ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

ประวัติการศึกษาจารึกในประเทศไทย, ประวัติการศึกษาจารึกในประเทศไทย หมายถึง, ประวัติการศึกษาจารึกในประเทศไทย คือ, ประวัติการศึกษาจารึกในประเทศไทย ความหมาย, ประวัติการศึกษาจารึกในประเทศไทย คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
ประวัติการศึกษาจารึกในประเทศไทย

          ประเทศไทยเริ่มรู้จักและให้ความสนใจจารึก เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในสมัยที่ยังดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ  เจ้าฟ้ามงกุฎฯ ขณะทรงผนวชอยู่ในปีพุทธศักราช ๒๓๗๖ ได้เสด็จจาริกธุดงค์ไปยังหัวเมืองมณฑลฝ่ายเหนือของประเทศไทยเสด็จถึงเมืองสุโขทัยทรงพบศิลาจารึก หลักคือ ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง ภาษาไทย และศิลาจารึกวัดป่ามะม่วง ภาษาเขมร พร้อมด้วยพระแท่นศิลาบาตร ที่บริเวณเนินปราสาทในวัดมหาธาตุ  ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัยจังหวัดสุโขทัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า-เจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าเป็นโบราณวัตถุสำคัญจึงโปรดเกล้าฯ ให้นำลงมาที่กรุงเทพฯ และทรงเป็นพระองค์แรกที่ทำให้คนไทยเห็นคุณประโยชน์ของจารึก   และทรงเป็นนักอ่านจารึกพระองค์แรกของประเทศไทยอีกด้วย
          นอกจากนั้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว   ยังทรงเป็นพระองค์แรกที่เริ่มอ่านและศึกษาศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงเป็นครั้งแรก  และทรงพยายามอ่านจนได้ความตลอดสำเร็จในปีพุทธศักราช  ๒๓๗๙ เนื้อหาของเรื่องในศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง กล่าวถึงพระราชประวัติของพ่อขุนรามคำแหง  กษัตริย์พระองค์ที่ แห่งอาณาจักรสุโขทัย  พร้อมทั้งพระราชกรณียกิจ และพระปรีชาสามารถของพ่อขุนรามคำแหงที่ได้ทรงคิดประดิษฐ์ลายสือไทยขึ้นเมื่อพุทธศักราช  ๑๘๒๖ ซึ่งเป็นรูปอักษรไทยแบบแรก ที่ได้วิวัฒนาการมาเป็นอักษรไทยและใช้เป็นอักษรประจำชาติสืบมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นความในจารึกยังกล่าวถึงสภาพบ้านเมืองขนบธรรมเนียมประเพณี  รวมทั้งความเจริญของพระพุทธศาสนาในอาณาจักรสุโขทัยอีกด้วย
          ระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัยอ่านและศึกษาศิลาจารึกนั้น  สมเด็จพระมหาสมณเจ้า  กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์   ก็ทรงเป็นแม่กองควบคุมคณะนักปราชญ์ราชบัณฑิต  คัดลอกอักษรจากศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงด้วย
          ในปีพุทธศักราช ๒๓๙๘ เซอร์ จอห์นบาวริง (Sir John Bowring) ราชทูตอังกฤษ  ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานสำเนาคัดอักษรพิมพ์หิน พร้อมด้วยลายหัตถ์คำแปลเป็นภาษาอังกฤษบางคำให้แก่  เซอร์ จอห์นบาวริง ซึ่งในปีพุทธศักราช ๒๔๐๐  เซอร์  จอห์นบาวริง ก็ได้นำตัวอย่างสำเนาจารึกที่ได้รับพระราชทานนั้น  พิมพ์เผยแพร่เป็นครั้งแรกในหนังสือ The Kingdom and people of  Siam นอกจากนี้ยังได้พระราชทานสำเนาจารึกให้แก่ราชทูตฝรั่งเศสอีกชุดหนึ่งด้วย
          ต่อมาในปีพุทธศักราช  ๒๔๐๖   นายอดอล์ฟ  บาสเตียน  (Adolf Bastian)  ชาวเยอรมันเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ  และได้แปลจารึกพ่อขุนรามคำแหงเป็นภาษาอังกฤษและได้พิมพ์เผยแพร่ในวารสารชื่อ  Journal of  the  Royal Asiatic Society of Bengal ใช้ชื่อเรื่องว่า On some Siamese Inscriptions
          ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ประมาณระหว่างพุทธศักราช  ๒๔๒๕ - ๒๔๒๘ นายพันตรี เอโมนิเอ (Aymonier) ชาวฝรั่งเศส ผู้สำเร็จราชการกรุงกัมพูชา ได้เที่ยวตรวจหาจารึกของกัมพูชาและได้พบจารึกของไทยโดยบังเอิญจึงรวบรวมไว้ด้วย  เช่น  จารึกศาลเจ้าเมืองลพบุรี พบที่จังหวัดลพบุรี เป็นต้น นับว่าเป็นชาวยุโรปคนแรกที่เสาะหา  รวบรวมจารึก  และได้คัดลอกทำสำเนาจารึกที่รวบรวมได้  ส่งไปเก็บไว้ในหอสมุดแห่งชาติ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
          พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นความสำคัญของจารึกในการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของบ้านเมืองในอดีต และทรงเกรงว่าจะถูกทำลาย จึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพครั้งดำรงพระยศเป็นพระเจ้าน้อยยาเธอ  กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ และข้าหลวงมณฑลต่าง ๆแสวงหารวบรวมจารึกเก็บไว้ในพระนคร
          ต่อมา นายออกูสท์ ปาวี (Auguste Pavie)ชาวฝรั่งเศส ได้เป็นผู้รวบรวมจารึกของไทยโดยได้คัดลอกทำสำเนาจารึกที่เก็บรักษาอยู่ในกรุงเทพฯ  รวมทั้งจารึกที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่  ลำพูน และหลวงพระบาง จำนวน  ๓๑ หลัก และได้มอบสำเนาจารึกที่คัดลอกนั้นให้แก่บาทหลวง สมิธ (Pere  Schmitt)  ที่เมืองฉะเชิงเทรา  แปลเป็นภาษาฝรั่งเศส นับเป็นชาวยุโรปคนแรกที่อ่านแปลจารึกของไทย พิมพ์เผยแพร่ในหนังสือ Mission Pavie,  Indo - China 1879 -1895 ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๔๓๔ นายฟูร์เนอโร (fournereau) ช่างเขียนชาวฝรั่งเศส ได้นำสำเนาจารึก ๑๖ หลักไปพิมพ์ในหนังสือ  Le Siam ancient ในปีพุทธศักราช ๒๔๓๘ (ค.ศ.๑๘๙๕)
         
ในปีพุทธศักราช  ๒๔๕๐  มีชาวต่างประเทศที่สนใจค้นหาจารึกในประเทศไทยรวม  คน คือ พันตรี ลูเนต์ เดอ ลายงเกียร์ (Commt.Lunet de Lajonquiere)  ชาวฝรั่งเศส เป็นผู้เอาใจใส่ค้นหาจารึก และได้พบจารึกสำคัญ ๆ หลายหลัก  ทำสำเนาคัดลอกส่งไปยุโรป และพันตำรวจตรี ไซเดนฟาเดน (Commt. E. Seidenfaden) ชาวเดนมาร์ก เป็นผู้เอาใจใส่ค้นหาของโบราณในเขตภาคอีสาน ได้พบโบราณสถานและโบราณวัตถุจำนวนมาก
          พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖  เมื่อครั้งดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระยุพราช ในปีพุทธศักราช ๒๔๕๑ ได้เสด็จไปจังหวัดกำแพงเพชร  สุโขทัย และสวรรคโลกทรงค้นหาสถานที่ต่าง ๆ โดยสอบกับข้อความในจารึก  พบที่จังหวัดสุโขทัย พร้อมทั้งพระราชทานพระบรมราชาธิบายไว้ในพระราชนิพนธ์เรื่อง เที่ยวเมืองพระร่วง
          ในปีพุทธศักราช  ๒๔๕๒  โปรเฟสเซอร์คอร์นีเลียส บีช แบรดเลย์ (Cornelius  Beach Bradley) ชาวอเมริกัน ได้ชำระและพิมพ์คำแปลจารึกพ่อขุนรามคำแหง  ในหนังสือ  The  Oldest Known Writing in Siamese
          พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยเรื่องราวทางโบราณคดี และประวัติศาสตร์ ทรงเห็นความสำคัญของจารึกในด้านที่เป็นแหล่งข้อมูลเรื่องราวในอดีต   เมื่อเสวยราชย์แล้วได้โปรดเกล้าฯ  ให้รวบรวมจารึกจากที่ต่าง ๆ มารวมไว้ ณ หอพระสมุดสำหรับพระนคร ผู้ที่เป็นกำลังสำคัญในการสำรวจและรวบรวมจารึกครั้งนั้นคือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ  ซึ่งขณะนั้นทรงเป็นสภานายกหอพระสมุดสำหรับพระนครทรงขวนขวายแสวงหาจารึกจากภูมิภาคต่าง ๆทั่วพระราชอาณาจักร ได้ทรงศึกษาวิธีทำสำเนาจารึก และให้เขียนคำแนะนำวิธีทำสำเนาจารึกแจกไปตามหัวเมืองต่าง ๆ เพื่อให้ช่วยทำสำเนาจารึกส่งมาไว้ที่หอพระสมุดฯ  ทำให้รวบรวมจารึกได้เป็นจำนวนมาก  ศิลาจารึกใดที่ยังไม่อาจเคลื่อนย้ายมาได้ก็ให้ทำบัญชีไว้ว่าจารึกหลักใดเก็บอยู่ที่ไหนบ้าง  มีรายละเอียดเกี่ยวกับจารึกบอกไว้ด้วย  จารึกที่รวบรวมได้ในครั้งนั้นสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ  กรมพระยาดำรงราชานุภาพ  โปรดให้ศาสตราจารย์ ยอร์ช  เซเดส์ชาวฝรั่งเศส  ซึ่งเป็นบรรณารักษ์ใหญ่ประจำหอพระสมุดวชิรญาณขณะนั้นอ่านและอธิบายความหมายข้อความในจารึกต่าง ๆ ที่รวบรวมมาไว้ และจัดพิมพ์คำอ่านจารึกขึ้นเป็นหนังสือชุด เรียกว่า ประชุมศิลาจารึก
          นับตั้งแต่มีการจัดพิมพ์หนังสือประชุมศิลาจารึกภาคที่  ครั้งแรกเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๖๗ ก็ได้มีการพิมพ์หนังสือประชุมศิลาจารึกอีกหลายครั้ง  เนื่องจากมีผู้สนใจศึกษาจารึกเพิ่มขึ้น  และได้มีการค้นคว้าหาหลักฐานใหม่ ๆเพื่อประกอบการพิจารณาถ้อยคำและข้อความในจารึกมากขึ้นโดยลำดับ จนถึงปีพุทธศักราช ๒๔๙๗ วิชาการอ่านจารึกก็ได้จัดเข้าไว้ในหลักสูตรการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่คณะโบราณคดีมหาวิทยาลัยศิลปากรจนถึงปัจจุบัน
          การศึกษาจารึกในประเทศไทย เป็นที่เอาใจใส่สนใจในหมู่นักการศึกษาของชาติทุกระดับชั้นจะเห็นได้ว่า นับจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่รัชกาลที่ เป็นต้นมาและพระบรมวงศานุวงศ์แล้ว  ในปัจจุบันสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก็ทรงสนพระราชหฤทัยในวิชาการอ่านจารึกอย่างมากเห็นได้จากวิทยานิพนธ์ที่ทรงพระราชนิพนธ์เพื่อรับพระราชทานปริญญามหาบัณฑิตในสาขาวิชาจารึกภาษาตะวันออก  มหาวิทยาลัยศิลปากรคือเรื่อง จารึกพบที่ปราสาทหินพนมรุ้ง นอกจากนั้นประชาชนทั่วไปทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศต่างก็ให้ความสนใจเอาใจใส่มาโดยตลอด

ประวัติการศึกษาจารึกในประเทศไทย, ประวัติการศึกษาจารึกในประเทศไทย หมายถึง, ประวัติการศึกษาจารึกในประเทศไทย คือ, ประวัติการศึกษาจารึกในประเทศไทย ความหมาย, ประวัติการศึกษาจารึกในประเทศไทย คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

บทความอื่น ของสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 16

สารานุกรมเล่มอื่นๆ

คำยอดฮิต

Sanook.commenu