนิกรได้ชมพระบารมี  ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงแปรความหมายของพระราชพิธีนี้  เป็นการเสด็จพระราชดำเนินไปบูชาพระรัตนตรัยยังพระอารามหลวง  การที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ฟื้นฟูพระราชพิธีนี้  จึงเป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็น ในความสง่างามและระเบียบแบบแผนอันสูงส่งของไทยเป็นอยู่อย่างยิ่ง และเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของชาติให้ธำรงสืบต่อไป  ทำให้นานาประเทศได้รับทราบถึงความเจริญของวัฒนธรรมไทยด้วย

พระราชพิธีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๓ รอบพระนักษัตร, พระราชพิธีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๓ รอบพระนักษัตร หมายถึง, พระราชพิธีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๓ รอบพระนักษัตร คือ, พระราชพิธีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๓ รอบพระนักษัตร ความหมาย, พระราชพิธีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๓ รอบพระนักษัตร คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

บทความอื่น ของสารานุกรมไทย ฉบับกาญจนาภิเษก

สารานุกรมเล่มอื่นๆ

คำยอดฮิต

Sanook.commenu