
29 มิถุนายน พ.ศ.2424 : วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
29 มิถุนายน พ.ศ. 2424 วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระโอรสองค์ที่ 33 ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และ สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ทรงเป็นต้นราชสกุล บริพัตร ทรงศึกษาชั้นต้นที่พระตำหนักสวนกุหลาบ เมื่อทรงพระเจริญวัยมีพระชนมยุได้ 13 พรรษา ได้เสด็จไปทรงศึกษาต่อที่ประทศอังกฤษ แล้วย้ายไปศึกษาวิชาทหารที่ประเทศเยอรมัน และใช้เวลาส่วนพระองค์ศึกษาวิชาด้านประสานเสียงและการประพันธ์เพลงก่อนการเสด็จกลับประเทศไทย เมื่อเสด็จกลับจากยุโรปทรงเริ่มรับราชการครั้งแรกในตำแหน่งเสนาะการทหารบก เมื่อปี 2446 ขณะพระชนมายุเพียง 23 พรรษา ทรงสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าให้แก่กิจการที่ทางด้านการทหาร การปกครอง การสาธารณสุข การศึกษา ทรงวางรากฐานความเจริญของกองทัพเรือไทย กองทัพบก กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย ขณะดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก ได้เปลี่ยนชื่อ "กรมอากาศยานทหารบก" เป็น "กรมอากาศยาน" ทรงจัดหาเครื่องบินไว้ใช้ในราชการเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นอันมาก จัดให้มีการแสดงการบิน มีการสร้างเครื่องบินขึ้นใช้เอง จัดตั้งกองบินต่าง ๆ สร้างสนามบินในต่างจังหวัด เปิดสายการบินไปรษณีย์ทางอากาศไปต่างจังหวัดทำการบินไปเจริญสัมพันธไมตรีอวดธงในต่างประเทศ และเชิญชวนประชาชนที่มีความนิยมศรัทธาบริจาคทร้พย์ซื้อเครื่องบินมาใช้ราชการได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังทรงพระปรีชาสามารถในงานดนตรี ทรงพระนิพนธ์เพลงไทย เพลงฝรั่ง และเพลงไทยเดิมไว้จำนวนมาก เช่น วอทซ์ปลื้มจิต, วอทซ์ชุมพล, สุดเสนาะ, เพลงมหาฤกษ์, เพลงมหาโศก ฯลฯ กระทั่งทรงได้รับการขนานพระนามเป็น "พระบิดาแห่งเพลงไทยเดิม" ในปี 2474 สิ้นพระชนม์ด้วยพระโรคไตและพระหทัย ณ ตำนักประเสบัน เมืองบันดุง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2487 รวมพระชนมายุได้ 63 ชันษา