กำจัดผมแตกปลาย
แม้จะดูทำร้ายจิตใจคนรักผม แต่ก็ต้องขอบอกเลยว่าไม่มีวิธีการไหนที่สามารถกำจัดผมแตกปลายได้ดีเท่ากับการตัด การเข้าร้านตัดผมอย่างสม่ำเสมอทุก 6-8 สัปดาห์ เพื่อแต่งเล็มผมให้เป็นทรงอยู่เสมอ จะเป็นการตัดเล็มเอาส่วนปลายผมที่แห้งเสียออกไปด้วย แต่หากคุณต้องการเล็มหรือตัดผมที่แตกปลายออกด้วยตัวเองในเบื้องต้น ให้ตัดผมเหนือส่วนที่แตกปลายขึ้นมาราว 1/4 นิ้ว เพื่อไม่ให้อาการแตกปลายกลับมาปรากฏขึ้นอีก
ส่วนการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ปัญหาผมแห้งแตกปลายนั้น ความจริงแล้วทำได้เพียงทำให้เคลือบผมส่วนที่แตกปลายเอาไว้ไม่ให้เสียความชุ่มชื้นไปมากกว่าเดิม และทำให้ดูสุขภาพดีขึ้นเท่านั้น แต่ผมที่ยังแตกปลายก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ก็สามารถช่วยป้องกันอาการผมแตกปลายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
ป้องกันและดูแลปัญหาผมแตกปลาย
กิจกรรมที่คุณปฏิบัติต่อเส้นผมในชีวิตประจำวันก็มีส่วนในการทำร้ายเส้นผมให้แห้งแตกปลายได้เช่นกัน และจะยิ่งถูกทำร้ายหนักหากคุณไม่เอาใจใส่เพราะกิจกรรมทั้งหลายล้วนเป็นเรื่องใกล้ตัว เช่น การสระผม เซ็ตผม ดัด ทำสี แม้แต่น้ำที่สัมผัสกับเส้นผมก็ทำร้ายมันได้เช่นเดียวกัน เพื่อที่จะป้องกันและดูแลเส้นผมของคุณให้ห่างไกลจากปัญหาผมแห้งแตกปลายอย่างมีประสิทธิภาพ ลองเอาใจใส่ผมให้มากขึ้นตามคำแนะนำด้านล่างนี้ดูค่ะ
1. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับเส้นผมให้มากที่สุด หากคุณพอใจผมที่ตัวเองมีอยู่แล้วจงอย่าไปทำสี หรือดัดผม หรือเลือกทำสีโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคามอ่อนโยนกับเส้นผมมากที่สุด
2. ไม่ให้เส้นผมสัมผัสกับน้ำในสระว่ายน้ำหรือน้ำทะเลโดยตรง คุณสามารถปกป้องเส้นผมในขั้นแรกก่อนได้โดยการใช้ออยล์ หรือผลิตภัณฑ์ประเภทลีฟอินคอนดิชั่นเนอร์กับเส้นผม จากนั้นไม่ลืมที่จะใช้หมวกว่ายน้ำคลุมผมด้วยทุกครั้ง
3. หากพบว่าน้ำประปาที่บ้านของคุณมีส่วนประกอบของคลอรีนหรือแคลเซียมมากเกินไป การลงทุนติดตั้งเครื่องกรองน้ำจะช่วยแก้ปัญหาได้ ดีกว่าปล่อยให้เส้นผมถูกทำร้ายในระยะยาว
4. เลือกใช้แชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ที่เหมาะกับสภาพผมของคุณ ไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่คิดค้นขึ้นมาแล้วจะใช้ได้ผลดีกับทุกๆ คน คุณจึงจำเป็นต้องเลือกใช้สิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
5. เมื่อสระผมให้ใส่แชมพูลงบนฝ่ามือแล้วขยี้ที่หนังศีรษะ หาใช่ขยี้ลงบนเส้นผมเพราะสารในแชมพูจะช่วยขจัดความมันที่หนังศีรษะ หากใช้กับเส้นผมอาจดึงความชุ่มชื้นไปจากผมทำให้ผมแห้งได้ ในทางกลับกันการใช้ครีมคอนดิชั่นเนอร์ให้ใช้ที่บริเวณเส้นผม หลีกเลี่ยงการใช้กับบริเวณหนังศีรษะเพราะจะไปเพิ่มความมัน ทำให้ผมดูลีบแบนนั่นเอง
6. หมักผมอย่างน้อยที่สุดเดือนละ 2 ครั้ง การหมักผมจะช่วยเติมสารอาหารอย่างเข้มข้นให้กับเส้นผม เพื่อฟื้นฟูบำรุงผมส่วนที่ขาดการดูแลหรือถูกทำร้ายจากสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
7. เปลี่ยนพฤติกรรมการเช็ดผม จากการใช้ผ้าขนหนูขยี้บนเส้นผม เป็นค่อยๆ ใช้ผ้าขนหนูบิดและซับเบาๆ แทน และหากไม่รีบร้อนนักการปล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง
8. ไม่หวีหรือแปรงผมมากเกินไป เพราะการกระทำเหล่านี้เป็นการทำร้ายผมที่แตกปลายมากที่สุด ทำให้ปลายผมเสียความชุ่มชื้นและยิ่งแตกปลายมากขึ้น
9. ไม่ยีผมหรือหวีผมในแนวย้อนศร การหวีผมในแนวย้อนขึ้นจะไปเปิดเกล็ดผมและเมื่อมีการหวีย้อนซ้ำๆ อีก ก็จะไปดึงเกล็ดผมเปล่านี้ให้หลุดฉีกออกจากเส้นผมทำให้ผมเสียนั่นเอง
10. หวีผมอย่างเบามือ โดยเริ่มจากการหวีที่ปลายผมลงไปแล้วค่อยๆ ไล่ขึ้นมาจนถึงหนังศีรษะ หากหวีแล้วพบว่าผมพันกันอย่ากระชากหวีหรือพยายามสางลงไปให้สุดปลาย วางหวีลงแล้วค่อยๆ ใช้มือแกะผมที่พันกันออก สางด้วยนิ้วแล้วจึงใช้หวีหวีซ้ำอีกครั้ง
ที่มาข้อมูล n3k.in.th
ที่มารูปภาพ banlady.com