ในพื้นที่ที่ใกล้เส้นทางคมนาคม ทั้งที่เป็นที่ราบและเนินเขา เพื่อทำไร่มันสำปะหลัง ปอ ข้าวโพด ข้าวฟ่าง อ้อย และพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ ซึ่งลุกลามไปทั่วทุกภาคของประเทศ โดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสมระหว่างที่ดินกับการเพาะปลูก แม้ภยันตรายชนิดนี้จะมีความเสียหายน้อยกว่าการทำลายป่าประเภทแรกก็ตาม แต่ต้นไม้มีค่า เช่น ไม้สัก ยาง ประดู่ แดง ตะเคียนทอง ฯลฯ หลายล้านต้น ซึ่งควรจะทำออกไปใช้ประโยชน์ ได้ถูกเผาทำลายเป็นเถ้าถ่านไปเป็นจำนวนมาก เพราะพื้นที่ป่าส่วนใหญ่ที่ถูกบุกรุกเป็นป่าสงวนหรือเตรียมการสงวนของรัฐ ราษฎร หรือนายทุนผู้บุกรุกป่าจึงไม่นำพาที่จะบำรุงดินให้สมบูรณ์ คงใช้การเพาะปลูกแบบสุกเอาเผากิน ผลิตผลของพืชไร่ก็จะดีอยู่เพียง ๒ - ๓ ปีแรก ครั้นแล้ว ก็ลดลงทั้งปริมาณและคุณภาพ ในที่สุดก็ไม่สามารถจะใช้เพาะปลูกได้อีก เพราะดินจืดหรือมีวัชพืชปกคลุมหนาแน่น จึงไปบุกรุกโค่นเผาทำลายป่าไม้แห่งอื่นต่อไป
การกระทำดังกล่าวนอกจาก ทำให้ประเทศต้องสูญเสียต้นไม้มีค่า โดยถูกเผาผลาญลงเป็นเถ้าถ่านหลายล้านต้นต่อปีแล้ว ยังทำให้ความสมบูรณ์ของดินทั้ง ในด้านเคมีและฟิสิกส์เสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว เป็นอาณาบริเวณกว้างขวางขึ้นเป็นลำดับด้วย แม้ว่าประเทศไทยจะมีรายได้จากพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้และส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศปีละหลายพันล้านบาท แต่ก็เท่ากับได้ส่งต้นทุนของดินอันล้ำค่าในรูปของ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ออกไปปีละหลายสิบล้านตัน เพื่อแลกกับเครื่องจักรกล รถยนต์ เครื่องสำอาง หรือแม้แต่เนื้อ นม เนย ในที่สุดผืนแผ่นดินไทยก็จะเหลืออยู่แต่เพียงหิน กรวด ทราย ที่ใช้เพาะปลูกไม่ได้