เสี่ยเจียง?
อยากทราบประวัติ quot เสี่ยเจียง quot ผู้บริหารค่ายสหมงคลฟิล์ม ขอบคุณมากค่ะ
อยากทราบประวัติ quot เสี่ยเจียง quot ผู้บริหารค่ายสหมงคลฟิล์ม ขอบคุณมากค่ะ
ชื่อ-นามสกุล สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ อายุ 63 ปี การศึกษา มัธยม โรงเรียนไพศาลศิลป์ อาชีพปัจจุบัน - พ ศ 2511-ปัจจุบัน ประธานบริษัท สหมงคลฟิล์ม จำกัด - อดีตนายกสมาพันธ์ภาพยนตร์ไทย ลาออกเมื่อปี 2549 - เจ้าของโรงหนังศรีนครธน ย่านตลาดพลู โรงหนังมงคลรามา สะพานควาย โรงหนังเพรสซิเดนท์ ครอบครัว แต่งงาน มีลูกทั้งหมด 5 คน มีสาวใบเถา อวิกา เอ๋ จาตุศม โอ๋ ชมศจี อุ๋ย ลูกชาย ชื่อ อัครพล หนึ่ง และมีน้องนุชคนสุดท้อง เด็กหญิงนวรัตน์ หรือ น้องเกรซ สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ใครๆ ก็เรียกเขาว่า “ เสี่ยเจียง ” เจ้าของอาณาจักรสหมงคลฟิล์ม ผู้มีเครือข่ายธุรกิจภาพยนตร์ไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาคือบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการหนังไทย เพียงเขาขยับเขยื้อน วงการหนังไทยก็สั่นสะเทือนแล้ว บุรุษมาดเสี่ย ที่มักสวมเสื้อเชิ้ตปลดกระดุมเสื้อหนึ่งเม็ด พูดจาโผงผาง ดุดัน น่าเกรงขาม ถึงวันนี้ 30-40 ปีที่แล้วที่เขายังทำงาน ทำธุรกิจภาพยนตร์อย่างทุ่มเท แม้อายุของเขาจะเข้าวัยเกษียณแล้วก็ตาม แต่โรงหนังชีวิตของเขาก็ยังไม่รู้จบสิ้น ทุกวันนี้ เสี่ยเจียงยังตื่นนอนประมาณ 3 โมงเย็น ถ้าไม่ติดภารกิจใดๆ เขาจะออกจากบ้านที่ซอยราชครูมาทำงานที่สหมงคลฟิล์ม ย่านสะพานควาย ใครๆ ที่นัดหมายกับเขา มักจะมาพบเขาที่นี่ ตั้งแต่ 4 โมงเย็นเรื่อยไปถึงสองทุ่ม สามทุ่ม หลังจากนั้นเสี่ยเจียงมักจะเดินทางไปที่คอฟฟี่ช็อป โรงแรมดุสิตธานี เพื่อนัดคุย นัดสังสรรค์กับผู้กำกับหนัง และทีมงานสร้างหนังเป็นการส่วนตัว บางครั้งเขาก็อาศัยเวลานี้ตั้งชื่อหนังใหม่ทั้ง หนังนำเข้า หนังสร้างเองบ้าง เขาใช้เวลาที่โรงแรมดุสิตเกือบรุ่งสาง ตีสี่ ตีห้าบ้าง และกลับไปพักผ่อนที่บ้าน คนรอบข้างส่วนใหญ่รู้ดีว่าเสี่ยเจียงอยากจะคุยกับใคร เขาจะกรี๊งกร๊างยามดึก ตีหนึ่ง ตีสอง ถือเป็นเวลาปกติสำหรับเขา แม้ในวันนี้ของเสี่ยเจียง จะมีลูกสาวสามใบเถา ทั้ง “ อวิกา ” ช่วยดูแลด้านการตลาด ประชาสัมพันธ์ พีอาร์ “ จาตุศม ” ลูกสาวคนรอง ช่วยดูแลด้านเรื่องธุรกิจทางการตลาด และลูกสาวคนที่สาม “ ชมศจี ” ดูแลเรื่องการขายหนัง แต่กระนั้นก็ตาม เสี่ยเจียงก็ยังทำหน้าที่พูดคุยกับผู้กำกับหนัง และการผลิตหนัง เหมือนทุกคราว และยังไม่เคยให้ลูกคนใดทำหน้าที่นี้ สำหรับเสี่ยเจียง การคุยกับผู้กำกับ ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เปรียบเหมือนต้นน้ำในการทำธุรกิจ ดังนั้นประสบการณ์และบารมีของเขา เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องรับภาระหน้าที่นี้ต่อไป เขาบอกว่าการคุยกับผู้กำกับต้องมีกึ๋น มีประสบการณ์มากพอตัว “ ผู้กำกับหนังต้องมาคุยกับผมก่อน ระหว่างทำหนังผมไม่เข้าไปยุ่ง แต่ทำเสร็จแล้วผมต้องดูก่อน ถ้าดูแล้วไม่ผ่านก็ต้องแก้ อย่างต้มยำกุ้งฉากไหนไม่ผ่านก็ต้องทำใหม่ เสียเงิน 18 ล้านสำหรับฉากนั้นก็ยอม ” เสี่ยงเจียงบอกถึงแนวทางของเขา ข้อมูลจาก
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!