ความสำคัญของรหัสที่จะใช้ในระบบคอมพิวเตอร์นั้นมิได้ใช้สำหรับแทนตัวข้อมูล ที่จะให้คอมพิวเตอร์ประมวลผลแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังใช้แทนคำสั่งที่จะสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน หรือควบคุมระบบการทำงานต่างๆรวมทั้งใช้ในการประมวลผลข้อมูลให้เกิดขึ้นตามความต้องการ
คอมพิวเตอร์เป็นเทคโนโลยี ที่ได้รับการพัฒนามาจากประเทศทางตะวันตก ซึ่งใช้อักษรละติน ดังนั้นจึงมีผู้กำหนดรูปแบบของตัวอักษรละตินเป็นรหัสที่จะให้คอมพิวเตอร์รับรู้ได้ รหัสที่กำหนดนี้จะต้องเหมาะสมกับการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่ใช้หลักการของเลขฐานสอง ดังนั้น จึงกำหนดรหัสแทนตัวอักษรละตินเหล่านั้นเป็นรหัสเลขฐานสองซึ่งมีหลักตัวเลขที่เล็กที่สุดคือ บิต เมื่อนำตัวเลขฐานสองหลายหลักหรือหลายบิตมาประกอบกันเป็นกลุ่มตั้งแต่ ๖, ๗ หรือ ๘ บิต เรียกว่า ไบต์
รหัสแทนอักษรภาษาละตินที่นิยมใช้กันจริงๆ จนเป็นมาตรฐานใช้กันทั่วโลกมีเพียง ๒ รหัส คือ รหัสแอสกี(ASCII; American standard code for information interchange) และรหัสเอ็บซีดิก (EBCDIC; extended binarycode-decimal interchange code)
รหัสแอสกีเป็นรหัสที่องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน (International Standard Organization;ISO) กำหนดขึ้น และใช้กันในระบบคอมพิวเตอร์ทั่วไปโดยใช้อีกชื่อว่า รหัสไอเอสโอ ๖๔๖-๑๙๘๓ (ISO 646-1983) รหัสแอสกีหรือรหัสไอเอสโอ ที่มีเพียง ๗ บิต ในแต่ละประเทศจะใช้แตกต่างกันเล็กน้อย โดยเฉพาะในเรื่องเครื่องหมายพิเศษบางตัว เช่น อักษรแทนเงินตรา รหัสที่ไอเอสโอกำหนดนี้มีเพียง ๗ บิต จึงแทนรหัสของตัวอักษรได้ ๒๗ หรือ = ๑๒๘ ตัว โดยกำหนดให้รหัส ๓๒ ตัวแรกคือ ๐๐๐๐๐๐๐ ถึง ๐๐๑๑๑๑๑ เป็นรหัสควบคุม เช่น ส่งเสียงปิ๊บ ปัดแคร่ (CR; carriage return) ขึ้นบรรทัดใหม่(LF; line feed) จบเอกสาร (EOT; end of text) เป็นต้น
ส่วนรหัสเอ็บซีดิก เป็นรหัสที่มีประวัติความเป็นมาค่อนข้างยาวนาน และมีรากฐานมาจากการใช้บัตรเจาะรูแบบฮอลเลอริท โดยมีช่องเจาะอยู่ ๑๒ แถว จัดเป็นแถว ๐ ถึง๙, ๑๑ และ ๑๒ รหัสบนบัตรเจาะรูส่วนที่เป็นแถว ๐ ถึง ๙จะแปลเป็นเลขฐานสองโดยตรง ซึ่งเรียกรหัสนี้ว่า บีซีดี(BCD; binary code decimal) ส่วนแถวที่ ๑๑ และ ๑๒จะได้รับการแปลเป็นเลขฐานสองควบคู่กันไปด้วยแถวละ ๑ หลัก ผลที่ได้คือ จะได้รหัสที่ประกอบด้วยตัวเลขฐานสอง๖ บิต หลังจากนั้นก็ได้มีการปรับปรุงขึ้น จนในที่สุดรหัสเอ็บซีดิกได้รับการขยายให้ครบ ๘ บิต โดยให้มีตัวอักษรตัวเล็กและตัวใหญ่อยู่รวมกัน
เพื่อให้การแสดงรหัสของคอมพิวเตอร์เป็นที่เข้าใจได้ง่าย การแสดงด้วยการแทนรหัสกับตัวอักษรโดยตรง จึงไม่เป็นที่นิยมกันนัก เพราะอ่านลำบาก เปลืองเนื้อที่ และจดจำได้ยาก การแสดงรหัสจึงแสดงในรูปของตาราง ซึ่งถ้าเป็นรหัส ๘ บิต จะแสดงในรูปตารางขนาด ๑๖ x ๑๖ และถ้าเป็นรหัส ๗ บิต จะแสดงในรูปตารางขนาด ๑๖ x ๘ โดยหมายเลขบรรทัด ๐-๑๕ ใช้แทนรหัสเลขท้าย ๔ บิต (เลข ๔ บิต ได้แก่ ๐๐๐๐ ถึง ๑๑๑๑ มี ๑๖ จำนวน เลขบรรทัดจะใช้เลขฐาน ๑๖ เป็นตัวบอกคือ ๐, ๑, ๒, ๓, ๔, ๕, ๖, ๗, ๘, ๙,A, B, C, D, E และ F) ส่วนหมายเลขสดมภ์ ๐-๗หรือ ๐-๑๕ ใช้แทนรหัสเลขต้น ๓ บิต หรือ ๔ บิต(เอ็บซีดิก) กำกับด้วยเลขฐาน ๑๖ เช่นกัน
เนื่องจากรหัสแอสกีมีเพียง ๗ บิต (แทนตัวอักษรได้๑๒๘ ตัว) เมื่อนำมาใช้แสดงตัวอักษรไทยและอังกฤษ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขยายเพิ่มอีก ๑ บิต เพื่อให้ได้เป็นตารางขนาด ๑๖ x ๑๖ และแสดงความหมาย โดยถ้าในบิตแรกเป็น ๐ ก็จะคงรหัสแอสกีเดิม และถ้าเป็น ๑ ก็แสดงเป็นรหัสไทย แต่สำหรับรหัสเอ็บซีดิกมีรูปแบบอักษรได้๒๕๖ ตัว จึงสามารถใส่อักษรไทยลงในช่องว่างได้พอ
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ดำเนินการกำหนดรหัสมาตรฐานภาษาไทยเพื่อใช้กับงานคอมพิวเตอร์ โดยมีขอบข่ายของการใช้รหัสดังนี้
๑. มาตรฐานนี้กำหนดรหัสภาษาไทยเพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์ และแลกเปลี่ยนข้อมูล
๒. มาตรฐานนี้ครอบคลุมรหัสภาษาไทย ซึ่งแบ่งออกเป็น ๒ กลุ่ม คือ กลุ่มไอเอสโอ ๖๔๖-๑๙๘๓และกลุ่มเอ็บซีดิก
๓. มาตรฐานนี้กำหนดเฉพาะตัวอักษรภาษาไทยโดยยึดหลักการไม่เปลี่ยนแปลงรหัสที่องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐานได้กำหนดไว้แล้ว ตามไอเอสโอ ๖๔๖-๑๙๘๓ และเอ็บซีดิก
การกำหนดรหัสในตารางเพิ่มต่อไอเอสโอ ๖๔๖-๑๙๘๓ จะดูจากตารางที่มีขนาด ๑๖ x ๑๖ ได้ โดยตำแหน่งของอักษรภาษาไทยเริ่มจากตำแหน่ง A1 (สดมภ์ A แถว ๑)
การพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้สามารถทำงาน และรับส่งข้อมูลตัวอักษรไทยได้นั้น จำเป็นต้องมีการกำหนดรหัสที่ใช้แทนอักษรไทย ซึ่งได้แก่ ตัวอักษรไทย ตัวเลขไทย และเครื่องหมายพิเศษที่ใช้สื่อความหมายภาษาไทย จำแนกเป็นกลุ่มได้ดังนี้
ตัวอักษรไทย ได้แก่
พยัญชนะ ได้แก่ ก ข ฃ ค ฅ ฆ ง จ ฉ ช ซ ...... ร ฤ ล ฦ ว ศ ษ ส ห ฬ อ ฮ
สระ ได้แก่ ็ ะ ั า ำ ิ ี ึ ื ุ ู เ แ โ ใ ไ ํ (นิคหิต) . (พินทุ)
วรรณยุกต์ ได้แก่ ่ ้ ๊ ๋ ์ (ทัณฑฆาต)
ตัวเลขไทย ได้แก่ ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙
เครื่องหมายพิเศษ ได้แก่ ๅ ๆ ฯ
เครื่องหมายพิเศษทั่วไป ได้แก่ ฿ (เครื่องหมายเงินบาท) e (ยามักการ) ๏ ฟองมัน ๛ (โคมูตร) และ ๚ (อังคั่นคู่) เป็นต้น
รหัสภาษาไทยในตารางเอ็บซีดิกนี้ ใช้วิธีการกำหนด ให้ไม่ซ้ำกับอักษรตัวใดตัวหนึ่งที่มีอยู่แล้วในตารางเอ็บซีดิกโดยเริ่มต้นตั้งแต่ตำแหน่ง ๔๑
รหัสตัวอักษรไทยที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์
รหัสตัวอักษรไทยที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์, รหัสตัวอักษรไทยที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ หมายถึง, รหัสตัวอักษรไทยที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ คือ, รหัสตัวอักษรไทยที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ ความหมาย, รหัสตัวอักษรไทยที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ คืออะไร
รหัสตัวอักษรไทยที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์, รหัสตัวอักษรไทยที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ หมายถึง, รหัสตัวอักษรไทยที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ คือ, รหัสตัวอักษรไทยที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ ความหมาย, รหัสตัวอักษรไทยที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ คืออะไร
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!