ระยะเวลาการพ่นสารเคมีก่อนฝนตกว่าควรพ่นเมื่อไรจึงจะทำให้สารเคมีถูกดูดซึมได้และไม่ถูกชะล้าง?
nbsp ระยะเวลาการพ่นสารเคมีก่อนฝนตกว่าควรพ่นเมื่อไรจึงจะทำให้สารเคมีถูกดูดซึมได้และไม่ถูกชะล้าง
nbsp ระยะเวลาการพ่นสารเคมีก่อนฝนตกว่าควรพ่นเมื่อไรจึงจะทำให้สารเคมีถูกดูดซึมได้และไม่ถูกชะล้าง
ถ้าเป็นสารกำจัดวัชพืช ประเภทพ่นก่อนการงอกของวัชพืชใช้พ่นคลุมผิวดินก่อนเมล็ดวัชพืชงอก ก่อนพ่น ควรค่อนข้างแน่ใจว่าไม่มีฝนตกหรือฝนตกหนักจนนำท่วมขังหรือไหลชะล้างหน้าดิน จะทำให้สารเคมีถูกชะล้างลงไปใต้ดินหรือพัดพาไปจากผิวดินได้ สภาพที่เหมาะสมของการพ่นสารประเภทพ่นก่อนการงอกดินควรมีความชื้น พอที่จะช่วยให้เมล็ดวัชพืชมีการงอกขึ้นมา และสารกำจัดวัชพืชที่พ่นมีโอกาสถูกดูดซึมเข้าไปทางยอดอ่อนหรือปลายรากของวัชพืชและทำลายวัชพืชได้ แต่ถ้าดินมีความชื้นไม่พอ เมล็ดวัชพืชไม่มีการงอก โอกาสที่สารจะเข้าไปในพืชก็ไม่มี ยิ่งถ้าสภาพอากาศร้อน หรือพ่นทิ้งไว้นานๆ สารที่พ่นไว้ก็มีโอกาสสูญเสียโดยวิธีอื่นๆได้อีก ถ้าเป็นสารกำจัดวัชพืชประเภทพ่นหลังการงอกของวัชพืช คือพ่นไปบนต้นวัชพืช ก่อนพ่นต้องแน่ใจว่าจะไม่มีฝนตกทันที หรืออย่างน้อยควรมีระยะปลอดฝนประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง หรือหลังพ่นควรให้พืชได้รับแสงแดด 3 - 4 ชั่วโมง เพื่อให้สารกำจัดวัชพืชที่พ่นมีโอกาสถูกดูดซึมเข้าไปในต้นพืช ไปสู่จุดที่จะทำลายหรือเป็นพิษต่อพืชได้ ข้อสำคัญจะต้องพ่นให้สารโดนต้นพืช ตกค้างบนพืชได้นานพอที่จะถูกดูดซึม และเลือกใช้สารที่จะไม่เป็นอันตรายต่อพืชปลูกหรือระวังไม่ให้ปลิวไปเป็นอันตรายต่อพืชที่อยู่ใกล้เคียง ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!