อาชีพเก่าแก่ที่สุดในโลก?
คำกล่าวที่ว่า ldquo โสเภณีเป็นอาชีพเก่าแก่ที่สุดในโลก rdquo nbsp เป็นจริงหรือไม่ ไม่ลงชื่อ nbsp กรุงเทพฯ
คำกล่าวที่ว่า ldquo โสเภณีเป็นอาชีพเก่าแก่ที่สุดในโลก rdquo nbsp เป็นจริงหรือไม่ ไม่ลงชื่อ nbsp กรุงเทพฯ
คำถามนี้ตอบยาก รู้แต่ว่าในประวัติศาสตร์มนุษยชาตินั้นอาชีพโสเภณีมีมานานแล้ว แต่ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นอาชีพเก่าแก่ที่สุดหรือเปล่า กล่าวเฉพาะโสเภณีในพุทธศาสนา คำว่า โสเภณี ปรากฏในพระไตรปิฏก โดยย่อมาจากคำว่า “ นครโสภิณี quot หมายถึง หญิงงามเมือง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่กษัตริย์แห่งแคว้นวัชชีเป็นผู้มอบให้เป็นครั้งแรก หญิงผู้ที่จะได้รับตำแหน่งดังกล่าวจะต้องมีความงามเป็นพิเศษ นอกจากนั้นแล้วเธอจะต้องเป็นผู้ที่รอบรู้ในศิลปศาสตร์ทั้ง ๖๔ ประการ เช่น การขับร้อง นาฏดนตรี กาพย์กลอน และที่สำคัญคือ ศิลปะจากกามสูตร ด้วยเหตุที่หญิงนางนี้เป็นที่ต้องการทั้งในหมู่กษัตริย์จากเเคว้นต่าง ๆ เจ้าชาย และบรรดาขุนนาง เธอจึงเป็นเหตุให้เกิดการรบพุ่งในบรรดาเจ้านายเหล่านี้ได้ง่าย ๆ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว กษัตริย์ของเมืองนั้นจึงประทานตำแหน่งและแต่งตั้งให้เธออยู่ในตำแหน่งโสเภณี เพื่อเธอจะได้ไม่ต้องเป็นของคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ ขณะเดียวกันเธอก็เป็นของทุก ๆ คนที่สามารถสู้ราคาของเธอได้ ราคาค่าตัวของโสเภณีเหล่านี้จะสูงมากจนคนธรรมดาไม่มีสิทธิ์ ดังนั้นเธอจึงให้บริการเฉพาะเจ้านายชั้นสูงและกลุ่มขุนนาง โสเภณีนางหนึ่งมีค่าตัวกึ่งหนึ่งของแคว้นกาสี อาจารย์ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ ผู้เขียนบทความเรื่อง “ โสเภณีในสมัยพุทธกาล ” ที่ quot ซองคำถาม ” คัดข้อความมาเผยแพร่ต่อนี้ ยังเล่าเรื่องโสเภณีไว้อีกว่า ในวัฒนธรรมกรีกโรมันโบราณมีพิธีกรรมทางศาสนาที่ผู้หญิงต้องถวายตัว สมสู่กับชายที่ตนไม่รู้จักเพื่อเป็นการเซ่นไหว้เทพเจ้า รายได้ที่ได้จากพิธีกรรมดังกล่าวจะเป็นเงินถวายวัดโดยตรง โดยเชื่อกันว่าการกระทำดังกล่าวเทพเจ้าย่อมประทานพรมากเป็นสองเท่า สถานบริการของโสเภณีเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมาก่อน๒ ๖๐๐ ปีที่ผ่านมา โดยโซลอน Solon นักกฎหมายและนักปฏิรูปสังคมของชาวกรีก ตามความเข้าใจของโซลอนนั้น การจัดตั้งสถาบันโสเภณีเป็นการลดปัญหาความสำส่อนทางเพศของชายและหญิง รายได้จากสถานบริการดังกล่าวจะเป็นเงินบำรุงวัดโดยตรง ประมาณศตวรรษที่ ๕ ก่อนคริสตกาล ผู้หญิงชาวบาบิโลนก็ต้องพลีร่างกายอย่างน้อยที่สุดหนึ่งครั้งในชีวิต ในโบสถ์ของเทพีมิลิตตา The Goddess Mylitta การพลีร่างกายถวายเทพเจ้าถือเป็นการทำบุญที่สังคมสมัยนั้นยกย่อง แม้สังคมจะประณามอาชีพนี้ แต่ก็ดูเหมือนว่ายังไม่มีประเทศใดที่จะขจัดอาชีพนี้ได้สำเร็จ แม้นักบุญออกัสติน St Augustine ก็ดูเหมือนจะสนับสนุนอาชีพนี้ ในแง่ที่อาชีพนี้ ทำให้สังคมผัวเดียวเมียเดียวเป็นไปได้มั่นคงขึ้น นาเนตต์ เดวิส Nanett Davis ซึ่งเป็นนักสังคมวิทยาดูจะมีความเห็นแตกต่างกันไป นาเนตต์เห็นว่าควรให้มีอาชีพโสเภณี เพราะเป็นการที่ผู้ชายจะมีทางออกในการระบายความต้องการทางเพศโดยไม่ต้องมีความรับผิดชอบมากนักนอกจากค่าใช้จ่ายทางการเงินเล็กน้อย ในขณะที่นักวิชาการหลายคนถือว่าอาชีพโสเภณีเป็นการกดขี่ทางเพศ โดยผู้หญิงถูกกระทำในลักษณะที่เป็นสินค้าที่จะตอบสนองความต้องการทางเพศของผู้ชาย นอกจากนั้นพวกเขาก็ยังชี้ให้เห็นว่า โครงสร้างทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจสนับสนุนอาชีพโสเภณี โดยผ่านมาทางทัศนคติและค่านิยมของสังคมที่เห็นว่าหญิงมีไว้เพื่อบำเรอชาย “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!