ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

การเสด็จเลียบพระนคร, การเสด็จเลียบพระนคร หมายถึง, การเสด็จเลียบพระนคร คือ, การเสด็จเลียบพระนคร ความหมาย, การเสด็จเลียบพระนคร คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
การเสด็จเลียบพระนคร

          การเสด็จเลียบพระนคร จัดเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เนื่องมาแต่พิธีที่ทำในพระราชฐาน มีการเสด็จออกท้องพระโรงให้ข้าราชการทั้งปวงได้มีโอกาสเข้าเฝ้าทั่วหน้า เมื่อเสร็จการพิธีในพระราชฐานจึงเสด็จออกเลียบพระนคร เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าทั่วหน้ากันด้วย แต่ประเพณีการเลียบพระนครแห่เสด็จพระเจ้าแผ่นดิน เป็นกระบวนพยุหยาตราอย่างใหญ่ คล้ายกับยกกองทัพ ผิดกับกระบวนแห่เสด็จในการพิธีอื่นนั้น  น่าจะสันนิษฐานได้ว่าประเพณีโบราณเป็นการเสด็จเลียบเมืองรายรอบมณฑลราชธานีโดยทางบกบ้างทางเรือบ้าง  และประทับรอนแรมไปหลายวันจนกว่าจะรอบมณฑลราชธานีเพื่อบำรุงความสามิภักดิ์ และให้ประจักษ์พระเดชานุภาพแก่ประชาชนทั้งหลาย ระยะต่อมาเห็นเป็นการลำบากโดยมิจำเป็น จึงย่นระยะทางลงมาเป็นเพียงเสด็จเลียบพระนครราชธานี

          การเสด็จเลียบพระนคร ในสมัยรัตนโกสินทร์ เลียบพระนครทางเรือเคยมีแค่ ๒ ครั้ง คือในรัชกาลที่ ๑  พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  เมื่อสร้างพระนคร และเครื่องเฉลิมพระราชอิสริยยศต่างๆ รวมทั้งเรือกระบวนแห่ เสด็จสำเร็จแล้วทำการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเต็มตามตำราเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๘ จึงเสด็จเลียบพระนครทั้งทางบกและทางเรือครั้งหนึ่งกับรัชกาลที่ ๔  พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้มีการเสด็จเลียบพระนครทั้งทางบกและทางเรืออีกครั้งหนึ่ง  เนื่องจากในปลายสมัยรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสร้างและซ่อมแซมเรือพระที่นั่งและเรือกระบวนไว้ เมื่อพระบรมราชาภิเษกในรัชกาลที่ ๒  รัชกาลที่ ๓  รัชกาลที่ ๕  ถึงรัชกาลปัจจุบัน มีการเสด็จเลียบพระนครทางชลมารคด้วย

          การลอยพระประทีปในสมัยรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ใช้เรือบังลังก์ขนานซึ่งมี ๒ ลำ จอดขนานกันในเรือบัลลังก์นั้น แต่เดิมลดในกั้นม่านเป็นที่พระบรรทมที่สรง ที่ลงพระทับคน เครื่องที่สำหรับตั้งนั้นก็มีพรtสุพรรณราช และมีขันพระสุธารสอย่างเช่น เสวยพระกระยาหาร ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รับสั่งให้เลิกที่สรง ที่พระบรรทมเสีย คงแต่เครื่องพระสุธารส

          การจัดเรือพระที่นั่งอีกพิธีหนึ่งที่ปรากฏ คือ ในเรือบัลลังก์ทั้งสองลำนั้นกั้นม่านสกัดทั้งหัวเรือท้ายเรือ  ที่ตรงม่านสกัดหัวเรือท้ายเรือมีม่านยื่นออกไปในน้ำ  บังมิให้เจ้าพนักงานที่อยู่หัวเรือท้ายเรือแลเห็นเข้ามาข้างใน  ต่อเมื่อเวลาจะปล่อยเรือกระทง จึงได้ชักม่าน

          การป้องกันรักษา  มีการล้อมวงในลำน้ำทอดทุ่นเป็น ๓ สาย  สายในมีแพหอกรายเป็นระยะเรือประจำทุ่นสายในข้างเหนือน้ำมีกรมกองตระเวนขวา กรมกองอาสาขวา ประตูกรมพระกลาโหม

          เจ้ากรมพระตำรวจนอกขวา เจ้ากรมพระตำรวจสนมขวา เรือกรมสรรพากรในสรรพากรนอกส่วนทางใต้น้ำหัวเรือบัลลังก์ทุ่นสายใน  กรมกองตระเวนซ้าย เรือประตูกรมมหาดไทย กรมกองกลาง เจ้ากรมพระตำรวจนอกซ้าย เจ้ากรมพระตำรวจสนมซ้าย เรือทุ่นกรมท่ากลาง  ภายหลังเติมเรือทหารทอดสมอสกัดเหนือน้ำ  ท้ายน้ำขึ้นอีกข้างเหนือน้ำ กรมทหารหน้า ๔ ลำ  ข้างใต้น้ำทหารหน้า ๒ ลำ

          ทุ่นสายกลางเหนือน้ำ มีเรือทุ่นกรมอาสาจาม ๒ ลำ เรือทุ่นกรมเรือกันขวา เรือสิงโตกรมอาสาใหญ่ขวา เรือสางกรมทวนทองขวา  เรือเหรากรมอาสารองขวา  เรือกิเลนกรมเขนทองขวาเรือทุ่นสามพระคลังทอดเชือก อย่างละ ๑ ลำ ส่วนใต้น้ำมี  เรือกรมอาสาจาม ๒ ลำ  เรือกรมเรือกันซ้าย  เรือสิงโตกรมอาสาใหญ่  เรือสางกรมทวนทองซ้าย เรือกิเลนกรมเขนทองซ้าย  เรือทุ่นสามพระคลังทอดเชือก อย่างละ ๑ ลำ

          ที่ทุ่นกลางตรงหน้าบัลลังก์  มีเรือดอกไม้เพลิง ๒ ลำ เรือพิณพาทย์ เรือกลองแขก เรือเจ้ากรมพระตำรวจใหญ่  มีทั้งเหนือน้ำ ท้ายน้ำ แห่งละลำ นอกทุ่นสายกลางมีเรือทหารปืนใหญ่อยู่นอกทุ่นสายกลาง เหนือน้ำ และท้ายน้ำ แห่งละลำ

          จะเห็นได้ว่าการจัดสายเรือทอดทุ่นนี้ก็เป็นการจัดกระบวนเรือที่คล้ายกับกระบวนเสด็จพยุหยาตราชลมารค และบรรดาเรือของข้าราชการจากกรมต่างๆ เช่นเดียวกับในกระบวนเสด็จพยุหยาตราชลมารคอีกเช่นกัน

          กระทงหลวง ซึ่งสำหรับทรงลอยที่มีมาแต่เดิมนั้น คือเรือรูปต่างๆ เรือศรี เรือไชย เรือโอ่ เรือคอน และมีเรือหยวกใน พ.ศ. ๒๓๖๘ และ พ.ศ. ๒๓๖๙ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์  ข้าราชการ  ทำกระทงใหญ่ถวาย   และมีมาตลอดรัชกาล ซึ่งการทำกระทงนี้ต้องลงทุนมาก  ครั้นถึงรัชกาลที่ ๔

          พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงว่าเปลืองเงินมากจึงโปรดให้ยกเลิกและภายหลังจึงโปรดให้มีเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช  และเรือไชยแต่งแทนกระทงใหญ่สองลำ ในบุษบกเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช  ตั้งพระพุทธสิหิงค์น้อยเรือไชยสำหรับตั้งพานพุ่มไม่มีเครื่องมนัสการ  ต่อมาในรัชกาลที่ ๕  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์แทนเรือไชย

          นี่เป็นหลักฐานอีกอย่างหนึ่งถึงการใช้เรือพระที่นั่ง และเรือกระบวนในงานอื่นนอกเหนือไปจากงานเสด็จพระหยาตราชลมารค ซึ่งจะเปรียบเทียบได้กับกระบวนแห่พระกฐินพยุหยาตราชลมารคในรัชกาลที่ ๓  เช่นเดียวกัน หรือเปรียบเทียบได้กับกระบวนเสด็จเลียบพระนครทางชลมารคในรัชกาลที่ ๔  พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

          ในการเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพยุหยาตราชลมารคนั้น จะมีการเห่เรือในกระบวนเรือดังที่กล่าวมาแล้ว  บทเห่จะแต่งเป็นคำร้อยกรองที่เรียกว่า กาพย์เห่เรือ ไทยเรามีการเห่เรือเป็น ๒ ประเภท คือแห่เรือหลวงใช้ในการพระราชพิธี กับเห่เรือเล่น เป็นการเห่ในการท่องเที่ยวชมธรรมชาติ และเป็นการเห่เรือเพื่อความรื่นเริงและเพื่อให้พายได้พร้อมๆ กัน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงนิพนธ์ว่าการเห่เรือหลวงเห็นจะเป็นมนต์ในตำราไสยศาสตร์ซึ่งพราหมณ์ใช้สวดบูชาพระราม ว่าโอม รามะ เมื่อแพร่เข้ามาคำก็เลือนไป การเห่มี ๓ อย่างคือ สวะเห่  ช้าลวะเห่  และมูลเห่ การเห่เรือเล่นจะประกอบกับกระบวนพายเรือ ใช้ ๒ จังหวะ คือ จังหวะจ้ำ กับ จังหวะปกติ เมื่อพายจ้ำ ฝีพายจะร้องพร้อมกันว่า หุยฮาโห่ฉิ้วหรือ  มาละเหวยมาละวา หรือ สาระพาเฮโลส่วนบทเห่ปกติ ใช้บทเห่แบบร้อยกรอง

          บทเห่เรือเล่นที่ทราบกันดี  คือบทเห่เรือซึ่งเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ทรงนิพนธ์ขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ  อันเป็นการนำบทเห่เรือเล่นมาใช้เห่เรือกระบวนหลวงในสมัยรัชกาลที่ ๔  พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยบทเห่เรือหลวงเดิมนั้นไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด บทเห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์เป็นการพรรณนาชมริ้วกระบวนเรือซึ่งนอกจากมีความไพเราะด้านวรรณกรรมแล้วยังมีประโยชน์ให้ทราบชื่อเรือพระที่นั่งในสมัยอยุธยาด้วย

          รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ  มีเรือพระที่นั้งกิ่งรัตนพิมานไชย เรือสรมุข เรือสมรรถไชย เรือสุพรรณหงษ์ เรือไชย  และเรือรูปสัตว์  เช่น เรือครุฑยุดนาค เรือคชสีห์ เรือราชสีห์ เรือม้าเรือสิงห์ เรือนาคา เรือมังกร เรือเลียงผา เรือนกอินทรี เป็นต้น

          อย่างไรก็ดี  กระบวนพยุหยาตราชลมารคได้มีการจัดกระบวนแตกต่างกันไปเป็นหลายอย่างขึ้นอยู่กับว่าเสด็จไปในการใด   ซึ่งได้มีพัฒนาการมาตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองเป็นอย่างช้า

การเสด็จเลียบพระนคร, การเสด็จเลียบพระนคร หมายถึง, การเสด็จเลียบพระนคร คือ, การเสด็จเลียบพระนคร ความหมาย, การเสด็จเลียบพระนคร คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

บทความอื่น ของสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 21

สารานุกรมเล่มอื่นๆ

คำยอดฮิต

Sanook.commenu