โรคผิวหนังที่มีลักษณะเป็นตุ่มพองน้ำ มีอยู่หลายโรคด้วยกัน แต่ที่มีความรุนแรงมากจนถึงชีวิต และพบได้เสมอนั้น คือ เพมฟิกัสวัลคาริส (pemphigus vulgaris) ซึ่งมักจะเป็นในผู้ใหญ่มากกว่าในเด็ก
สาเหตุที่แน่นอนของเพมฟิกัสยังไม่ทราบชัดแต่เท่าที่ได้มีการศึกษากันพบว่ามีกลไกทางภูมิคุ้มกันตัวเอง (autoimmune) เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง
ลักษณะของเพมฟิกัสวัลคาริสนั้น คือ มีตุ่มพองน้ำแฟบๆ และแตกง่าย เมื่อแตกมีน้ำเหลืองออกแล้ว ก็จะกลายเป็นแผลตื้นๆ ซึ่งอาจใหญ่มากขึ้นโดยลามออกไปตามขอบของแผล ฐานของผื่นนั้นอาจเป็นผิวหนังปกติหรือมีสีแดงของการอักเสบก็ได้ ตำแหน่งที่พบว่าเป็นบ่อยๆ คือ ศีรษะ หน้าอกหน้าท้อง และบริเวณที่ผิวหนังเสียดสีกัน นอกจากนี้ที่เยื่อมูกก็มักจะเป็นได้เสมอ เช่น ที่ในปากซึ่งจะทำให้เจ็บมากและกลืนอาหารลำบาก ทั้งอาจลามต่ำลงไปถึงคอหอย และกล่องเสียงทำให้เสียงแหบได้
อาการคันไม่ค่อยจะมี แต่มักจะเจ็บมากกว่าโดยเฉพาะตรงที่เป็นแผลเพราะผิวหนังลอกออก แผลที่ผิวหนังนี้จะหายช้ามากและเมื่อหายแล้วจะมีสีเข้มกว่าธรรมดา โดยไม่เป็นแผลเป็น
นอกจากเพมฟิกัสวัลคาริส ซึ่งพบได้เสมอแล้วเพมฟิกัสยังมีลักษณะอื่นๆ อีก ที่พบน้อย เช่น เพมฟิกัสโฟลิเอเซียส (pemphigus foliaceus) และเพมฟิกัสเอริทีมาโทซัส (pemphigus erythematosus)
ส่วนโรคของผิวหนังที่เป็นตุ่มพองน้ำชนิดอื่นๆ ยังมีอีกหลายโรค เช่น โรคดูห์ริง (Duhring's disease) บุลลูสเพมฟิกอยด์ (bullous pemphigoid) เอพิเดอร์โมลิซิสบุลโลซา (epidermolysis bullosa) และเอริทีมามัลทิฟอร์ม (erythema multiform) เป็นต้น