ไข่เค็มไชยาสุดยอดไข่เค็ม - ถามตอบที่ Sanook! Guru

            ชาวอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฏร์ธานี รู้จักทำไข่เค็มเก็บไว้กินนาน ๆ   มาแต่โบร่ำโบราณ เนื่องจากในท้องที่อำเภอไชยาเป็นพื้นที่ที่มีการทำนามากที่สุดในจังหวัด ชาวนาทุกครอบครัวนิยมเลี้ยงเป็ด โดยปล่อยทุ่งให้เป็ดไปหากุ้งหอยปูปลาในธรรมชาติกินเป็นอาหาร ทำให้ไข่แดงมีสีแดงจัด   ไม่มีกลิ่นคาว และจะมันผิดกับไข่เป็ดในท้องถิ่นอื่น ๆ เมื่อนำไข่เป็ดนี้มาทำเป็นไข่เค็ม ก็ปรากฏว่าอร่อยเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้ชิม กลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อของอำเภอไชยา ถึงกับปรากฏอยู่ในคำขวัญของ จังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ว่า “ เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ ”             “ ซองคำถาม ” เชื่อว่าชื่อเสียงของไข่เค็มไชยาผูกพันแน่นแฟ้นกับสวนโมกขพลาราม เพราะเมื่อมีผู้ศรัทธาในท่านพุทธทาสมากเข้า สวนโมกขพลารามก็กลายเป็นสถานที่สำคัญ มีผู้แวะไปที่นั้นสัปดาห์ละหลายพันคน ไข่เค็มไชยาที่วางขายตามแผงลอยหน้าสวนโมกขพลาราม ก็กลายเป็นของฝากยอดนิยมประกอบกับเมื่อถึงยุคส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ละจังหวัด พยายามหาเอกลักษณ์ประจำถิ่นบรรจุไว้ในคำขวัญ ไข่เค็มไชยาซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพ ก็ได้ quot รับเกียรติ ” นี้ ทำให้ไข่เค็มไชยามีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วประเทศ             คนไชยาแนะนำวิธีกินไข่เค็มว่า   นอกจากต้มหรือนำมายำแล้ว ไข่เค็มระยะการทำ ๑๐-๑๕ วัน ยังไม่ต้ม นำมาทอด เป็นไข่ดาวกินอร่อยนัก หรือนำไข่เค็มที่เค็มจัด ยังไม่ต้ม มาตีผสมกับไข่สด ใส่กะทิ นำไปนึ่งจนสุกโรยหน้าด้วยหอมเจียวเป็นตุ๋นไข่เค็มรสโอชา             มีใครเคยสังเกตหรือไม่ว่า ไข่เค็มที่ขายตามท้องตลาดเปลือกไข่จะมีแป้งขาว ๆ จับอยู่ เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเวลาแม่ค้าต้มไข่เค็ม เขาจะใส่สารส้มลงไปด้วยเพื่อกัดเปลือกไข่เค็มให้เป็นนวลสวย             ไข่เค็มไม่จำเพาะต้องใช้ไข่เป็ดเท่านั้น ไข่ไก่ก็ใช้ทำไข่เค็มได้ ดังที่ ม ล เนื่อง นิลรัตน์ เล่าไว้ใน “ ชีวิตในวัง ” ว่า ในวังสวนสุนันทานั้น ไข่เค็มทำด้วยไข่ไก่ เพราะพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ โปรดการเลี้ยงไก่พันธุ์นอก มีไข่มากมาย   จึงสั่งให้ห้องเครื่องทดลองนำไข่ไก่มาทำไข่เค็มปรากฏได้ผลดี สีสันและรสชาติไม่แพ้ไข่เค็มที่ทำจากไข่เป็ดเลย   “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”