ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

ประโยชน์ของการศึกษาจารึก, ประโยชน์ของการศึกษาจารึก หมายถึง, ประโยชน์ของการศึกษาจารึก คือ, ประโยชน์ของการศึกษาจารึก ความหมาย, ประโยชน์ของการศึกษาจารึก คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
ประโยชน์ของการศึกษาจารึก

          วัตถุประสงค์ของการศึกษาจารึก   ก็เพื่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงวิชาการสาขาต่าง ๆเนื่องจากจารึกเป็นแหล่งข้อมูลเรื่องราวในอดีตสมัยเมื่อยังไม่มีหนังสือพงศาวดารหรือตำนานนอกจากจารึกแล้วมีแหล่งข้อมูลอื่นใดที่จะบอกให้รู้เรื่องราวของบ้านเมืองในอดีต  แม้ในสมัยเมื่อมีหนังสือพงศาวดารหรือตำนานแล้วก็ดีจารึกก็ยังคงเป็นประโยชน์โดยเฉพาะข้อมูลทางศักราช ซึ่งในหนังสือพงศาวดารหรือตำนานมักจะคลาดเคลื่อนเสมอ แต่ถ้าปรากฏในจารึกก็จะช่วยให้รู้เรื่องได้ถูกต้องแน่นอน
          จารึกเป็นหลักฐานแสดงถึงรูปอักษรและภาษาต่างกันไปตามยุคสมัย  ฉะนั้นการที่พบจารึกในจังหวัดต่าง ๆ  ทุกภูมิภาคของประเทศไทย  ทำให้ได้ทราบถึงอารยธรรมทางด้านการใช้ภาษาของกลุ่มชนซึ่งอาศัยอยู่ในภูมิภาคเหล่านั้นทั้งนี้เพราะอักษรและภาษาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันของมนุษยชาติและเป็นสื่อกลางสำหรับเชื่อมโยงความคิดจิตใจเป็นเครื่องสร้างสรรค์ความเข้าใจอันดีระหว่างคนในกลุ่มชนนั้น ๆ และคนในชาติเดียวกัน รวมถึงชาติอื่น ๆ ที่มีสัมพันธภาพต่อกันด้วย นอกจากนั้นอักษรและภาษายังเป็นเครื่องแสดงอารยธรรมความเจริญ  และอิสรภาพทางด้านวัฒนธรรมและบ่งบอกวิวัฒนาการของอักษรและภาษาอีกด้วย
          เนื่องจากจารึกสร้างด้วยวัตถุที่มีความแข็งแรงคงทนถาวร  เนื้อหาของจารึกจะบันทึกเฉพาะกิจกรรมของบุคคลซึ่งมีส่วนสัมพันธ์กับจารึก  และเรื่องเกี่ยวกับศาสนาเป็นส่วนใหญ่เรื่องที่บันทึกในจารึกเป็นจริงทั้งชื่อบุคคลนามสถานที่  และศักราช เนื้อหาและถ้อยคำสำนวนในจารึกจึงเป็นเรื่องราวและถ้อยคำในอดีต   ซึ่งได้ตกทอดมาจนถึงปัจจุบันโดยไม่มีการปรับปรุงแก้ไขแต่ประการใด
          อักษรและภาษาที่ใช้ในจารึก  แบ่งได้เป็น กลุ่ม คือ กลุ่มจารึกที่ใช้อักษรและภาษาอื่นที่ไม่ใช่ของไทย และกลุ่มจารึกที่ใช้อักษรและภาษาไทย
          กลุ่มจารึกที่ใช้อักษรและภาษาอื่นที่ไม่ใช่ของไทย ได้พบที่เก่าที่สุดมีอายุอยู่ในระหว่างพุทธศตวรรษที่  ๑๒ เป็นต้นมา คือ อักษรปัลลวะซึ่งเป็นแม่แบบของรูปอักษรต่าง ๆ ในยุคสมัยต่อมา
          การได้พบจารึกที่มีอายุแตกต่างกันในทุกภูมิภาคของประเทศ  ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของรูปแบบอักษร  จากอักษรปัลลวะวิวัฒนาการไปเป็นรูปอักษรขอมโบราณในพุทธศตวรรษที่ ๑๕ และอักษรขอมในพุทธศตวรรษที่ ๑๗ ซึ่งใช้ภาษาสันสกฤตและภาษาเขมรร่วมกันมาตลอดเวลา  และยังได้พบรูปอักษรมอญโบราณซึ่งเป็นรูปอักษรที่วิวัฒนาการมาจากรูปอักษรปัลลวะเช่นเดียวกัน แต่ใช้บันทึกไว้ด้วยภาษามอญโบราณ
          กลุ่มจารึกที่ใช้อักษรและภาษาไทย  จากหลักฐานในจารึกดงแม่นางเมือง จังหวัดนครสวรรค์ และจารึกหลังพระพุทธรูปนาคปรกจังหวัดลพบุรี ได้พบภาษาไทยบันทึกไว้ด้วยอักษรขอม  แทรกอยู่ระหว่างกลุ่มคำภาษาเขมรในปีพุทธศักราช ๑๗๑๐ และ ๑๗๒๖ และต่อมาในปีพุทธศักราช ๑๘๒๖  พ่อขุนรามคำแหงมหาราชก็ประดิษฐ์ลายสือไทยขึ้นใช้  และบันทึกลงในหลักศิลาจารึกเมื่อปีพุทธศักราช  ๑๘๓๕ จึงเป็นการปรากฏขึ้นครั้งแรกของจารึกอักษรไทย  ภาษาไทย นอกจากนี้ได้พบจารึกอื่น ๆ ที่ใช้อักษรและภาษาไทยอีก ดังนี้
          ในภาคเหนือ  ซึ่งเป็นที่ตั้งอาณาจักรล้านนา  ใช้อักษรไทยจารึกภาษาไทยในราวต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๐ เช่น จารึกวัดพระยืน จังหวัดลำพูน เป็นต้น  นอกจากนั้นยังใช้รูปอักษรอีกแบบหนึ่ง  เรียกว่า  อักษรธรรมล้านนา  บันทึกจารึกภาษาบาลีและภาษาไทย ได้แก่ จารึกวัดช้างค้ำ จังหวัดน่าน เป็นต้น
          ในภาคอีสาน  เป็นดินแดนที่มีอาณาเขตติดต่อกับอาณาจักรกัมพูชาและลาว   น่าสังเกตว่าในบริเวณภาคอีสานนี้ไม่พบหลักฐานร่วมสมัยสุโขทัย  ทั้งทางด้านเอกสารโบราณและด้านศิลปะ  คงพบหลักฐานจารึกตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาร่วมเวลาเดียวกับพระไชยเชษฐาธิราชกษัตริย์แห่งกรุงศรีสัตนาคนหุต  (ล้านช้าง) โดยได้พบจารึกที่วัดพระธาตุศรีสองรัก  จังหวัดเลย เป็นจารึกกษัตริย์ทั้ง พระองค์ร่วมกันสถาปนาขึ้นเพื่อเป็นการแสดงสัมพันธไมตรีฉันมิตรประเทศระหว่างกรุงศรีอยุธยากับกรุงศรีสัตนาคนหุต  ในพุทธศตวรรษที่ ๒๑ จารึกด้วยอักษรขอม ภาษาไทยด้านหนึ่ง  และอักษรธรรมอีสาน ภาษาไทยด้านหนึ่ง มีข้อความตรงกันทั้งสองด้าน  นอกจากนี้ยังมีจารึกวัดแดนเมืองจังหวัดหนองคาย ใช้อักษรไทย ภาษาไทยจารึกในปีพุทธศักราช ๒๐๗๕ และอีกหลักหนึ่งจารึกในปีพุทธศักราช ๒๐๗๘ เนื้อหาจารึกบอกถึงเขตกัลปนาที่วัดและการอุทิศส่วนกุศล
          จารึกเป็นเอกสารโบราณที่ใช้เป็นหลักฐานบ่งบอกความเคลื่อนไหวของอารยธรรมและค่านิยมแห่งสังคมในกลุ่มชนโบราณต่าง ๆแต่ละยุคสมัยทุกภูมิภาคของประเทศไทย  เป็นหลักฐานที่ให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา  ใช้ถ้อยคำสำนวนตลอดจนเรื่องราวที่คงสภาพของอดีตไว้โดยไม่มีการปรับปรุงแก้ไขแต่อย่างใด
          เนื้อหาของเรื่องในจารึกจะผูกพันอยู่กับผู้สร้างจารึก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นปกครองหัวหน้าหมู่คณะ  ได้แก่  กษัตริย์  เจ้าเมือง  หัวหน้าหมู่บ้าน  บุคคลสำคัญในท้องถิ่น   เป็นต้น  เมื่อได้ปฏิบัติกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นแล้วย่อมปรารถนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในลัทธิศาสนาของตนได้รับรู้  และพร้อมกันนั้นก็ต้องการแสดงเจตนาการกระทำของตนให้ประจักษ์ต่อส่วนรวม  มีบ้างในส่วนน้อยที่เล่าถึงประวัติส่วนตัวและเรื่องอื่น ๆ ฉะนั้นเนื้อหาสำคัญที่บันทึกในจารึกจึงเป็นข้อเท็จจริงตามเหตุการณ์ในสมัยต่าง ๆ เหล่านั้น

ประโยชน์ของการศึกษาจารึก, ประโยชน์ของการศึกษาจารึก หมายถึง, ประโยชน์ของการศึกษาจารึก คือ, ประโยชน์ของการศึกษาจารึก ความหมาย, ประโยชน์ของการศึกษาจารึก คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

บทความอื่น ของสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 16

สารานุกรมเล่มอื่นๆ

คำยอดฮิต

Sanook.commenu