รักจัดว่าเป็นวัชพืช และพืชเป็นพิษ เป็นไม้พุ่มเนื้ออ่อนอายุหลายปี ต้นขนาดย่อม ไม่สูงมากนัก ขยายพันธุ์ได้โดยใช้เมล็ดและกิ่งปักชำ เริ่มมีดอกเมื่ออายุประมาณ ๑ ปี โดยออกดอกตามยอดของกิ่งเป็นช่อ ใน ๑ ช่อจะมีประมาณ ๑๕-๒๐ ดอก สีขาวและสีม่วง แต่ดอกมักจะร่วงหล่นไปเป็นส่วนใหญ่ ผลหรือฝักคล้ายนุ่นค่อนข้างอวบ ให้ผลดกเมื่ออายุ ๔-๘ ปี ฝักแก่มีเส้นผ่าศูนย์ กลางประมาณ ๔ เซนติเมตร ยาว ๑๐ เซนติเมตร มีรอยแตกตามแนวยาว ภายในมีเส้นใย ซึ่งตรงปลายมีเมล็ดติดอยู่รวมเป็นแท่ง มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑ เซนติเมตร เมื่อฝักแก่จัดจะแตกทำให้เส้นใยฟูและพองตัวกระจายออกปลิวไปตามลมเช่นเดียวกับงิ้ว ฝักจะมีเส้นใยประมาณ ๐.๗ กรัม เมล็ดประมาณ ๑ กรัม เปลือกประมาณ ๑.๓ กรัม ก้านฝักประมาณ ๐.๕ มีผู้กล่าวถึงการใช้ประโยชน์ทางด้านสิ่งทอของรักในประเทศบราซิลและอินเดีย และใช้ประโยชน์แบบปุยนุ่น
รักมีเส้นใยยาว ๑ ๓ - ๓๒ - ๑ ๓๑๖ นิ้ว มีการรายงานว่าต้นรักให้ผลิตผลเส้นใยประมาณต้นละ ๑๒๕ กรัมต่อต้นต่อปี เมื่อนำไปปั่นด้ายทอผ้า ก็เกิดปัญหายุ่งยากมาก ต้องใช้ผสมกับฝ้ายในอัตราครึ่งต่อครึ่ง
ในการปลูกรักแบบสวนผักที่มีร่องน้ำเพื่อเก็บดอกขาย กสิกรมักพบปัญหายางจากต้นรักกัดหรือเป็นพิษต่อมือทำให้ระคายเคือง นอกจากนั้น ในระหว่างดูแลรักษาต้องฉีดพ่นสารกำจัดแมลงทุก ๒ สัปดาห์ สารกำจัดวัชพืชพาราควอท (paraquat) ทุก ๓ เดือน และให้ปุ๋ยยูเรียซึ่งให้ไนโตรเจนทุก ๒ เดือน ถึงแม้จะให้ดอกดกในบางระยะ และมีการปล่อยดอกติดกับต้นไว้ แต่ก็ติดฝักน้อย คือ เพียง ๑๐ ฝักต่อต้น