อยากรู้เรื่องซิป?
nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp ขอรบกวน nbsp |ซองคำถาม| nbsp อีกครั้ง nbsp อยากรู้เรื่องซิปเป็นภาษาอะไร nbsp มีชื่อเดิมไหม และมีประวัติความเป็นมาอย่างไร แค่นี้แหละ ไก่ ขอนก่น
nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp ขอรบกวน nbsp |ซองคำถาม| nbsp อีกครั้ง nbsp อยากรู้เรื่องซิปเป็นภาษาอะไร nbsp มีชื่อเดิมไหม และมีประวัติความเป็นมาอย่างไร แค่นี้แหละ ไก่ ขอนก่น
คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก |ซิป| เพราะใช้กันอยู่ทุกวี่วัน แต่ที่แปลกคือไม่เคยได้ยินใครเรียก |ซิป| ด้วยคำภาษาไทยหรือพูดถึงความเป็นมาของซิปกันเท่าไรนัก ซิปมีชื่อเต็มตามภาษาอังกฤษว่า ซิปเปอร์ Zipper เรื่องของซิปไม่ขลังด้วยความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ แต่เป็นเรื่องของการใช้ความอดทนอย่างสูงกว่าที่คนทั่วไปจะยอมรับ คือใช้เวลากว่า ๒๐ ปี ในการจูงใจให้คนใช้ ซ้ำแรกเริ่มที่ประดิษฐ์ขึ้นมาก็ไม่ได้สำหรับใช้กับเสื้อผ้า แทนกระดุมอย่างทุกวันนี้ แต่ใช้กับรองเท้าบู๊ต แทนเชือกรองเท้าบู๊ตแสนยาวที่กว่าจะสอดสลับรัดรองเท้าให้เข้ารูปได้ก็กินเวลานานเสียจนน่ารำคาญ เดือนสิงหาคม ปี ค ศ ๑๘๙๓ วิศวกรช่างกลผู้หนึ่งในชิคาโกชื่อ วิตคอมบ์ จั๊ดสัน ได้จดทะเบียนสิ่งประดิษฐ์ที่เขาคิดค้นขึ้นและเรียกว่า |แคลสพ์-ล็อคเกอร์ clasp-locker ในช่วงเวลานั้นไม่มีใครขอจดทะเบียนประดิษฐกรรมทำนองนี้เลยสักคน แคลสพ์-ล็อคเกอร์สองอันแรกของโลกใช้กับรองเท้าบู๊ตของจั๊ดสันและลุยส์วอล์คเกอร์ หุ้นส่วนธุรกิจของเขานั่นเอง แม้จั๊ดสันจะประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงจากสิ่งประดิษฐ์นับสิบอย่างของเขาซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องยนต์และที่ห้ามล้อรถไฟ แต่ของเล็ก ๆ อย่าง |ซิป| กลับไม่มีใครสนใจ อาจเป็นเพราะสิ่งประดิษฐ์นี้ประกอบด้วยห่วงและตะขอต่อเนื่องกันเป็นแถวดูคล้ายเครื่องทรมานเสียมากกว่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์อันทันสมัยที่ช่วยประหยัดเวลาได้ จั๊ดสันพยายามทำให้คนสนใจสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ของเขา โดยนำออกแสดงในงานแสดงสินค้านานาชาติที่ชิคาโก ประจำปี ๑๘๙๓ แต่ผู้เข้าชมงาน ๒๑ ล้านคน กลับสนใจแต่รถไฟฟ้าของเฟอริ ซึ่งนับเป็นรถไฟฟ้าคันแรกของโลก และมัวตื่นเต้นกับระบำอวดพุงที่แสดงในงาน ซิปอันแรกของโลกจึงไร้คนสนใจ แต่บริษัทยูนิเวอร์ซัล ฟาสเทนเนอร์ของจั๊ดสัน และวอล์คเกอร์ก็ได้รับใบสั่งสินค้าอยู่บ้างเหมือนกัน เป็นถุงไปรษณีย์ติดซิปจำนวน ๒๐ ใบ แต่ซิปเหล่านี้มักจะติดขัดจนต้องเลิกใช้ แม้จั๊ดสันจะพยายามปรับปรุงแก้ไข แต่ผู้ที่ทำสำเร็จกลับเป็นนักประดิษฐ์คนอื่น คือวิศวกรเชื้อสายสวีเดนและอเมริกา ชื่อกิเดียน ซันแบค ในปี ๑๙๑๓ เขาประดิษฐ์ซิปขนาดเล็กกว่า เบากว่า และเชื่อถือได้มากกว่าขึ้นมา ได้รับใบสั่งชื้อใบแรกจากกองทัพอเมริกาเพื่อใช้กับเสื้อผ้าละข้าวของเครื่องใช้ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๑ สำหรับคนทั่วไปจะใช้ซิปกับรองเท้าบู๊ต เข็มขัดใส่เงินและซองใส่ยาสูบ จนปี ๑๙๒๐ จึงจะเริ่มใช้กับเสื้อผ้าบ้างแต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเพราะทำจากเหล็ก สนิมขึ้นง่าย ขณะที่เสื้อผ้าต้องชักบ่อย ๆ นอกจากนี้คนยังคุ้นเคยกับการเอากระดุมใส่รังดุมมากกว่าจะรูดซิป เสื้อผ้าที่ใช้ซิปในสมัยนั้นจึงต้องแถมคู่มือเล็ก ๆ สำหรับการใช้และรักษาซิป ปี ๑๙๓๒ บริษัท บี เอฟ กู๊ดริช เสนอสินค้าใหม่ คือรองเท้าบู๊ตทำด้วยยางติด |ซิปไร้ขอ| และเรียกซิปแบบนี้ว่า ซิปเปอร์ซึ่งได้มาจากการเลียนเสียง “ ซ ซ ซิป ” ที่เกิดขึ้นขณะรูดซิปที่รองเท้าบู๊ต เมื่อมีชื่อแปลก ๆ มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นและยังไม่เป็นสนิม ซิปจึงเป็นที่นิยมทั่วไป ซิปเริ่มเข้ามาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเสื้อผ้าอาภรณ์อย่างเห็นได้ชัดในปลายศตวรรษที่ ๒๐ นี้เอง คือในปี ๑๙๓๕ เอลสา เชีย-ปาเรลลิ นักออกแบบเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียงผู้หนึ่งเสนอแบบเสื้อผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งได้มีการผลิตซิปติดกับแถบผ้าโดยมีขนาดและสีสันต่าง ๆ ปัจจุบันเราใช้ชิปกันอย่างแพร่หลายและกับสิ่งของหลากชนิดแม้กระทั่งชุดนักบินอวกาศก็ใช้ แต่น่าสงสารวิตคอมบ์ จั๊ดสันผู้ริเริ่มประดิษฐ์ซิป เขาเสียชีวิตในปี ๑๙๐๙ ในขณะที่เขาปลงแล้วว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาคงเป็นได้แค่ของตั้งไว้ดูเท่านั้นเอง หารู้ไม่ว่าเดี๋ยวนี้มันได้ร่วมเดินทางไปอวกาศมาแล้ว “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!