Family Noctuidae Order Lepidoptera
ถิ่นแพร่ระบาด
อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลักษณะของแมลง
ไข่ มีลักษณะกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๐.๕ มิลลิเมตร สีเขียวอมน้ำเงิน เมื่อยังใหม่มีสันตามยาวประมาณ ๓๐ สัน ซึ่งทำให้เกิดเป็นรูปมงกุฎขึ้นที่ตรงส่วนบนของไข่
หนอน หนอนโตเต็มที่จะยาวประมาณ ๑๕-๑๘ มิลลิเมตร ตัวป้อม มีขนแข็งยาวทุกปล้อง พื้นสีน้ำตาลอ่อนปนด้วยสีเทาและสีเขียว ส่วนหลังสีขาวซีด โดยมีจุดดำที่ฐานของขน
ดักแด้ มีสีน้ำตาล ยาวประมาณ ๑๓ มิลลิเมตร ห่อหุ้มด้วยรัง (cocoon) เป็นรูปเรือคว่ำ สีน้ำตาลซีด หรือ สีนวล
ตัวแก่ เวลาเกาะ ปีกจะพับชนกันเป็นรูปหลังคา ตัวยาว ๑๒ มิลลิเมตร ปีกเมื่อกางยาว ๒๐-๒๒ มิลลิเมตร ปีกหลังสีขาวนวล ปีกหน้ามีแถบสีเขียวพาด เป็นแผ่นตลอดกลางปีก
ชีวประวัติและนิสัย
ผีเสื้อวางไข่ทีละฟองเกือบทุกส่วนของต้นฝ้าย หนอนมีลักษณะพิเศษผิดกับหนอนเจาะสมออื่น ๆ คือ เจาะลำต้น หนอนเจาะเข้าไปทางส่วนยอด เป็นทางลึกลงไปกัดกินเฉพาะเนื้ออ่อน ทำให้ยอดฝ้ายเหี่ยวหักพับไป ในการกินดอกสมอ หนอนเจาะเป็นทางเข้าไปข้างใน แล้วอุดรูไว้ด้วยมูล ถ้าสมอโตหนอนมันจะเจาะกินตรงใกล้ขั้วสมอ หนอนไม่กินอยู่เพียงเฉพาะที่เดียว แต่จะกัดกินสมอข้างเคียงเรื่อย ๆ ไป จนกระทั่งเข้าดักแด้
หนอน มี ๕ ระยะ ลอกคราบภายในอุโมงค์ เมื่อจะเข้าดักแด้หนอนจะสร้างรังตามส่วนต่าง ๆ ของต้นฝ้าย มักพบตามข้างสมอ ใบเลี้ยง ใบแห้ง ตอนกลางวันตัวแก่หลบซ่อนในที่มืด ออกหากินในเวลากลางคืน อาหารของผีเสื้อ คือ น้ำหวานชนิดต่างๆ
ชีพจักร
ผีเสื้อตัวหนึ่งวางไข่ได้ ๔๐-๒๙๘ ฟอง (เฉลี่ย ๑๑๕ ฟอง)
ระยะไข่ ๓ วัน
ระยะหนอน ๙ วัน ลอกคราบ ๔ ครั้ง
ระยะเป็นดักแด ๑๑ วัน
ตัวแก่ ๗-๑๔ วัน
รวมอายุขัย ๒๐-๒๙ วัน
พืชอาศัย
กระเจี๊ยบ ครอบจักรวาล ปอแก้ว กระเจี๊ยบผี
ศัตรูธรรมชาติ
มีแตนเล็ก ๆ (ichnuemonid wasp) ชนิดหนึ่งที่พบในเมืองไทย
ลักษณะการทำลายและความเสียหาย
ในขณะที่ฝ้ายยังเล็กอยู่ คือ ยังไม่มีดอกและสมอ หนอนจะเจาะยอดทำให้ยอดฝ้ายเหี่ยวแห้งตาย เป็นสาเหตุให้ฝ้ายไม่เจริญขึ้นทางยอด แต่จะแตกกิ่งก้านสาขาออกข้าง ๆ ทำให้ต้นฝ้ายทึบ เสียรูปทรง ผลที่ตามมา คือ เข้าปฏิบัติงานได้ยาก พ่นยาลำบากและไม่ทั่วถึง และเมื่อฝ้ายติดสมอมากเป็นเหตุให้กิ่งหัก
ตาดอก ดอกอ่อน และสมออ่อน เมื่อถูกหนอนเจาะจะร่วง สำหรับสมอที่มีขนาดโตจะไม่ร่วง แต่บางส่วน ของสมอจะเน่า อาจจะได้ปุยบ้างบางส่วนหรืออาจไม่ได้เลย
หนอนชนิดนี้เพียงชนิดเดียวเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ที่สถานีกสิกรรมศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ได้ทำความเสียหาย ทำให้ฝ้ายลดลงประมาณร้อยละ ๓๓