
เป็นโรคที่เกิดจากการเกิดฟองก๊าซในเลือดหรือในเนื้อเยื่อ เมื่อมีการลดความกดดันไม่เพียงพอ หรือไม่ลดความกดดันเลยหลังการดำน้ำลึกมากกว่า ๓๐ ฟุตน้ำทะเล และดำเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ปริมาณของก๊าซเฉื่อย (ยกเว้นก๊าซฮีเลียม) ที่ละลายอยู่ในเนื้อเยื่อและในเลือดขณะนั้นมีมากเกินกว่าปริมาณปกติทำให้เกิดการรวมตัวกันเป็นฟองอากาศกระจายไปทั่วร่างกาย โดยเฉพาะการดำน้ำที่ใช้อุปกรณ์การหายใจใต้น้ำ และขวดอากาศที่มีก๊าซไนโตรเจนผสมอยู่ด้วย เมื่อก๊าซไนโตรเจนมีปริมาณมากกว่าก๊าซชนิดอื่นในอากาศผสม จึงละลายในเลือดและเนื้อเยื่อร่างกายในปริมาณมาก ขณะดำน้ำขึ้นไนโตรเจนที่ละลายอยู่ในร่างกายจะถูกกำจัดออกมา ให้ได้สมดุลกับความกดดันที่ลดลงภายนอกโดยวิธีหายใจออกมาถ้ามีปริมาณเล็กน้อย ร่างกายสามารถกำจัดได้หมด แต่ถ้ามีการลอยตัวขึ้นเร็ว โดยไม่ได้หยุดลดความกดในน้ำเป็นระยะตามตารางลดความกดเพื่อให้ร่างกายมีเวลาขับไนโตรเจนออกมา หรือมีการขจัดก๊าซออกจากร่างกายช้าผิดปกติระหว่างการลดความกด จะทำให้ไม่สามารถขับไนโตรเจนที่ละลายอยู่ออกทางปอดได้ทัน จึงเหลือปริมาณของก๊าซไนโตรเจนอยู่ในภาวะเกินความอิ่มตัวเมื่อความดันอากาศลดลง ไนโตรเจนส่วนนี้จะกลายสภาพเป็นฟองอากาศ ซึ่งสามารถเกิดได้กับทุกส่วนของร่างกายทั้งส่วนที่เป็นของแข็งหรือของเหลว เช่น เกิดฟองอากาศที่กล้ามเนื้อข้อต่อจะมีอาการปวด ถ้าเข้าสู่กระแสเลือดไปอุดเส้นเลือดที่ไขสันหลังหรือสมองจะทำให้สลบ หรือเป็นอัมพาต
อาการและอาการแสดง แบ่งเป็น ๒ ชนิด เพื่อสะดวกในการรักษา
ชนิดที่ ๑ อาการมักเริ่มภายใน ๑ ชม. หลังขึ้นจากน้ำ โดยรู้สึกเพลียกว่าปกติหลังจากดำน้ำ มีผื่นคันเป็นผื่นนูนตรงจุดกลางสีม่วงคล้ำปวดแสบปวดร้อน มีอาการปวดตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ เนื่องจากมีฟองอากาศแทรกตามเนื้อเยื่อรอบๆ ข้อ ทำให้เนื้อเยื่อเกิดความบอบช้ำและฉีกขาดลักษณะปวดลึกๆ และรบกวน ไม่ปวดมาก มีความรู้สึกวูบวาบ หรือมีอาการชาตามผิวหนัง ขา เท้า มีอาการมึนงง อาการที่พบมากที่สุด คือ อาการปวดข้อไหล่
ชนิดที่ ๒ อาการรุนแรงกว่าชนิดที่ ๑ ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ในระยะนี้ มีการเกิดฟองอากาศจำนวนมากในอวัยวะสำคัญ ดังนี้
- ไขสันหลังและเส้นเลือดรอบๆ ฟองไนโตรเจนจะอุดกั้นเส้นเลือดดำประมาณ ๘๐%
อาการ เสียการรับรู้ อัมพาตครึ่งตัวปัสสาวะไม่ออก
- สมอง พบได้น้อย เกิดจากปริมาณฟองอากาศมาก แล้วหลุดจากรอยรั่วหรือรอยฉีกขาดของถุงลมและปอดเข้าสู่เนื้อเยื่อสมอง
อาการ พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง ปวดศีรษะข้างเดียวคล้ายไมเกรน หมดสติ อัมพาตครึ่งซีก
- ปอด พบน้อย เกิดเนื่องจากปริมาณฟองอากาศมากเกินไปจนปอดกรองไม่ไหว หรือฟองอากาศอุดเส้นเลือดเล็กๆ ที่ถุงลมปอด ทำให้ขัดขวางการแลกเปลี่ยนก๊าซ จึงเกิดอาการนี้ขึ้นมักเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล
อาการ เจ็บหน้าอก ไอ เหนื่อย หายใจไม่ออก มีเสมหะปนเลือด ช็อก
- หูชั้นใน มีอาการหูหนวก มีเสียงดังหึ่งๆ ภายในหู เวียนศีรษะ ตากระตุก
- กล้ามเนื้อและข้อต่อ มีอาการปวดแนวสันหลังหรือสะโพก ปวดร้าวกลางหลังทั้งสองข้างลำตัว กล้ามเนื้ออ่อนแรง
ระยะการเกิดอาการ ๕๐% เกิดอาการครึ่งชั่วโมงหลังขึ้นจากน้ำ ๘๕% เกิดอาการภายใน ๖๐ นาที ๙๕% เกิดอาการภายใน ๓ ชม. ๑% เกิดหลัง ๖ ชม. หลังขึ้นจากน้ำ
ปัจจัยเสริม ปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดอาการนี้ง่ายขึ้น ได้แก่ เพศหญิง ความอ้วน อายุมาก ทำงานหนักเกินไป การดื่มเหล้า การอดนอน การบาดเจ็บในส่วนต่างๆ ของร่างกาย การขึ้นที่สูงหลังการดำน้ำลึก และการดำน้ำซ้ำมากกว่าหนึ่งครั้ง
การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การปฏิบัติตามกฎของการดำน้ำอย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสริมต่างๆ ดังกล่าวมาแล้ว