โรคของเลือด
โรคของเลือด, โรคของเลือด หมายถึง, โรคของเลือด คือ, โรคของเลือด ความหมาย, โรคของเลือด คืออะไร
เลือดประกอบด้วยเซลล์ที่สำคัญ ๓ ชนิด คือเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด ในผู้ใหญ่เม็ดเลือดทั้ง ๓ ชนิดนี้ ถูกสร้างภายในไขกระดูกของร่างกาย และอัตราของการสร้างในคนปกติจะสมดุลกับอัตราการทำลายของเม็ดเลือดในภาวะนั้น โดยที่ร่างกายยังมีความสามารถในการสร้างเม็ดเลือดเพิ่มขึ้นเพื่อสำรองไว้ใช้ด้วยเมื่อจำเป็น ความโน้มเอียงในการตกเลือดอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุ ๓ ประการด้วยกัน กล่าวคือ
๑. ความผิดปกติของหลอดเลือดฝอย เช่นหลอดเลือดฝอยเปราะ ทำให้มีการตกเลือดได้โดยง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการตกเลือดตามผิวหนัง เมื่อร่างกายได้รับภยันตรายแม้แต่เพียงเล็กน้อย
๒. ความผิดปกติของเกล็ดเลือด เช่น มีจำนวนของเกล็ดเลือดในเลือดลดลงกว่าปกติ หรือมีจำนวนเกล็ดเลือดปกติแต่มีคุณภาพของเกล็ดเลือดผิดปกติ
๓. ความผิดปกติของขบวนการกลายเป็นลิ่มของเลือด เช่น ขาดสารที่จำเป็นสำหรับการเป็นลิ่มของเลือด เช่น ขาดโกลบุลิน (globulin) ต้านฮีโมฟิเลีย (hemophilla) ทำให้เกิดโรคฮีโมฟีเลีย เป็นต้น
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukaemia) เป็นโรคซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากการขยายตัวและการแบ่งตัวอย่างผิดปกติของเม็ดเลือดขาว ตลอดทั่วร่างกาย โดยที่ไม่ทราบสาเหตุแน่นอน และถือว่าเป็นเนื้องอกประเภท หนึ่ง จากการศึกษาปรากฏว่าผู้ป่วยที่ได้รับรังสี หรือไอโซโทปเกินปกติ มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวมากขึ้น
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวอาจแบ่งได้เป็นชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรัง และยังอาจจะแบ่งได้ตามชนิดของเซลล์ที่พบว่าเป็นเม็ดเลือดขาวประเภทใด เช่น ลิมโฟไซต์ ไมอีลอยด์ (mieloid) หรือโมโนไซต์ เป็นต้น
โรคมะเร็งเลือดขาวเฉียบพลัน แบ่งได้ตามชนิดของความผิดปกติของเซลล์ที่พบ เช่น ลิมโฟบลาสต์ (lymphoblaste) ไมอีโลบลาสต์ (mieloblaste) และ โมโนบลาสต์ (monoblaste) โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันอาจพบได้ในทุกอายุและทุกเพศ โดยเฉพาะพบได้บ่อยในวัยเด็ก ซึ่งมีอาการที่สำคัญคือ ผู้ป่วยจะมีอาการซีดอย่างรวดเร็วร่วมกับอาการเลือดออก
ตามผิวหนัง และอาการของการติดเชื้อ ทั้งนี้เพราะเม็ดเลือดขาวที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นนั้นผิดปกติ ไม่สามารถที่จะสร้างแอนติบอดีได้ อาการอื่นๆที่อาจพบได้ ได้แก่อาการปวดตามกระดูก ต่อมน้ำเหลืองโต อาเจียนท้องเดิน และผื่นผิวหนัง ผู้ป่วยมักมีอาการเริ่มต้นเร็วโดยมีอาการไข้ เจ็บคอ การอักเสบของทางเดินหายใจมีเลือดออกและมีอาการอ่อนเพลียลงอย่างมากเนื่องจากมีอาการซีด
การวินิจฉัยโรคที่สำคัญ จำเป็นต้องอาศัยการตรวจเลือด ซึ่งจะปรากฏว่าจำนวนเม็ดเลือดขาวในเลือดเพิ่มขึ้นประมาณ ๒๐,๐๐๐-๕๐,๐๐๐ ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ โดยที่จะมีเซลล์อ่อนของเม็ดเลือดขาวในเลือดเพิ่มขึ้นแล้วแต่ชนิดที่พบว่าเป็นลิมโฟบลาสต์ ไมอีโลบลาสต์ หรือโมโนบลาสต์ ผู้ป่วยบางรายอาจจะมีจำนวนเม็ดเลือดขาวในเลือดปกติ ซึ่งอาจ เรียกว่าโรคมะเร็งของเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดจำนวนเม็ดเลือดขาวปกติ การตรวจเลือดมักจะปรากฏว่ามีเฮโมโกลบิน จำนวนเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดลดลงด้วยเสมอ การตรวจไขกระดูกจะสนับสนุนการวินิจฉัยโรคโดยที่จะปรากฏว่ามีการขยายตัว และมีจำนวนของเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ
โรคมะเร็งของเม็ดเลือดขาวเรื้อรังไมอีลอยด์มักพบในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในวัยกลางคนและพบได้บ่อยในชายมากกว่าหญิง อาการที่สำคัญที่พบได้บ่อยเป็นอาการซีดและอาการแสดงม้ามโต อาการอื่นๆ ที่อาจพบได้ ได้แก่ อาการใจสั่น เหนื่อยง่าย ซึ่งเป็นอาการที่แสดงว่ามีอัตราของเมแทบอลิซึมของร่างกายเพิ่มขึ้น มีอาการเลือดออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ผิวหนัง อาการปวดตามกระดูกหรือข้อ อาการผิดปกติของประจำเดือน และอาการผื่นผิวหนัง เป็นต้น
การวินิจฉัยโรคที่สำคัญ จำเป็นต้องอาศัยการตรวจเลือดซึ่งจะปรากฏว่าจำนวนเม็ดเลือดขาวมีจำนวนเพิ่มขึ้น
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวลิมฟาทิก (lymphatic)มักพบในชายหลังวัยกลางคนเป็นส่วนใหญ่ และมีอาการที่สำคัญที่พบได้บ่อย คือ มีอาการของต่อมน้ำเหลืองโต อาการซีด อาการเลือดออกตามผิวหนังหรือภายในอาการซึ่งแสดงว่ามีอันตรายของเมแทบอลิซึมของร่างกายเพิ่มขึ้น เลือดจากเฮโมไลทิกชนิดเกิดตามมาภายหลัง อาการปวดตามข้อและกระดูก อาการของระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย หรือท้องร่วง และอาการม้ามโต เป็นต้น ต่อมน้ำเหลืองต่างๆที่โตขึ้นดังกล่าว อาจเกิดขึ้นภายในและจะกดอวัยวะต่างๆ ของร่างกายทำให้มีอาการได้
การวินิจฉัยโรคที่แน่นอนจำเป็นต้องอาศัยการตรวจเลือดเช่นเดียวกัน ซึ่งจะปรากฏว่าจำนวนเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น
(ดูเพิ่มเติมเรื่อง กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา และ เลือดและธนาคารเลือดในประเทศไทย เล่ม ๘)
โรคของเลือด, โรคของเลือด หมายถึง, โรคของเลือด คือ, โรคของเลือด ความหมาย, โรคของเลือด คืออะไร
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!