นอกจากว่านหางจระเข้จะช่วยรักษาอาการที่เกิดขึ้นจากภายในร่างกายแล้ว สาวๆ ก็ยังนิยมนำพืชชนิดนี้มาประยุกต์ใช้สำหรับบำรุงความสวยความงามภายนอก อย่างการบำรุงผิวพรรณให้ดูขาว กระจ่างใส เนียนนุ่มได้อีกด้วย ทั้งสิว ฝ้า กระจะหายไปอย่างไร้กังวล
ปัญหาหนึ่งที่มักเกิดขึ้นกับสาวๆ อยู่เป็นประจำ เวลาที่จะต้องออกนอกบ้านไปเจอกับแสงแดดและมลภาวะตามท้องถนน อาจทำให้เกิดฝ้าบนผิวหน้า หรือตามผิวหนังส่วนต่างๆ ได้ แต่นั่นจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะว่านหางจระเข้สามารถช่วยบรรเทาการเกิดฝ้าได้ ปลอดภัย เพียงนำเจลว่านหางจระเข้มาใช้แต้มลงบนผิว เพราะในเนื้อเจลมีคุณสมบัติที่ช่วยในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันการอักเสบได้เป็นอย่างดี จะเข้าไปช่วยผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่เกิดฝ้าทำให้ฝ้าจางลงไปได้ นอกจากนั้นยังช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น สุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์
ประโยชน์ของว่านหางจระเข้
- แก้ปวดศีรษะ นำว่านหางจระเข้ตัดให้เป็นแว่นบางๆ เอาปูนแดงทาที่วุ้น แล้วปิดที่ขมับ จะทำให้เย็นหายปวด
- แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ใช้น้ำเมือกจากว่านหางจระเข้รักษา แผลไฟลวก ขนาดรุนแรงที่สุด โดยทาน้ำเมือกที่แผลให้เปียกอยู่เสมอ แผลจะหายรวดเร็วมาก อาการปวดแผลหรือการเกิดแผลเป็นจะมีน้อยมากหรือไม่มีเลย
- ผิวไหม้เพราะถูกแดดเผา ใช้วุ้นหางจระข้ทาบ่อยๆ ช่วยลด อาการปวดแสบปวดร้อน ผิวตึง และลดจำนวนผิวที่ลอก
- แผลจากของมีคมและแผลอื่นๆ ทำความสะอาดแผลเสียก่อน แล้วเอาวุ้นปิดลงที่แผลให้สนิท เอาผ้าปิดไว้ แล้วหยอดน้ำเมือกลงไปให้ผ้าตรงบริเวณที่แผลเปียกอยู่เสมอ ช่วยให้แผลหายเร็ว และลดรอยแผลเป็น
- กระเพาะลำไส้อักเสบ รับประทานวุ้นหางจระเข้ ๑-๒ ช้อนโต๊ะ วันละหลายๆ ครั้ง ใช้ได้ผลในรายที่ลำไส้ใหญ่อักเสบ หรืออวัยวะอื่น ในทางเดินอาหารเกิดการอักเสบ
- บำรุงผมและหนังศีรษะ ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ ชโลมผมให้ทั่ว ทิ้งไว้ให้แห้ง รุ่งเช้าจึงใช้น้ำล้างออก ทำให้ผมดกดำเป็นเงางาม หวีง่ายขึ้น และรักษาแผลบนหนังศีรษะ (ก่อนใช้ควรทดลองก่อนว่า แพ้ว่าน หรือไม่ และควรใช้แต่น้อยดูก่อน ที่สำคัญอย่าให้ยางถูกผมเพระายางจะ กัดหนังหัว)
- ป้องกันการติดเชื้อ ใช้วุ้นหางจระเข้ ทาแผลรักษาแผลติดเชื้อได้ ทำให้แผลดีขึ้น ภายใน ๑๒ ชั่วโมง
- ผื่นคันที่เกิดจากการแพ้สารต่างๆ เนื่องจากวุ้นหางจระข้จะมีฤทธิ์ระงับปวด จึงช่วยลดอาการคันด้วย และยังช่วยให้ผื่นคันหายเร็ว
- ขี้เรือนกวาง และผื่นปวดแสบปวดร้อน ใช้วุ้นหางจระเข้ กินวันละ ๑-๒ ครั้งๆ ละ ๑-๒ ช้อนโต๊ะ และทาควบคู่กันไป ว่านหางจระเข้ เป็นยาฝาดสมาน อาจทำให้ผิวแห้งได้ จึงควรผสมน้ำมันทาผิว หรือ น้ำมันอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย
- ลบรอยแผลเป็น ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ทา เช้า-เย็น จะลดรอย แผลเป็น
- ลบท้องลายหลังคลอด ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ทาผิวท้อง ขณะตั้ง ครรภ์ แม้หลังคลอดแล้วก็ควรใช้ทาต่อเพื่อช่วยให้ผิวหน้าท้องกลับคืนสู่ สภาพปกติ คนที่เคยใช้ยืนยันว่าได้ผลดี
- เส้นเลือดดำขอดที่ขา ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ ทาที่บริเวณเส้นเลือด ดำขอด และมีบางคนใช้ได้ผลดีมาก
- มะเร็งที่ผิวหนัง ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ ทาวันละ ๒-๔ ครั้ง เป็นเวลาหลายเดือน
- แผลครูดและแผลถลอก ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ทาเบาๆ ให้ทั่วใน ๒๔ ชั่วโมงแรก ทาบ่อยๆ แผลจะไม่ค่อยเจ็บและหายเร็วมาก
- โรคปวดตามข้อ รับประทานวุ้นว่านหางจระเข้ เป็นประจำจะหาย ปวดได้
ใครที่กำลังเจอฝ้ารุกรานผิวหน้าของเราแล้วล่ะก็ ลองเอาเจลว่านหางจระผสมกับครีมแดดทาลงบนผิวหน้า รับรองว่าจะช่วยป้องกันและช่วยฟื้นบำรุงได้ในคราวเดียว หรือถ้าเกิดว่าใครอยากจะรักษาฝ้าไปพร้อมๆ กับบำรุงผิวหน้าไปด้วยในตัว วันนี้เราก็มีเทคนิคดีๆ มาฝากกัน จะได้ลองเอาไปใช้เพิ่มความสวยและความกระจ่างใสยังไงล่ะ …
มาร์คหน้าด้วยว่านหางจระเข้
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ว่านหางจระเข้
- สาหร่ายทะเล (สาหร่ายเคลป์) 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง ½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
แกะเอาเนื้อเจลว่านหางจระเข้ออกมาประมาณ ½ ช้อนโต๊ะใส่ลงไปในถ้วย โดยเลือกให้มีขนาดพอเหมาะ สูตรนี้ต้องแน่ใจว่าใช้เนื้อเจลสดๆ จากธรรมชาติ หากใครที่ซื้อเจลแบบหลอดมาใช้ควรดูด้วยว่าไม่มีสารเคมีใดๆ ผสมอยู่กับเนื้อเจลว่านหางจระเข้
นำสาหร่ายทะเล แนะนำว่าให้ใช้สาหร่ายแคลป์ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมลงไปในถ้วยที่เราเตรียมเนื้อเจลว่านหางจระเข้เอาไว้ จากนั้นใส่น้ำผึ้งลงไปผสมประมาณ ½ ช้อนโต๊ะ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 10 นาที
วิธีใช้
- ล้างหน้าให้สะอาด จากนั้นใช้ผ้าสะอาดๆ เช็ดทั่วบริเวณหน้าให้แห้ง
- ทาส่วนผสมที่เราเตรียมเอาไว้ให้ทั่วบริเวณผิวหน้า ยกเว้นรอบดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที
- เมื่อครบเวลาที่กำหนดแล้ว ให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่น แนะนำว่าอย่าใช้สบู่ล้างส่วนผสมออกโดยเด็ดขาด
สำหรับสูตรรักษาฝ้านี้ควรทำต่อเนื่องประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ คาดว่าจะเห็นผลที่ชัดเจนหลังจากใช้สูตรนี้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการบำรุงรักษาและเห็นผลอาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละคนด้วย
เพิ่มเติม อีกหนึ่งวิธีที่เป็นของแถมเอามาฝากกัน เป็นการใช้เนื้อเจลว่านหางจระเข้ทาตรงบริเวณที่เกิดฝ้าโดยตรง วิธีใช้ คือ ให้ทาก่อนเข้านอนประมาณ 30 นาที เพื่อให้เนื้อเจลค่อยๆ ซึมเข้าผิวหน้าและแห้ง สามารถเข้านอนได้โดยที่ไม่ต้องล้างออก ให้ทิ้งไว้ทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นในตอนเช้าจึงใช้น้ำธรรมดาล้างออก แนะนำว่าให้ทำต่อเนื่องกันประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นผลชัดเจนว่าฝ้าจางลง
การปลูกและการดูแลว่านหางจระเข้
ว่านหางจรเข้ถือเป็นพืชที่ปลูกง่าย พืชทนแล้ง ไม่ค่อยมีศัตรูพืชรบกวน เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องดูแลก็สามารถเติบโตได้ ซึ่งสายพันธุ์ของพืชชนิดนี้มีมากกว่า 300 สายพันธุ์ มีหลากหลายขนาด ในอดีตนั้นว่านหางจรเข้เคยเป็นพืชยอดนิยมในประเทศไทย มีกระแสมากในตลาดผู้บริโภค ทั้งนำไปใช้เป็นยา ทำไปใช้ประกอบอาหาร และนำไปใช้ผสมทำน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ หากใครสนใจอยากทำการเกษตรอย่างจริงจัง ว่านหางจระเข้ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่ในปัจจุบัน
การปลูก
ให้ขุดหลุมลึกประมาณ 10 - 20 เซนติเมตร จากนั้นใส่ใบไม้แห้ง ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักลงไปเล็กน้อย ต่อจากนั้นให้นำต้นพันธุ์ว่านหางจระเข้ลงปลูก กลบดินให้เสมอโคนต้น เมื่อเสร็จแล้วใก้กลบดินบางๆ แล้วกลบดินเพิ่มอีกชั้นเพื่อให้เกิดความแน่นประมาณหนึ่ง ซึ่งการปลูกว่านหางจระเข้ควรปลูกให้มีระยะห่างระหว่างต้นและระหว่างแถว ประมาณ 50 X 70 เซนติเมตร หากปลูกในแปลง ไม่ได้ปลูกในกระถาง
การดูแลรักษา
เริ่มต้นจากการให้ปุ๋ย ควรเลือกเป็นปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก พิจารณาระยะการให้ปุ๋ยโดยดูจากการเจริญเติบโตของต้นว่านหางจระเข้ ระวังอย่าให้ปุ๋ยมากจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้เกิดการเน่าได้ ควรใส่ปุ๋ยคอกเพียงเดือนละครั้ง ส่วนการให้น้ำ หากเป็นหน้าฝน หรือวางกระถางที่ปลูกว่านหางจระเข้ไว้กลางแจ้งอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องรดน้ำ แนะนำว่าควรทำให้ดินนั้นชุ่มฉ่ำอยู่เสมอ แต่ต้องระวังว่าอย่ารดน้ำจนดินแฉะจนเกินไป ควรให้น้ำแบบเป็นฝอยกระจาย สม่ำเสมอและเพียงพอ ห้ามใช้วิธีการรด หรือเทราดโดยเด็ดขาด เนื่องจากน้ำอาจเข้าไปขังในโคนกาบใบได้ นอกจากนั้น หากถูกแสงแดดเผาร้อนจัดก็จะทำให้ร้อนลวกใบว่าน ส่งผลให้ใบเน่าและต้นตายได้
วิธีกินว่านหางจระเข้รักษาอาการปวดตามข้อ
อย่างที่ทราบกันดีว่า ว่านหางจระเข้ นอกจากจะช่วยรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือบริเวณผิวหนังที่เกิดอาการแผลไหม้เกรียมได้แล้ว ว่านหางจระเข้ ก็ยังมีสรรพคุณที่ช่วยบรรเทาอาการปวดตามข้อต่างๆ ได้ เพราะในว่างหางจระเข้จะมีสารซึ่งออกฤทธิ์ลดการอักเสบและช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้อาการปวดตามข้อทุเลาลงได้ จะรับประทานอย่างไร ลองตามมาดูพร้อมกัน
วิธีรับประทาน
ปอกเปลือก จากนั้นล้างน้ำยางที่มีสีเหลืองออกมาให้สะอาด (หากละออกไม่หมดอาจทำให้เกิดอาการแพ้ หรือระคายเคืองได้)
เมื่อปอกเปลือกและล้างว่านหางจระเข้จนน้ำยางออกหมดแล้ว ให้เรารับประทานวุ้นใสสดๆ โดยรับประทานทุกวัน วันละ 2 - 3 ครั้ง ครั้งละ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ อาการปวดข้อก็จะทุเลาลงภายใน 2 เดือน
เป็นยังไงกันบ้างกับประโยชน์ของว่านหางจระเข้ที่เรานำมาฝากกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใด เราต้องไม่ลืมที่จะดูแลตัวเอง พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน ก่อนที่เราจะไปพึ่งพาตัวช่วยอื่นๆ อย่างคำกล่าวที่ว่า “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ”
ที่มาข้อมูล: eduzones.com, agriman.doae.go.th, ความรู้รอบตัว.com
ที่มารูปภาพ: n3k.in.th