ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

กิจการป่าไม้สักในอดีต, กิจการป่าไม้สักในอดีต หมายถึง, กิจการป่าไม้สักในอดีต คือ, กิจการป่าไม้สักในอดีต ความหมาย, กิจการป่าไม้สักในอดีต คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
กิจการป่าไม้สักในอดีต

          กิจการป่าไม้หรือวิชาการด้านป่าไม้ในประเทศไทย  อาจกล่าวได้ว่าได้เริ่มต้นและพัฒนามาจากการทำไม้หรือการตัดฟันชักลากไม้สักในทางภาคเหนือของประเทศ  เริ่มดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๘๓ โดยมีชาวจีน พม่า และ เงี้ยว (ไทยใหญ่) ขออนุญาตจากเจ้าผู้ครองนครต่างๆ ในหัวเมืองทางเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน และ ลำปาง ให้เข้าไปตัดฟันไม้สักออกจากป่า โดยเสียเงินค่า "ตอไม้" ให้แก่เจ้าผู้ครองนครที่เป็นเจ้าของป่า หลังจากที่รัฐบาลไทยได้ตกลงทำสนธิสัญญาบาวริง (Bowring Treaty) เพื่อการติดต่อค้าขายกับอังกฤษ ใน พ.ศ. ๒๓๙๘ ชาวอังกฤษและคนในบังคับ ได้แก่ พม่า เงี้ยว และมอญได้เข้ามาร่วมดำเนินกิจการทำไม้สักมากขึ้น บริษัท บริติช บอร์เนียว (British Borneo Company, Ltd.)เข้ามาเริ่มดำเนินกิจการป่าไม้ในประเทศไทยใน พ.ศ. ๒๔๐๗ โดยรับซื้อไม้จากพวกที่ทำไม้อยู่ก่อนแล้วใน พ.ศ. ๒๔๒๕ กัปตันเอช เอ็น แอน-เดอร์เซน (Captain H.N. Andersen) กัปตันเรือชาวเดนมาร์กซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันเรือสำเภา บรรทุกสินค้าระหว่างประเทศของไทย ในรัชกาลที่ ๔ ชื่อเรือ "ทูลกระหม่อม" ได้บรรทุกไม้สักจากไทยไปขายยังเมืองลิเวิอร์พูล (Liverpool) ประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก ปรากฏว่าไม้สักที่บรรทุกไปขายได้ราคาดีมากและหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว ได้กำไรมากกว่าร้อยละ ๑๐๐ ทำให้เป็นที่เลื่องลือกันในตลาดยุโรปถึงความงดงามของไม้สักชั้นดีจากเมืองไทย จึงได้มีบริษัทต่างๆ ในยุโรปสั่งจองซื้อไม้สักจากประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

          ใน พ.ศ. ๒๔๒๖ รัฐบาลไทยได้เริ่มอนุญาตให้ชาวยุโรปเข้ารับสัมปทานทำไม้สักในประเทศไทยได้ และในช่วงเวลาเดียวกันคือหลังจาก พ.ศ. ๒๔๒๘ เป็นต้นมา พม่าก็ได้ปิดป่าสัก ไม่ให้มีการทำไม้ เนื่องจากสภาพป่าสักเสื่อมโทรมลงมากจากการทำไม้ของบริษัทต่างชาติ ความต้องการไม้สักในหมู่ประเทศยุโรปจึงมีมากขึ้น ทำให้บริษัทต่างชาติเริ่มเข้ามาลงทุนทำไม้สักเพิ่มขึ้น บริษัทบริติซบอร์เนียว ได้รับสัมปทานทำไม้สักใน พ.ศ. ๒๔๓๒ บริษัทบอมเบย์เบอร์มา (Bombay  Burma Trading Corporation, Ltd.) ของอังกฤษ ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่และมีอิทธิพลมากในประเทศพม่าเข้ามาใน พ.ศ. ๒๔๓๒ ต่อจากนั้นก็มีบริษัทสยามฟอเรสต์ (Siam Forest Company, Ltd.) หรือบริษัทแองโกลไทย จำกัด ในปัจจุบัน บริษัทอีสต์เอเชียติค (East Asiatic Co.) ของเดนมาร์ก ในพ.ศ. ๒๔๓๗ บริษัทหลุยส์ตีเลียวโนเวนส์ (Louis T. Leonowens Ltd.) ซึ่งแยกมาจากบริษัทบริติซบอร์เนียวใน พ.ศ. ๒๔๓๙ ต่อมามีบริษัทของคนไทย คือ บริษัทล่ำซำ และบริษัทกิมเซ่งหลี  ได้รับสัมปทานทำไม้สักจากป่าต่างๆ จากเจ้าเมืองเพิ่มขึ้น  การทำไม้สักจึงได้ขยายออกไปถึงจังหวัดอื่นๆ ที่มีไม้สักอยู่

          การได้สัมปทานทำไม้สักเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดการแก่งแย่งการทำไม้ในแต่ละแปลงสัมปทานมีการขัดผลประโยชน์ระหว่างบริษัทต่อบริษัทและบริษัทต่อเจ้าเมืองต่างๆ จึงเกิดเรื่องร้องทุกข์และฟ้องร้องไปยังรัฐบาลอยู่บ่อยๆ ใน พ.ศ. ๒๔๓๘-๒๔๓๙ รัฐบาลจึงได้จ้างผู้เชี่ยวชาญป่าไม้ชาวอังกฤษ ซึ่งมาสำรวจและวางโครงการการจัดการป่าไม้ในประเทศพม่าให้แก่รัฐบาลอังกฤษ ชื่อ มร.เอช สเลด (H.Slade) มาสำรวจการทำไม้และปัญหาต่างๆ ในการให้สัมปทานทำไม้แก่บริษัทต่างๆ ในภาคเหนือของประเทศ ในวันที่ ๑๘  กันยายน ๒๔๓๙ รัฐบาลจึงได้จัดตั้งกรมป่าไม้ขึ้น มีสำนักงานอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่  (ตัวอาคารที่ทำการสำนักงานป่าไม้เขตเชียงใหม่ปัจจุบัน) ในขั้นแรกกรมป่าไม้ขึ้นกันกระทรวงมหาดไทย มร.เอช สเลด เป็นเจ้ากรมหรืออธิบดีกรมป่าไม้ คนแรกของประเทศไทย มีวัตถุประสงค์ที่จะคุ้มครองป่าไม้ บำรุงส่งเสริมความอุดมสมบูรณ์ของป่าและจัดวางโครงการการจัดการป่าไม้ตามหลักวิชาการที่ถูกต้องใน พ.ศ. ๒๔๔๐-๒๔๔๓ รัฐบาลได้ดำเนินการเจรจา และได้รับโอนกรรมสิทธิ์พื้นที่ป่าและการอนุญาตให้สัมปทานทำไม้จากเจ้าเมืองต่างๆ ให้มาเป็นสมบัติของแผ่นดิน เพื่อที่รัฐบาลจะได้ดำเนินกิจการป่าไม้สักเอง รัฐบาลได้ยินยอมจ่ายเงินส่วนแบ่งค่าตอไม้กึ่งหนึ่งของที่เก็บได้ทุกปีให้แก่เจ้านายฝ่ายเหนือที่เคยได้รับอยู่ จากนั้นรัฐบาลได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติและกฎหมายป่าไม้ต่างๆ เกี่ยวกับระเบียบการทำไม้  การป้องกันรักษาป่าไม้  การตั้งด่านภาษีเป็นต้น ได้มีการปรับปรุงแก้ไขสัญญาอนุญาตทำป่าไม้สักกับบริษัทต่างๆ ให้รัดกุมเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด และถูกต้องตามหลักวิชาการมากยิ่งขึ้น ทั้งให้ทำสัญญาอนุญาตทำไม้สัญญาละ ๖-๑๒ ปี  ต่อมาได้ขยายเวลาสัญญาออกเป็นสัญญาละ ๑๕ ปี ตามหลักการจัดการป่าสัก โดยวางโครงการตัดฟัน ๓๐ ปี เริ่มต้นใน พ.ศ. ๒๔๕๑  ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๕๓ ได้ย้ายที่ทำการกรมป่าไม้จากจังหวัดเชียงใหม่มาอยู่ที่กรุงเทพฯ  และได้ย้ายสังกัดจากกระทรวงมหาดไทยไปขึ้นกับกระทรวงเกษตราธิการ หรือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปัจจุบัน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔

          ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ ในพ.ศ. ๒๔๘๔ รัฐบาลไทยได้เพิกถอนสัมปทานการทำไม้สักจากบริษัทอังกฤษทั้ง ๔ บริษัท ด้วยเหตุผลทางการเมืองและเพื่อพยุงฐานะทางการเงินของรัฐบาล รัฐบาลได้จัดตั้งบริษัทไม้ไทย จำกัด ขึ้นรับช่วงการทำไม้แทน หลังสงครามโลกในพ.ศ. ๒๔๘๙ รัฐบาลจำเป็นต้องคืนสัมปทานป่าสักให้แก่บริษัททำไม้ต่างๆ ที่ยึดคืนมา และได้จัดตั้งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  (อ.อ.ป.) ขึ้นแทนบริษัทไม้ไทยจำกัดใน พ.ศ. ๒๔๙๐  เพื่อดำเนินกิจการด้านป่าไม้ให้แก่รัฐบาล จนกระทั่ง พ.ศ.๒๔๙๗-๒๔๙๘  สัมปทานป่าสักของบริษัทต่างๆได้สิ้นสุดลงและไม่ได้รับต่อสัญญา รัฐบาลได้จัดตั้งบริษัทป่าไม้ร่วมทุนขึ้น โดยรวมทุนจากบริษัททำไม้ที่หมดสัมปทานทั้ง ๕ บริษัทเข้าด้วยกัน โดยรัฐบาลไทยถือหุ้นร้อยละ  ๒๐ นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งบริษัทป่าไม้จังหวัดขึ้น เพื่อรับทำไม้ในท้องที่จังหวัดนั้นๆ ป่าสักได้ถูกแบ่งออกเป็น ๓ ส่วนคือให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ทำหนึ่งส่วน บริษัทป่าไม้ร่วมทุนหนึ่งส่วน และบริษัทป่าไม้จังหวัดอีกหนึ่งส่วน จนกระทั่ง พ.ศ. ๒๕๐๓ เมื่อหมดสัมปทาน  รัฐบาลจึงได้มอบให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เป็นผู้ดำเนินกิจการทำไม้สักทั้งหมด ยกเว้นสัมปทานป่าสักของเอกชนที่อายุสัญญายังเหลืออยู่บริษัททำไม้ต่างชาติทั้ง ๕ บริษัทก็ได้ปิดกิจการลง

กิจการป่าไม้สักในอดีต, กิจการป่าไม้สักในอดีต หมายถึง, กิจการป่าไม้สักในอดีต คือ, กิจการป่าไม้สักในอดีต ความหมาย, กิจการป่าไม้สักในอดีต คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

บทความอื่น ของสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 15

สารานุกรมเล่มอื่นๆ

คำยอดฮิต

Sanook.commenu