ดนตรี คือ เสียงเป็นทำนองเพลง หรือจังหวะ ดนตรีไทยก็สร้างขึ้นตามลักษณะที่คนไทยเห็นงามเห็นเพราะ ในเรื่องของดนตรีไทยนี้จะแยกอธิบายเป็น ๔ หัวข้อ คือ ๑. เรื่องเครื่องดนตรี ๒. เรื่องเพลงดนตรี ๓. เรื่องวิธีบรรเลงดนตรี ๔. เรื่องเบ็ดเตล็ด
๑. เครื่องดนตรีไทย
เครื่องดนตรีไทย คือ สิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับทำเสียงให้เป็นทำนอง หรือจังหวะ วิธีที่ทำให้มีเสียงดังขึ้นนั้นมีอยู่ ๔ วิธีคือ
ใช้มือหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งดีดที่สาย แล้วเกิดเสียงดังขึ้น สิ่งที่มีสายสำหรับดีด เรียกว่า "เครื่องดีด"
ใช้เส้นหางม้าหลายๆ เส้นรวมกันสีไปมาที่สาย แล้วเกิดเสียงดังขึ้น สิ่งที่มีสายแล้วใช้เส้นหางม้าสีให้เกิดเสียง เรียกว่า "เครื่องสี"
ใช้มือหรือไม้ตีที่สิ่งนั้น แล้วเกิดเสียงดังขึ้น สิ่งที่ใช้ไม้หรือมือตี เรียกว่า "เครื่องตี"
ใช้ปากเป่าลมเข้าไปในสิ่งนั้น แล้วเกิดเสียงดังขึ้น สิ่งที่เป่าลมเข้าไปแล้วเกิดเสียงเรียกว่า"เครื่องเป่า" เครื่องทุกอย่างที่กล่าวแล้วรวมเรียกว่า เครื่องดีด สี ตี เป่า
ซอด้วง เป็นเครื่องสีที่มี ๒ สายเรียกว่า สายเอก และสายทุ้ม ตัวกระพุ้งอุ้มเสียงเรียกว่ากระบอก เพราะมีรูปอย่างกระบอกไม้ไผ่ ทำด้วยไม้เนื้อแข็งหรืองาช้าง ขึงหน้าด้วยหนังงูเหลือมถ้าไม่มีก็ใช้หนังแพะหรือหนังลูกวัว มีทวน (คัน) เสียบกระบอกยาวขึ้นไป ตอนปลายเป็นสี่เหลี่ยมโอนไปทางหลัง มีลูกบิดสำหรับพันปลายสาย ๒ อัน เนื่องจากซอด้วงเป็นซอเสียงเล็กแหลม จึงใช้สายที่ทำด้วยไหมหรือเอ็นเป็นเส้นเล็กๆ ส่วนคันชักนั้น ร้อยเส้นหางม้าให้เข้าอยู่ในระหว่างสายทั้งสอง
ซออู้ เป็นเครื่องสีที่มีสาย ๒ สาย ทำด้วยไหมหรือเอ็น เรียกว่า สายเอกและสายทุ้มเช่นเดียวกับซอด้วง แต่กะโหลกซึ่งเป็นเครื่องอุ้มเสียงทำด้วยกะลามะพร้าว ตัดตามยาวให้พูอยู่ข้างบนขึงหน้าด้วยหนังแพะหรือหนังลูกวัว มีทวน (คัน) เสียบยาวขึ้นไปกลึงกลมตลอดปลาย มีลูกบิดสำหรับพันสาย ๒ อัน คันชักนั้นร้อยเส้นหางม้าให้อยู่ภายในระหว่างสายทั้งสอง
การเรียกสายของเครื่องดนตรีทั้งเครื่องดีดและเครื่องสีว่า "เอก" และ "ทุ้ม" นี้ เรียกตามลักษณะของเสียง สายที่มีเสียงสูงก็เรียกว่า สายเอก สายที่มีเสียงต่ำก็เรียกว่า สายทุ้ม ตลอดจนเครื่องตีที่จะกล่าวต่อไปนี้ก็อนุโลมเช่นเดียวกัน เครื่องที่มีเสียงสูงก็เรียกว่า เอก เครื่องที่มีเสียงต่ำก็เรียกว่า ทุ้ม