พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นอัจฉริยะ และทรงพระปรีชาสามารถหลายด้านทั้งในด้านศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การศึกษา รัฐศาสตร์ และสังคมศาสตร์ ทรงพระวิริยะอุตสาหะ ศึกษาเรื่องราวต่างๆ ด้วยพระองค์เอง ด้วยพระปรีชาญาณ ทรงวางแผนงานเพื่อช่วยเหลือราษฎรอย่างรอบคอบ ประกอบด้วยข้อมูลจากการวิจัยจากสภาพที่เป็นจริง และวิชาการที่ใช้ประโยชน์ได้ดี ในการแก้ไขปัญหาทั้งในระยะเร่งด่วน และการพัฒนาในระยะยาวที่ยั่งยืนทรงแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และทรงนำทรัพยากรธรรมชาติมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์มหาศาลพร้อมทั้งไม่ก่อให้เกิดปัญหาอีกรูปแบบหนึ่งในขณะเดียวกัน ทรงชี้นำให้ราษฎรตระหนักในคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติ และมั่นใจในศักยภาพของตนในการแก้ปัญหา และพัฒนาให้สามารถมีอาชีพพึ่งพาตนเองได้ตลอดไป ได้พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการศึกษาหาความรู้ และทักษะในการประกอบอาชีพ ในการพัฒนาจิตใจและคุณธรรม ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เครื่องอุปโภคบริโภคและพระบรมราชานุเคราะห์ด้านสุขภาพ พลานามัย เพื่อให้งานในโครงการโดยพระราชดำริสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บรรดาหัวหน้าหน่วยราชการและข้าราชการในพระองค์ที่เกี่ยวข้องเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทน้อมรับข้อราชการที่พึงปฏิบัติ เมื่อถึงเวลาสมควรจะเสด็จพระราชดำเนินทรงติดตาม และประเมินผลด้วยพระองค์เอง
พระราชกรณียกิจที่ทรงบำเพ็ญเพื่อการบำบัดทุกข์บำรุงสุข และสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย ได้เริ่มตั้งแต่พุทธศักราช ๒๔๙๓ ในทศวรรษแรกที่ครองราชสมบัติ เป็นพระมหากรุณาธิคุณด้านการแพทย์ และสังคมสงเคราะห์ เนื่องจากในระยะนั้น การแพทย์ของไทยและการบริการด้านสาธารณสุขยังไม่เจริญเท่าที่ควร ต่อมาจึงได้ขยายเป็นการช่วยเหลือชาวชนบทในการประกอบอาชีพ และการพัฒนาโครงสร้างด้านคมนาคม และชลประทานเพื่อการเกษตร โครงการหลายพันโครง การที่เกิดขึ้นจากพระราชดำริในตอนแรก อาจแบ่งได้เป็น ๒ ลักษณะ คือ โครงการที่มีลักษณะศึกษาค้นคว้าทดลองเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลแท้จริง และประสบการณ์ที่จะนำมาซึ่งความรู้ในวิธีการและแนวทางที่แก้ไขปัญหา และดำเนินการพัฒนาให้ได้ผลดี เหมาะสมกับสภาพสังคมและสภาพแวดล้อมในแต่ละท้องถิ่นลักษณะหนึ่ง อีกลักษณะหนึ่งคือ เพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหาหลักของเกษตรกร ผู้ประสบปัญหาและอุปสรรคมากขึ้นทุกขณะในหลายๆ ด้านพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยใช้การพัฒนาแบบผสมผสาน (lntegrated Development) ทรงเริ่มจากพื้นที่รอบๆ ที่ประทับในส่วนภูมิภาค แล้วขยายไปสู่สังคมเกษตรในพื้นที่กว้างขึ้น
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริได้แบ่งประเภทโครงการอย่างกว้างๆ ตามชื่อที่เรียกแตกต่างกันไปดังนี้
เป็นโครงการเฉพาะเพื่อการพัฒนา และบำรุงรักษาต้นน้ำลำธาร ในบริเวณป่าเขาในภาคเหนือ เพื่อบรรเทาอุทกภัยในที่ลุ่มอันเกิดจากน้ำป่าหลาก เนื่องจากบริเวณป่าเขาทางภาคเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆ ซึ่งมักโค่นป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอยปลูกข้าว พืชไร่ และปลูกฝิ่น ทรงใช้โอกาสนี้พัฒนาชีวิตของชาวไทยภูเขาด้วยการทรงแนะนำให้ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น แอปเปิล ข้าวและดอกไม้เมืองหนาว แม้ว่าจะต้องเสด็จพระราชดำเนินไปในถิ่นที่ทุรกันดาร เพื่อทรงเยี่ยมเยียนและพระราชทานแนวทางดำเนินการแก่ชาวไทยภูเขาหลายครั้ง ก็มิได้ทรงท้อถอย การพัฒนาจึงค่อยๆ มีผลดีขึ้นตามลำดับ พระราชดำริในการปลูกพืชอื่นทดแทนการปลูกฝิ่นได้รับการยกย่องจากนานาประเทศว่า เป็นวิธีปราบปรามการผลิตยาเสพย์ติดไต้อย่างดีประการหนึ่ง