เป็นอีสุกอีใสทำอย่างไรดี??
เป็นอีสุกอีใสทำอย่างไรดี
เป็นอีสุกอีใสทำอย่างไรดี
ส่วนใหญ่คนที่เป็นอีสุกอีใสจะมีอาการไม่มาก ทำให้สามารดูแลที่บ้านได้ เพราะอาการที่เด่นก็คือเรื่องไข้ และตุ่มตามตัวที่จะมีอาการแสบๆ คันๆ ทำให้รำคาญ หรือหงุดหงิดได้ ในการดูแลเรื่องไข้ ควรให้แต่ยาพาราเซตามอล ไม่ควรใช้ยาแอสไพริน เพราะมีรายงานว่าอาจทำให้เกิดกลุ่มอาการราย Reye|s syndrome ซึ่งอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ ถ้ามีอาการคันมาก ควรให้อาบน้ำด้วยน้ำอุ่นสบาย และใช้สบู่อ่อน สบู่เหลว ช่วยทำความสะอาดได้ จะรู้สึกสบายตัวขึ้น และเป็นการลดการติดเชื้อแทรกซ้อนของผิวหนัง ไม่ควรเช็ดตัวแรงๆ แต่ให้ใช้ผ้าซับเบาๆ ไม่ควรทาโลชั่นต่างๆ เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ควรตัดแต่งเล็บให้สั้น เพราะเมื่อเด็กคันจะเกามาก ทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน และเป็นแผลเป็นได้ โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะ แต่ถ้ามีไข้สูงมากและมีผื่นขึ้นเยอะตามตัว ที่บางครั้งดูจะมีการติดเชื้อแทรกซ้อนด้วยเชื้อแบคทีเรีย ก็ควรพบแพทย์ และอาจต้องพิจารณา ให้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย ในรายที่เป็นรุนแรง หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น คนที่เป็นเอดส์ มะเร็ง มีปัญหาโรคปอด หรือมีโรคประจำตัวที่ต้องทานยาสเตียรอยด์อยู่เป็นประจำตามที่แพทย์สั่ง คนเหล่านี้อาจเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ได้ง่าย จึงควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากมียาต้านฤทธิ์ ไวรัสอีสุกอีใส Acyclovir ที่สามารถให้ได้ เพื่อลดความรุนแรง และลดปัญหาแทรกซ้อนที่อาจตามมา แต่ยานี้ควรพิจารณาให้โดยแพทย์เท่านั้น และมีราคาค่อนข้างแพง อีกทั้งถ้าจะให้ได้ผลดี ก็ควรเริ่มใช้ยานี้ตั้งแต่ระยะวันแรกๆ ของการเกิดตุ่มสุกใสจึงจะได้ผล โรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้แก่ การติดเชื้ออีสุกอีใสในสมอง ปอดบวม จากเชื้ออีสุกอีใสในหญิงมีครรภ์ การติดเชื้ออีสุกอีใสรุนแรงในเด็กทารกที่เพิ่งเกิดจากแม่ หรือในคนไข้มะเร็ง หรือแม้แต่การติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนที่ผิวหนัง จะมีความรุนแรงมาก และในบางครั้งอาจทำให้ถึงแก่ชีวิต ที่มาและข้อมูลเพิ่มเติม นิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 25 ฉบับที่ 6 มิถุนายน 2544
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!