ทำไมบ่ายสี่โมงจึงเป็นเวลาน้ำชา “tea time” ??
ทำไมบ่ายสี่โมงจึงเป็นเวลาน้ำชา “tea time” ?
(อินทิรา / กรุงเทพฯ)
ทำไมบ่ายสี่โมงจึงเป็นเวลาน้ำชา “tea time” ?
(อินทิรา / กรุงเทพฯ)
ชนชั้นแรงงานในชนบทของประเทศอังกฤษเลิกงานราวหกโมงเย็น แล้วจึงรับประทานอาหารมื้อใหญ่ของวัน โดยทั่วไปอาหารมื้อใหญ่ประกอบด้วยเนื้อที่ปรุงจนเปื่อยเหลว ใช้ทาบนขนมปัง ซึ่งเรียกกันว่า potted meat (แน่นอนพวกเขาไม่มี เงินมากพอจะกินสเต็กชิ้นโต) นอกจากเนื้อ ก็มีปลา เนยแข็ง สลัด ของหวาน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ชา อาหารในลักษณะนี้แหละที่เรียกกันว่า "high tea"
ส่วน "low tea" ซึ่งยังคงดำรงอยู่ทุกวันนี้ในฐานะเป็นเวลาน้ำชาตามธรรมเนียมของคนอังกฤษ คือ เวลาบ่ายสี่โมง ดัชเชสแห่งเบดฟอร์ดได้รับเครดิตว่าเป็นผู้ริเริ่มธรรมเนียมปฏิบัตินี้เป็นคน แรก ในราวปี ค.ศ. ๑๘๔๐ หรือเมื่อกว่า ๑๖๐ ปีมาแล้วท่านดัชเชสได้เริ่มรับประทานน้ำชากับของว่างเบาๆ ตอนบ่ายสี่โมงเพื่อขับไล่ "ความรู้สึกโหย" ที่คนมักจะเป็นในช่วงบ่ายแก่ๆ และเนื่องจากพวกชนชั้นสูงรับประทานอาหารมื้อค่ำดึกมาก ธรรมเนียมปฏิบัติของดัชเชสแห่งเบดฟอร์ดจึงนิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศอังกฤษ และได้กลายเป็นหนึ่งในจำนวนธรรมเนียม "ศักดิ์สิทธิ์" ที่สุดของชาวอังกฤษ
โดยข้อเท็จจริงชาวไอริชเป็นผู้บริโภคน้ำชารายใหญ่ที่สุด แซงหน้าชาวอังกฤษเสียด้วยซ้ำ ที่น่าประหลาดใจคือชาวกาตาร์นิยมดื่มชากันมากเป็นอันดับสาม รองลงมาคือ ชาวตุรกี ฮ่องกง และอิหร่านตามลำดับ
"ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี"
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!