จากงานวิจัยพบว่า นโยบายโรงเรียนปลอดบุหรี่ ซึ่งห้ามสูบบุหรี่ทั้งครูและนักเรียน จะทำให้นักเรียนให้ความร่วมมือไม่สูบบุหรี่ในโรงเรียนมากขึ้น และจะนำไปสู่การไม่สูบบุหรี่ในที่สุด
เด็กส่วนใหญ่คิดว่า การห้ามสูบบุหรี่ในโรงเรียนเป็นหน้าที่ของครู และในสายตาของเด็ก ครูน่าจะไม่สูบบุหรี่ด้วย จากการวิจัยพบว่า อัตราของการสูบบุหรี่ที่เพิ่มสูงขึ้นในโรงเรียนเพราะมีครูที่สูบบุหรี่ในโรงเรียน โดยเฉพาะถ้าโรงเรียนนั้นมีครูระดับบริหารที่สูบบุหรี่ อัตราการสูบบุหรี่ในโรงเรียนก็จะยิ่งสูงมาก ดังนั้นนโยบายโรงเรียนปลอดบุหรี่จึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการป้องกันการสูบบุหรี่ของวัยรุ่น
มาตรการในการป้องกันไม่ให้เยาวชนเสพติดบุหรี่และช่วยให้ผู้ที่เสพติดบุหรี่อยู่แล้วเลิกสูบมีความสำคัญเท่าๆ กัน โดยการป้องกันไม่ให้เยาวชนเสพติดบุหรี่เป็นการป้องกันความสูญเสียจากการสูบบุหรี่ใน ๒๐ - ๓๐ ปีข้างหน้า ในขณะที่การช่วยให้ผู้ที่เสพติดบุหรี่อยู่แล้วเลิกสูบได้ นับเป็นการป้องกันความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้
ดูเพิ่มเติมเรื่อง โรคมะเร็ง ยาเสพติดให้โทษ และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เล่ม ๙ ยาสูบ เล่ม ๑๕ และอาชีวอนามัย เล่ม ๒๒