มีการรักษาและการวินิจฉัยโรคข้อเสื่อมอย่างไร??
มีการรักษาและการวินิจฉัยโรคข้อเสื่อมอย่างไร
มีการรักษาและการวินิจฉัยโรคข้อเสื่อมอย่างไร
การวินิจฉัยจะอาศัยประวัติและการตรวจร่างกายรวมทั้งการx-ray การรักษา 1 การทำกายภาพเพื่อป้องกันความพิการและเพิ่มความแข็งแรงของข้อควรได้รับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทาง 2 การออกกำลังควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การออกกำลังกายจะช่วยลดอาการปวด ข้อมีการเคลื่อนไหวดีขึ้น 3 การเปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชีวิต เช่น การนั่ง การยืน การนอน การเลือกเตียง การเลือกหมอน การยกของหนัก 4 การเลือกใช้ยาในการลดอาการเจ็บปวดมียาให้เลือกใช้ 3 กลุ่มได้แก่ ยาใช้ยา NSAID เช่น aspirin ibuprofen diclofenac ketoprofen เนื่องจากยากลุ่มนี้ระคายกระเพาะควรปรึกษาแพทย์หากคุณเป็นโรคกระเพาะอาหาร ใช้ยาแก้ปวดกลุ่มใหม่ชื่อ COX-2 inhibitors ซึ่งมีผลต่อกระเพาะอาหารน้อยได้แก่ยา celecoxib Celebrex และ rofecoxib Vioxx ผลข้างเคียงอาจจะทำให้บวมและเกิดโรคหัวใจ การใช้ยา paracetamol ซึ่งลดอาการปวดได้ดี แต่ไม่ลดอาการบวม ต้องระวังในผู้ที่เป็นโรคตับ 5 ยาชนิดอื่นทีใช้บรรเทาอาการปวด ยาทาซึ่งมีทั้งชนิดร้อนและเย็น สามารถบรรเทาอาการเจ็บปวด ยา steroid ฉีดเข้าข้อ เป็นการลดอาการปวดได้ชั่วคราว ไม่แนะนำให้ฉีดเกิน 2-3 ครั้งต่อปี การฉีดสาร hyaluronic acid เข้าไปในข้อเสมือนน้ำหล่อลื่นเทียม 6 การประคบร้อนและประคบเย็น 7 การลดน้ำหนัก 8 การผ่าตัด สามารถทำได้หลายวิธี นำเศษกระดูกอ่อนที่ฉีดขาดทิ้ง ทำให้ผิวกระดูกเรียบ จัดเรียงกระดูกใหม่ การเปลี่ยนข้อ 9 การป้องกันการใช้งานข้อมากเกินไป การใช้ไม้เท้าสำหรับผู้ป่วยเข่าเสื่อม เลือกการออกกำลังกายที่มีแรงต่อข้อน้อยเช่น การขี่จักรยาน การว่ายน้ำ เลือกรองเท้าที่มีแผ่นรองรับการกระแทกเวลาเดิน หากขายาวไม่เท่ากันต้องแก้ไข หลีกเลี่ยงการขึ้นบันไดบ่อยๆ 10 แพทย์ทางเลือกซึ่งมีหลายวิธี การออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะให้ประโยชน์สำหรับผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมอย่างมาก และยังสามารถลดอาการปวด ประโยชน์ของการออกกำลังต่อโรคข้อมีดังนี้ การออกกำลังกายจะทำให้ข้อแข็งแรง กล้ามเนื้อแข็งแรง ข้อมีการเคลื่อนไหวได้ดี ทำให้ปวดน้อยลง ข้อที่มีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอจะมีความแข็งแรง กระดูกไม่พรุน และไม่มีข้อติด การออกกำลังจะช่วยในการลดน้ำหนัก ข้อมูลจาก Siamhealth net
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!