ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

กระดาษ, กระดาษ หมายถึง, กระดาษ คือ, กระดาษ ความหมาย, กระดาษ คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
กระดาษ

          การพิมพ์หนังสือโดยทั่วไปเป็นการพิมพ์ลงบนกระดาษ   กระดาษที่ใช้พิมพ์หนังสือมีหลายชนิดแต่อาจแบ่งเป็นชนิดใหญ่ๆ ที่ใช้พิมพ์กันโดยทั่วไปเป็นสี่ชนิด คือ
         
          ๑. กระดาษปรู๊ฟหรือกระดาษหนังสือพิมพ์  (newsprint)  เป็นกระดาษที่ทำด้วยเยื่อไม้บดล้วน ราคาถูก แต่ขาดความทนทาน กระดาษชนิดนี้ใช้พิมพ์หนังสือพิมพ์เป็นส่วนใหญ่เพราะอายุการใช้งานของหนังสือพิมพ์มีอายุเพียงวันเดียว นอกจากนี้ยังใช้พิมพ์หนังสือที่ต้องการให้มีราคาถูก เช่น หนังสือฉบับกระเป๋า  หนังสือแบบเรียน โดยทั่วไปในประเทศไทยก็ยังพิมพ์ด้วยกระดาษปรู๊ฟเพื่อให้มีราคาจำหน่ายย่อมเยาและเพื่อที่จะทำให้กระดาษปรู๊ฟมีคุณภาพดีขึ้นสำหรับการใช้พิมพ์งานที่ต้องการคุณภาพสูงขึ้นได้มีการขัดมันบนผิวกระดาษปรู๊ฟโดยลูกกลิ้งที่มีความร้อนขัดผิวกระดาษเป็นกระดาษปรู๊ฟมัน  ทำให้กระดาษมีคุณภาพดีขึ้นสามารถนำมาใช้กับภาพสกรีนและภาพสีได้ดีขึ้น แต่ราคาก็แพงขึ้นไปด้วย
         
          ๒. กระดาษปอนด์ (woodfree paper) เป็นกระดาษที่ทำด้วยเยื่อไม้เคมี  ซึ่งเกิดจากการต้มท่อนไม้ในน้ำยาเคมี  ทำให้สามารถนำเอายางและสารแปลกปลอมแยกออกจากเยื่อไม้เพื่อผลิตเป็นกระดาษ  ทำให้ได้กระดาษที่มีคุณ-ภาพดีและมีความทนทาน  แต่ก็มีราคาสูง โดยทั่วไปกระดาษปอนด์ใช้พิมพ์หนังสือเล่ม นิตยสาร  วารสาร  และงานพิมพ์ที่มีคุณภาพดี  การพิมพ์ภาพสีโดยทั่วไปพิมพ์บนกระดาษปอนด์จะได้สีสวยงามเหมือนต้นฉบับมากกว่ากระดาษปรู๊ฟ  เพราะกระดาษปอนด์มีความขาวมากกว่ากระดาษปรู๊ฟ

         ๓. กระดาษอาร์ตหรือกระดาษเคลือบผิว (Arts  or  coated paper)  เป็นกระดาษที่ผิวของกระดาษเคลือบด้วยสารเคลือบผิว  อาจขัดผิวให้มีผิวมันหรือผิวด้านก็ได้และจะมีผิวเรียบเป็นพิเศษ  ใช้สำหรับพิมพ์ภาพที่เป็นสกรีนเม็ดละเอียด  หรือภาพที่พิมพ์เป็นภาพหลายสี  ภาพสีธรรมชาติให้ได้คุณภาพสูง   มีความสวยงามเป็นกระดาษที่ใช้ในการพิมพ์หนังสือนิตยสารภาพและวารสารที่มีภาพมากๆ  และเน้นในคุณภาพของภาพ  ใช้เป็นกระดาษพิมพ์เป็นปกของหนังสือนิตยสารและวารสาร

         ๔. กระดาษอื่นๆ  หนังสือบางประเภทลักษณะของการใช้งานต้องใช้กระดาษพิเศษที่มีลักษณะเฉพาะนำมาใช้พิมพ์  เช่น หนังสือภาพสำหรับเด็ก  ต้องทนทานต่อการใช้งานของเด็กต้องใช้กระดาษหนาและมีการทรงตัวสูง อาจจะใช้กระดาษหนาเคลือบผิวเรียบทั้งสองหน้า  หรือหนังสือพจนานุกรมฉบับกระเป๋า  เพื่อให้พิมพ์หนังสือได้เล่มเล็กมีหน้ามากและเล่มบาง อาจต้องใช้กระดาษที่มีแผ่นบางเป็นพิเศษแต่พิมพ์แล้วรอยหมึกจะไม่ทะลุผ่านไปในหน้าตรงข้าม  จึงอาจใช้กระดาษไบเบิลพิมพ์ปกหนังสือซึ่งจะต้องมีความแข็งแรงทนทานกว่าเนื้อในของหนังสือเพราะเป็นส่วนที่รักษาเนื้อในของหนังสือเอาไว้  จึงใช้กระดาษที่เรียกว่ากระดาษปกพิมพ์  หรือหากต้องการให้ปกมีความแข็งแรงขึ้นไปอีกก็อาจทำเป็นหนังสือปกแข็ง  ซึ่งต้องใช้กระดาษแข็งหุ้มด้วยกระดาษหุ้มปกผ้าหรือหนังนำมาทำเป็นปกก็ได้  แล้วแต่ว่าจะต้องการให้หนังสือนั้นมีความแข็งแรงทนทานเพียงใด  ยิ่งทำให้แข็งแรงทนทานมาก  ต้นทุนการผลิตก็จะสูงและมีราคาแพงมากขึ้น

          ความทนทานของหนังสือนอกจากจะเกิดจากชนิดของกระดาษที่ใช้พิมพ์แล้ว  น้ำหนักของกระดาษก็มีความสำคัญ  การวัดน้ำหนักของกระดาษในปัจจุบันวัดกันเป็นแกรม  กระดาษที่มีน้ำหนักแกรมสูงกว่าย่อมจะมีความหนามากกว่ากระดาษที่มีน้ำหนักแกรมต่ำกว่า  เช่น  กระดาษ๘๐ แกรมย่อมหนักกว่ากระดาษ ๖๐  แกรมกระดาษจะถูกกำหนดว่ามีน้ำหนักกี่แกรมนั้นหมายถึงน้ำหนักของแผ่นกระดาษชนิดนั้นหนึ่งแผ่นมีเนื้อที่เท่ากับหนึ่งตารางเมตร  นำไปชั่งแล้วมีน้ำหนักกี่แกรมก็เรียกได้ว่ากระดาษเท่านั้นแกรม  เช่น  กระดาษปอนด์แผ่นหนึ่งมีขนาดกว้างหนึ่งเมตรยาวหนึ่งเมตรนำไปชั่งแล้วได้น้ำหนัก  ๕๐  แกรม  กระดาษนั้นก็จะมีชื่อเรียกว่ากระดาษปอนด์ ๕๐ แกรม  กระดาษปรู๊ฟที่ใช้พิมพ์หนังสือพิมพ์และหนังสือโดยทั่วไป  มีน้ำหนักระหว่าง ๔๕ - ๕๒ แกรม  กระดาษปอนด์ที่ใช้ในการพิมพ์หนังสือโดยทั่วไปก็มักเป็นกระดาษปอนด์  ๕๐,  ๖๐  และ ๘๐ แกรมกระดาษอาร์ตที่ใช้กันทั่วไปก็มักเป็นกระดาษอาร์ต ๑๐๐ - ๑๕๐ แกรม  กระดาษปกมีน้ำหนัก๑๓๐ แกรมขึ้นไป และอาจถึง ๒๐๐ หรือ ๓๐๐ แกรม
         
          กระดาษที่จะนำมาใช้พิมพ์อาจเป็นกระดาษแผ่นหรือกระดาษม้วนก็ได้แล้วแต่ลักษณะเทคนิควิธีพิมพ์และแท่นพิมพ์ที่เลือกใช้พิมพ์  เครื่องพิมพ์บางแบบต้องใช้กระดาษแผ่นพิมพ์ซึ่งก็จะต้องตัดให้ได้ขนาดกับความสามารถพิมพ์ของแท่นพิมพ์นั้นๆ ที่จะพิมพ์ได้  กระดาษทุกแผ่นที่จะป้อนพิมพ์บนแท่นพิมพ์จะต้องตัดให้ได้ขนาดตามกำหนดและเท่ากันหมดทุกแผ่น  แท่นพิมพ์บางแบบต้องใช้กระดาษม้วนพิมพ์  กระดาษม้วนที่จะนำมาป้อนพิมพ์ได้ต้องได้ขนาดคือมีหน้ากว้างของม้วนกระดาษเป็นไปตามขนาดของแท่นพิมพ์   สำหรับขนาดหน้ากว้างของแท่นพิมพ์กระดาษม้วนเดี่ยวมีขนาดหน้ากว้าง  ๒๑ ๑/๒,๒๔, ๓๑, ๓๕ และ ๔๓ นิ้ว  และสำหรับแท่นพิมพ์ที่เป็นขนาดใหญ่ใช้กระดาษม้วนคู่พิมพ์ก็จะมีขนาดหน้ากว้างของกระดาษกว้างเป็นสองเท่าของแท่นพิมพ์กระดาษม้วนเดี่ยว  แท่นพิมพ์ที่ใช้กระดาษม้วนพิมพ์เรียกว่าแท่นพิมพ์โรตารี  แท่นพิมพ์โรตารีส่วนใหญ่สามารถพิมพ์บนกระดาษทีเดียวได้สองหน้าพร้อมกัน  และอาจพิมพ์หลายๆ สีพร้อมกันในแต่ละหน้าก็ได้แท่นพิมพ์โรตารีขนาดใหญ่บางแท่นอาจพิมพ์บนกระดาษหลายๆ ม้วนพร้อมกัน  งานพิมพ์บนแท่นโรตารีสามารถพิมพ์ได้รวดเร็ว  จึงเป็นงานที่พิมพ์เป็นจำนวนมาก และต้องการพิมพ์ให้เสร็จในเวลารวดเร็ว  จึงเป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้ในการพิมพ์หนังสือพิมพ์และนิตยสารที่พิมพ์เป็นจำนวนมากโดยทั่วไปและใช้ในการพิมพ์หนังสือเล่ม  หนังสือแค็ตตาล็อกสินค้าที่มีปริมาณพิมพ์สูงๆ คุณภาพการพิมพ์จากแท่นพิมพ์โรตารี    เมื่อเทียบกับแท่นพิมพ์ที่พิมพ์ด้วยกระดาษแผ่นการพิมพ์ด้วยแท่นพิมพ์กระดาษแผ่นสามารถจะให้คุณภาพในการพิมพ์ได้สูงกว่า  ดังนั้นงานพิมพ์ที่ต้องการคุณภาพสูงเป็นพิเศษจึงยังต้องพิมพ์ด้วยแท่นพิมพ์กระดาษแผ่น งานพิมพ์พิเศษต่างๆ  เช่น  การเดินทอง  การพิมพ์โรยผงให้เส้นนูนขึ้นมา  พิมพ์ดุนให้ภาพนูนสูงขึ้น  การตัดกระดาษ  เจาะกระดาษเป็นรูปต่างๆ เป็นงานที่ต้องพิมพ์บนแท่นพิมพ์กระดาษแผ่น

         เมื่องานผ่านขั้นตอนการพิมพ์แล้วก็จะต้องนำมาพับให้แต่ละหน้าของหนังสือซ้อนกันเป็นลำดับจะได้อ่านเรียงต่อเนื่องกันไป เครื่องพิมพ์บางเครื่องจะมีเครื่องพับติดอยู่ตอนปลายของเครื่องพิมพ์   เมื่อพิมพ์ออกมาแล้วก็จะพับออกมาเป็นยกพิมพ์เสร็จในตัว โดยเฉพาะแท่นพิมพ์โรตารีที่ใช้กระดาษม้วนพิมพ์  มักจะพบและตัดเป็นยกพิมพ์เสร็จออกมาจากเครื่อง หนังสือบางชนิด เช่น หนังสือพิมพ์  สามารถพิมพ์และพับเป็นเล่มสำเร็จออกมาจากแท่นพิมพ์และนำออกไปจำหน่ายจ่ายแจกได้จากปลายแท่นพิมพ์ทันที
         
การพิมพ์บนกระดาษแผ่น   มีแท่นพิมพ์เพียงบางแบบเท่านั้นที่พิมพ์ได้ทั้งสองหน้าพร้อมกัน  ส่วนใหญ่ต้องพิมพ์ทีละหน้า  เมื่อพิมพ์ด้านหนึ่งของกระดาษแล้วก็ต้องกลับแผ่นกระดาษไปพิมพ์อีกด้านหนึ่ง  แล้วจึงนำไปพับ กระดาษแผ่นหนึ่งอาจพับสอง  สาม หรือสี่ครั้งเป็นหนึ่งยกพิมพ์  การพับอาจใช้คนพับด้วยมือหรือจะใช้เครื่องพับพับก็ได้  ในขณะนี้ค่าแรงสูงขึ้นในแผ่นหนึ่งมักพับด้วยเครื่องพับซึ่งสามารถพับได้รวดเร็ว   คุณภาพในการพับดีกว่าพับด้วยมือ  และค่าใช้จ่ายก็ประหยัดกว่าด้วย

           กระดาษแผ่นหนึ่งเมื่อพับเป็นหน้าเรียบร้อยเรียกว่ายกพิมพ์    หนังสือเล่มหนึ่งอาจมีหลายยกพิมพ์  และอาจมีแผ่นปลิวคือกระดาษที่พิมพ์เท่ากับขนาดหน้าหนังสือพอดีไม่ต้องพับอีก ยกพิมพ์และแผ่นปลิวจะต้องนำมาจัดเรียงซ้อนกันตามลำดับเป็นเล่มหนังสือ ซึ่งเรียกว่าเก็บเล่ม  การเก็บเล่มอาจใช้คนเก็บด้วยมือโดยหยิบยกพิมพ์และแผ่นปลิวมาเรียงลำดับกันเป็นเล่ม  สำหรับการผลิตหนังสือเป็นจำนวนมากก็มีการใช้เครื่องจักรมาดำเนินการ  คือเครื่องเก็บเล่ม  ยกพิมพ์แต่ละยกจะถูกนำมาป้อนซ้อนๆกันในที่ป้อนยกพิมพ์บนเครื่องเก็บเล่ม  ซึ่งที่ป้อนยกพิมพ์จะมีหลายที่  วางเรียงกันตามลำดับเป็นแถว  ยกพิมพ์ที่นำมาวางบนที่ป้อนยกพิมพ์จะต้องนำมาวางเรียงลำดับกันให้ถูกต้องตั้งแต่ต้นจนจบเล่มหนังสือ  จะมีรางเลื่อนเดินผ่านด้านหน้าของที่ป้อนยกพิมพ์  การเก็บเล่มหนังสือแต่ละเล่มจะมีมือจับด้านหน้าแต่ละยกพิมพ์จับยกพิมพ์จากกองที่ตั้งไว้มาวางที่รางเลื่อนๆจะเลื่อนไปตามลำดับ  มือจับของกองยกพิมพ์ถัดๆ ไปก็จะจับยกพิมพ์ของแต่ละกองมาตั้งซ้อนๆ กันไปตามลำดับจนครบเป็นเล่มหนังสือ  หนังสือเมื่อเก็บเล่มเรียบร้อยแล้วก็จะนำไปเย็บเล่มคือการยึดยกพิมพ์และแผ่นปลิวให้ติดกันเป็นเล่ม  การเย็บเล่มมีหลายวิธี คือ
          ๑. เย็บอกหรือเย็บมุงหลังคา เป็นการนำยกพิมพ์มาเรียงซ้อนกันโดยอ้าอกยกพิมพ์ยกหนึ่งคร่อมทับลงบนยกพิมพ์ยกถัดไป  ซ้อนๆกันจนครบเล่ม  นำปกคร่อมทับบนสุด  แล้วเย็บติดกันเป็นเล่มโดยใช้ลวดเย็บหรือด้ายเย็บเย็บทะลุอกของทุกๆ  ยกพิมพ์  หักปลายลวดตรงกลางอกยึดหนังสือให้ติดกันเป็นเล่ม  หรือใช้ปลายเชือกทั้งสองข้างผูกติดกับตรงกลางอกหนังสือ  หรือเย็บจักรตรงกลางอกหนังสือให้กระดาษทุกแผ่นเย็บติดกัน  หนังสือเย็บอกมักเป็นหนังสือที่บาง  มีหน้าหนังสือไม่มากนักส่วนดีของหนังสือเย็บอกอยู่ที่สามารถเปิดเล่มหนังสือให้กางออกได้เต็มที่
         ๒. เย็บสัน  เป็นการนำยกพิมพ์หนึ่งตั้งซ้อนบนอีกยกหนึ่ง  เรียงซ้อนขึ้นๆ ไปตามลำดับจนครบเล่ม  การเย็บเล่มลักษณะนี้อาจนำแผ่นปลิวตั้งทับซ้อนรวมกันไปกับยกพิมพ์ตามตำแหน่งในเล่มของแผ่นปลิวนั้น  และเย็บแผ่นกระดาษทั้งหมดติดกันด้วยลวดหรือเชือก  หรือเย็บด้วยจักรเย็บ  โดยเย็บด้านข้างของสันหนังสือ  หนังสือเย็บสันสามารถเย็บหนังสือเป็นเล่มได้หนากว่าหนังสือเย็บอก  แต่เมื่อเวลาเปิดเล่มหนังสือกางออกแล้วจะกางออกได้ไม่เต็มที่เพราะส่วนของสันหนังสือส่วนหนึ่งถูกเย็บยึดติดกันไว้  หนังสือเย็บสันจะต้องมีการปิดปกคือนำปกมาผนึกยึดติดกับสันหนังสือด้วยกาว
         ๓. เย็บกี่  เป็นการเย็บอกของยกพิมพ์แต่ละยกด้วยเชือกเส้นเดียวกัน  เย็บจากยกพิมพ์หนึ่งไปอีกยกพิมพ์หนึ่งติดต่อกันไปจนจบเล่มการเย็บกี่นี้สามารถเย็บหนังสือที่เป็นเล่มหนาๆมีหน้ามากให้เป็นเล่มเดียวกันได้  และสามารถเปิดเล่มหนังสือทุกหน้าให้กางออกได้เต็มที่หนังสือเย็บกี่นี้จะต้องมีการปิดปกคือนำปกมาผนึกยึดติดกับสันหนังสือเช่นเดียวกับหนังสือเย็บสัน
         ๔. ไสสันทากาว  การเก็บเล่มจัดทำอย่างเดียวกับการเย็บสันคือนำยกพิมพ์มาตั้งซ้อนกันเรียงกันเป็นเล่ม  แล้วนำเล่มไปเข้าเครื่องไสสันซึ่งจะตัดหรือเลื่อยสันหนังสือให้ขาดออกโดยด้านหน้าของแผ่นหนังสือแต่ละแผ่นจะขาดออกจากกัน  และใช้กาวทาสันหนังสือโดยการพลิกสันหนังสือไปทางด้านซ้ายทากาวครั้งหนึ่งและพลิกสันหนังสือไปทางด้านขวาทากาวอีกครั้งหนึ่ง  ทำให้กาวไปยึดแทรกอยู่ระหว่างแผ่นหนังสือแต่ละแผ่นทั้งด้านหน้าและด้านหลังของแผ่นยึดติดกับแผ่นหน้าและแผ่นหลังติดต่อกันไปทั้งเล่ม  กาวที่ทาสันหนังสืออาจเป็นกาวเย็นคือกาวที่เปิดจากภาชนะบรรจุมาใช้ทาได้เลย  หรือกาวร้อนซึ่งเป็นกาวที่จะต้องมีการทำให้ร้อนบนเครื่องทากาวให้กาวเหลวใช้ทาขณะที่กาวกำลังร้อนๆ การผลิตหนังสือจำนวนมากๆ โดยใช้เครื่องทากาวที่จะต้องทำให้ได้รวดเร็วและได้หนังสือที่ทนทานมาก  มักจะใช้วิธีทำด้วยกาวร้อน   การไสสันทากาวสามารถใช้ทำหนังสือเล่มหนาๆ ได้  และสามารถกางหน้าหนังสือออกได้กว้างเต็มที่   การไสสันทากาวทำได้รวดเร็วและค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการเย็บกี่แต่คุณภาพสู้การเย็บกี่ไม่ได้  หนังสือไสสันทากาวจะต้องปิดปกเช่นเดียวกับหนังสือเย็บกี่หรือเย็บสัน
          ๕. ทำเล่มหนังสือด้วยวิธีกล  คือ การทำเล่มด้วยวิธีอื่นซึ่งมักไม่เป็นการยึดแผ่นกระดาษติดกันอย่างถาวร เช่น การเจาะรู  ร้อยลวด  ร้อยพลาสติก  ยึดแผ่นกระดาษด้วยโลหะหนีบให้ติดกัน  ยึดแผ่นกระดาษด้วยห่วง  ด้วยสกรู  เป็นต้น เป็นการทำเล่มสำหรับหนังสือที่อาจถอดเปลี่ยน  เพิ่มเติม  ส่วนหนึ่งส่วนใดของเล่มหนังสือได้
         หนังสือที่ผลิตควรจะทำเล่มในลักษณะใดย่อมแล้วแต่ลักษณะการใช้งานของหนังสือนั้นๆ  หนังสือเมื่อได้เข้าปิดปกแล้ว ก็จะมีการเจียนเล่มหรือตัดเล่ม   โดยการนำเล่มหนังสือไปตัดด้านบน  ด้านล่าง  และด้านข้างของหนังสือออก  เพื่อให้ส่วนที่เป็นสันพับของยกพิมพ์หนังสือขาดออกทำให้หนังสือสามารถเปิดออกได้ทุกหน้าตลอดเล่ม  การเจียนเล่มอาจนำไปตัดเจียนบนแท่นตัดกระดาษทีละด้าน  หรืออาจนำไปตัดบนเครื่องตัดสามใบมีดซึ่งสามารถตัดหนังสือออกได้ทั้งสามด้านพร้อมกัน
          การผลิตหนังสือเป็นอุตสาหกรรมซึ่งต้องผลิตเป็นจำนวนมาก   การเก็บเย็บเล่ม  เข้าปกและเจียนเล่มหนังสือมีเครื่องจักรที่สามารถจัดทำติดต่อกันไปเสร็จเรียบร้อยในเครื่องเดียวกันเรียกว่าเครื่องเก็บเย็บเล่มหนังสือ   มีทั้งเครื่องที่เก็บเล่มเย็บอก  ซึ่งมักใช้ในการทำเล่มนิตยสาร  และเครื่องที่เก็บเล่มเย็บสัน  ซึ่งมักใช้ในการทำหนังสือเล่มโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือฉบับกระเป๋าและแบบเรียนซึ่งผลิตกันแต่ละรายการเป็นจำนวนมาก  ได้มีการพัฒนาการเก็บยกพิมพ์จากการที่เก็บซ้อนตั้งทับกันขึ้นไปในแนวตั้งเป็นการเก็บเป็นม้วนยกพิมพ์คือแผ่นที่พิมพ์และทำเป็นยกพิมพ์เรียบร้อยแล้ว   จะนำมาเก็บในที่เก็บซ้อนๆ กันเป็นม้วนเครื่องเก็บเย็บเล่มหนังสือที่ป้อนด้วยม้วนยกพิมพ์สามารถผลิตหนังสือได้รวดเร็วกว่าเครื่องที่ป้อนด้วยยกพิมพ์ที่เป็นตั้ง  ทำให้สามารถผลิหนังสือได้รวดเร็วขึ้นมาก
           หนังสือที่ผลิตออกมาเป็นนิตยสาร  วารสาร  และหนังสือที่ใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องเก็บรักษาไว้นานปกติผลิตเป็นหนังสือปกอ่อน โดยใช้ปกที่เป็นกระดาษหนากว่ากระดาษเนื้อในปกจะได้รักษาเนื้อในหนังสือไม่ให้ขาดชำรุดระหว่างการใช้งาน  หนังสือที่ต้องการจะเก็บรักษาไว้นานหรือหนังสือที่ต้องใช้กันบ่อย ใช้กันมากคน เช่น หนังสืออ้างอิงและหนังสือสำหรับห้องสมุด  มักจะจัดทำเป็นหนังสือปกแข็ง  หนังสือปกแข็งมีสองรูปแบบคือ หนังสือปกแข็งที่มีสันตรงและหนังสือปกแข็งที่มีสันโค้ง  หนังสือปกแข็งที่มีสันตรงนั้น  เมื่อเก็บเย็บเล่มเนื้อในหนังสือเรียบร้อยแล้ว  ก็จะเจียนเล่มเฉพาะเนื้อในให้เรียบร้อยแล้วนำมาเข้าเล่มเป็นปกแข็ง  ส่วนปกแข็งที่มีสันโค้งนั้นจะต้องเอาเนื้อในที่เก็บเย็บเล่มและเจียนเล่มเรียบร้อยแล้วนั้นมาทำเป็นสันโค้งเสียก่อน โดยเอาเนื้อในเล่มหนังสือมาเข้าเครื่องหนีบเล่มไว้ และใช้เครื่องมือทุบสันทำโค้งทำให้สันหนังสือเป็นรูปโค้ง
         ปกของหนังสือปกแข็งประกอบด้วยวัสดุหุ้มปก  อาจเป็นกระดาษซึ่งจะพิมพ์แล้วนำมาหุ้มเป็นปกแข็ง หรือใช้กระดาษหุ้มปกแข็งซึ่งผลิตเป็นพิเศษทำผิวเลียนแบบผ้าหรือหนังหรือจะใช้ผ้าพลาสติกหรือหนังแท้หุ้มเป็นปกแข็งก็ได้  แล้วแต่ว่าจะต้องการให้ได้คุณภาพอย่างใด  วัสดุหุ้มปกจะต้องคำนวณตัดให้ได้ขนาด  เมื่อหุ้มทำเป็นปกแข็งแล้วไปประกอบกับเนื้อในเป็นเล่มหนังสือได้พอดี หนังสือปกแข็งจะมีกระดาษแข็งสองแผ่นเป็นปกด้านหน้าและด้านหลัง  ตัดโตกว่าขนาดหน้าของหนังสือเล็กน้อยเพราะปกแข็งจะยื่นเลยแผ่นกระดาเนื้อในออกไปทั้งด้านขอบบน  ขอบล่างและขอบด้านข้างของหนังสือ  เพื่อกันไม่ให้แผ่นกระดาษเนื้อในกระทบกับสิ่งของต่างๆ ขณะใช้งานกระดาษแข็งจะเลือกเอาขนาดหนาหรือบางอย่างใด  เป็นไปตามที่ผู้ผลิตจะกำหนด  กระดาษยิ่งหนาความทนทานก็จะยิ่งมีมาก   แต่ราคาก็จะแพงขึ้นนอกจากกระดาษแข็งส่วนปกสองแผ่นแล้วยังมีกระดาษรองสันปกซึ่งอาจใช้กระดาษบางลงไปกว่ากระดาษแข็งส่วนปกได้  จะตัดให้ได้ขนาดเล็กกว่าความหนาของสันหนังสือเล็กน้อย  เพื่อป้องกันสันปกและเว้นช่องว่างระหว่างกระดาษแข็งรองปก  และกระดาษรองสันปกเพื่อให้สะดวกแก่การเปิดปิดหนังสือ  ใช้กาวผนึกกระดาษรองปกหนังสือ  กระดาษรองสันหนังสือลงบนวัสดุหุ้มปกหนังสือตามตำแหน่งที่กำหนดไว้แล้วพับขอบวัสดุหุ้มปกหนังสือ  ผนึกยึดกระดาษแข็งหุ้มปกและกระดาษหุ้มสันหนังสือไว้โดยรอบทั้งสี่ด้าน  ก็จะได้ปกแข็งที่จะนำไปประกอบเป็นเล่มหนังสือ  ปกแข็งนี้จะนำไปเดินทอง  ไปดุนนูน  ดุนลึก  หรือพิมพ์ให้สวยงามก็อาจทำได้ก่อนนำไปเข้าเล่ม การเก็บเย็บเล่มเนื้อในหนังสือที่จะนำไปเข้าเล่มเป็นปกแข็งจะต้องมีแผ่นผนึกปกและแผ่นปลิวรองปกผนึกติดอยู่ที่ด้านหน้าและด้านหลังของเล่มเนื้อในการนำปกแข็งไปเข้าเล่มกับเนื้อใน  ทำโดยการผนึกแผ่นผนึกปกทั้งด้านหน้าและด้านหลังติดกับแผ่นปกแข็งด้วยกาว
         หนังสือปกแข็งอาจมีกระดาษหุ้มปกซึ่งพิมพ์ตามที่ออกแบบให้สวยงาม  พับปลายสอดไปทางข้างหลังของปกหน้าและหุ้มอยู่ด้านนอกของปก  คลุมไปตลอดจนถึงด้านหลังและพับปลายสอดไปทางด้านหน้าของปกหลัง

กระดาษ, กระดาษ หมายถึง, กระดาษ คือ, กระดาษ ความหมาย, กระดาษ คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

บทความอื่น ของสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 16

สารานุกรมเล่มอื่นๆ

คำยอดฮิต

Sanook.commenu