วัฒนธรรมของรัฐลวปุระหรือละโว้ในประเทศไทยนั้น เป็นวัฒนธรรมที่กล่าวได้ว่าในระยะแรกสืบทอดมาจากวัฒนธรรมทวารวดี จนเมื่อเมืองพระนคร หรือขอมโบราณ มีอำนาจแผ่อิทธิพลมาทางตะวันออกเฉียงเหนือสู่ภาคกลางของรัฐทวารวดีในราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๖รูปแบบศิลปกรรมในศาสนาฮินดูและพุทธศาสนาลัทธิมหายานจากเมืองพระนครได้เข้ามาเป็นที่นิยมและเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ แห่งเมืองพระนคร โดยมีศูนย์กลางความเจริญอยู่ที่เมืองลวปุระ (ละโว้) ดังนั้นศิลปกรรมของภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในประเทศไทย ที่มีรูปแบบที่คล้ายกับขอมโบราณ เรียกว่า "ศิลปะลวปุระหรือลพบุรี" แม้ว่าจะมีรายละเอียดของลักษณะงานศิลปกรรมที่แตกต่างออกไปบ้างตามรสนิยมของคนท้องถิ่นนี้ ที่นิยมความอ่อนช้อยนุ่มนวลมากกว่าความแข็งกระด้างที่แสดงพลังแห่งอำนาจที่แฝงอยู่ภายใน อันเนื่องจากพลังแห่งตรีมูรติในศาสนาฮินดูร่วมกับหลักธรรมของพุทธ-ศาสนามหายานลัทธิวัชรยาน อันก่อให้เกิดลัทธิเทวราชาและพุทธราชาขึ้น
เครื่องถ้วยสมัยลพบุรีมีแหล่งผลิตที่สำคัญอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อำเภอบ้านกรวด และอำเภอละหานทราย ได้พบแหล่งเตาเผาโบราณจำนวนมาก ลักษณะเครื่องถ้วยสมัยลพบุรีเป็นเครื่องถ้วยเคลือบสีเขียวใสแบบสีน้ำแตงกวา เครื่องถ้วยเคลือบสีน้ำตาล และเครื่องถ้วยชนิดไม่เคลือบ ทุกแหล่งเตาเผาจะผลิตของคล้ายกันเกือบทุกประเภท เช่น ตลับทรงฟักทองตลับลูกพลับ กระปุกขนาดเล็ก กระปุกรูปนกประติมากรรมรูปสัตว์ เช่น แพะ ช้าง ม้า กระต่าย
ซึ่งมีทั้งแบบตันเป็นรูปสัตว์จริงๆ หรือทำเป็นกระปุกหรือคนทีก็มี นอกจากนี้มีชาม ถ้วยตะคันทรง ชาม โถทรงโกศ โถทรงแตง ไหเท้าช้าง ไหไม่มีเชิงขนาดต่างๆ ตั้งแต่ขนาดสูง ๓๐-๘๐ เซนติเมตร ไหเหล่านี้บางครั้งก็ประดับเป็นรูปหน้าคนที่ส่วนคอไห หรือบางครั้งก็ประดับด้วยรูปหัวช้าง หัวม้า หรือหัวกวาง ตามบริเวณไหล่ของไห นอกจากนี้ลักษณะการตกแต่งภาชนะมีทั้งการใช้ลายกลีบบัว ลายขูดขีด ลายกากบาทชั้นเดียว ลายกากบาทสองชั้น ลายซิกแซก ลายเส้นคดโค้ง ลายคลื่น ลายโค้งแบบระย้า และลายหวี เครื่องปั้นดินเผาเหล่านี้จะขึ้นรูปด้วยแป้นหมุนรอยในเนื้อดินปั้นที่ก้นภาชนะจะมีลักษณะเป็นวงหมุนเวียนขวาซึ่งเกิดจากการใช้แป้นหมุนอย่างเด่นชัด ส่วนลวดลายพิเศษที่ใช้ประดับ เช่น รูปหัวช้าง หัวม้า หรือรูปศีรษะคน ก็ใช้แม่พิมพ์กดออกมาแล้วนำมาต่อเข้ากับตัวภาชนะ เช่น ไหหรือคนโท ที่ขึ้นรูปไว้แล้ว จากนั้นจึงชุบน้ำเคลือบและนำเข้าเผา
เครื่องถ้วยเหล่านี้ โดยทั่วไปแล้วจะพบอยู่ตามโบราณสถานที่สร้างขึ้นในศิลปะแบบลพบุรีอันหมายถึงศาสนสถานที่สร้างตามแบบศิลปะขอมโบราณซึ่งเรียกกันว่า ปราสาทหิน ทั้งที่อยู่ในเขตจังหวัดบุรีรัมย์ หรืออยู่ในจังหวัดต่างๆของภาคอีสานตอนใต้ หรืออีสานส่วนล่าง เช่นจังหวัดนครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ โดยใช้ในพิธีกรรมภายในศาสนสถาน ใช้ในชีวิตประจำวันหรือใช้ในพิธีการเผาศพ โดยนำมาบรรจุอัฐิและอังคาร ภาชนะดินเผาบรรจุอัฐินี้มีลักษณะพิเศษเช่น ไหรูปช้าง โถรูปลิง หรือกระปุกที่มีฝาเป็นรูปคน ส่วนใหญ่เมื่อบรรจุอัฐิแล้วจะนำไปฝังไว้รอบฐานอาคารศาสนสถาน นอกจากนี้พบว่ามีการเขียนข้อความไว้บนเครื่องปั้นดินเผา เช่น กระดึงผูกคอวัว และไหเคลือบสีน้ำตาล ตัวอักษรนี้เมื่อนำไปศึกษาเปรียบเทียบกับอักษรในศิลาจารึกก็พบว่ามีอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๕-๑๙ทำให้พอจะสันนิษฐานอายุของเครื่องถ้วยโบราณของจังหวัดบุรีรัมย์ได้ว่า น่าจะมีอายุร่วมสมัยกับปราสาทหินที่สร้างขึ้นคือระหว่างพุทธศตวรรษที่๑๕-๑๙
เครื่องถ้วยเหล่านี้ผลิตขึ้นเพื่อส่งไปจำหน่ายหรือส่งไปเพื่อใช้ในพิธีกรรมตามศาสนสถานหรือปราสาทหินที่ต่างๆ ทั้งในอีสานตอนใต้และในประเทศกัมพูชา รวมทั้งในท้องถิ่นอื่นๆภายในประเทศ เป็นสินค้าอุตสาหกรรมที่ยิ่งใหญ่ในระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๕-๑๙ ทัดเทียมกับเครื่องถ้วยสังคโลกจากเตาเผาในจังหวัดสุโขทัยในระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๘-๒๒
เครื่องปั้นดินเผาสมัยลวปุระ (ลพบุรี)
เครื่องปั้นดินเผาสมัยลวปุระ (ลพบุรี), เครื่องปั้นดินเผาสมัยลวปุระ (ลพบุรี) หมายถึง, เครื่องปั้นดินเผาสมัยลวปุระ (ลพบุรี) คือ, เครื่องปั้นดินเผาสมัยลวปุระ (ลพบุรี) ความหมาย, เครื่องปั้นดินเผาสมัยลวปุระ (ลพบุรี) คืออะไร
เครื่องปั้นดินเผาสมัยลวปุระ (ลพบุรี), เครื่องปั้นดินเผาสมัยลวปุระ (ลพบุรี) หมายถึง, เครื่องปั้นดินเผาสมัยลวปุระ (ลพบุรี) คือ, เครื่องปั้นดินเผาสมัยลวปุระ (ลพบุรี) ความหมาย, เครื่องปั้นดินเผาสมัยลวปุระ (ลพบุรี) คืออะไร
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!