การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม เป็นการผ่าตัดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ทำให้ผู้ป่วยหายจากอาการเจ็บปวดทรมาน สามารถเคลื่อนไหวข้อเข่าและเดินได้เป็นธรรมชาติ รวมถึงรูปร่างของข้อเข่าดูสวยงามขึ้น
เทคโนโลยีในการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมในปัจจุบันได้มีการพัฒนาไปอย่างมากใน 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่
1. การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมแบบเนื้อเยื่อบาดเจ็บน้อย หรือ MIS-TKA (Minimally Invasive Surgery-Total Knee Arthroplasty)
2. การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมโดยใช้คอมพิวเตอร์นำร่องช่วยผ่าตัด (Computer Navigation Total Knee Arthroplasty)
3. การพัฒนาข้อเข่าเทียมเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ (Gender Knee)
เนื่องจากผู้หญิงเป็นเพศที่มีปัญหาของข้อเข่าเสื่อมที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา โดยการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมมากกว่าผู้ชาย และโครงสร้างสรีระของผู้หญิงเองก็แตกต่างกับผู้ชาย จึงทำให้บริษัทผู้ผลิตข้อเข่าเทียมพยายามที่จะพัฒนาออกแบบข้อเข่าเทียมเพื่อให้เหมาะกับผู้หญิงโดยเฉพาะ ข้อเข่าเทียมสำหรับผู้หญิงมีความแตกต่างจากข้อเข่าเทียมปกติใน 3 เรื่องสำคัญ คือ
1. ความกว้าง รูปทรง และความโค้งเว้า ที่เหมาะกับสรีระของผู้หญิง
ผู้ออกแบบข้อเข่าเทียมวิจัยพบว่า ข้อเข่าผู้หญิงมีรูปทรงที่แตกต่างจากผู้ชาย โดยเข่าผู้หญิงมีอัตราส่วนความกว้างน้อยกว่าผู้ชาย ทำให้ผู้ออกแบบพยายามลดความกว้างของข้อเข่าเทียมลงให้เหมาะกับสรีระผู้หญิง ทำให้ผิวข้อเทียมไม่ล้นออกมานอกกระดูก ลดปัญหาการกดทับต่อเอ็นและเนื้อเยื่อรอบๆเข่าซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการปวดหลังผ่าตัด
ลดความกว้างของข้อเข่าเทียมให้เหมาะกับสรีระข้อเข่าของผู้หญิง ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ผิวข้อล้นออกมานอกกระดูก ซึ่งอาจก่อให้เกิดการกดทับเนื้อเยือและเส้นเอ็นรอบๆ ข้อเข่า จึงอาจเป็นสาเหตุของการปวดหลังผ่าตัด
2. รูปทรงของผิวข้อเทียมที่บางลง
โดยออกแบบให้ผิวข้อเทียมส่วนบนบริเวณที่สัมผัสกับลูกสะบ้ามีความหนาน้อยลง จึงเอื้อต่อการงอและเคลื่อนไหวได้เป็นธรรมชาติ
3. การเคลื่อนไหวของลูกสะบ้าอยู่ในร่องที่เหมาะสม
เนื่องจากผู้หญิงมีสะโพกที่ผายกว่าผู้ชาย มุมการเคลื่อนไหวของลูกสะบ้าจะมีความเอียงที่มากกว่าผู้ชาย จึงมีการออกแบบให้ผิวข้อเทียมส่วนบนมีรูปทรงของร่องที่รับไปกับลูกสะบ้าได้อย่างเหมาะสม ซึ่งทำให้การงอเข่าได้มุมงอที่เพิ่มขึ้น โดยสามารถรองรับการงอเข่าที่มากได้อย่างปลอดภัยถึง 155 องศา
แหล่งที่มา : https://www.phyathai.com