มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) ของEUREPGAP และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีข้อเหมือนหรือข้อแตกต่างอย่างไรบ้าง?
มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี GAP ของEUREPGAP และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีข้อเหมือนหรือข้อแตกต่างอย่างไรบ้าง
มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี GAP ของEUREPGAP และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีข้อเหมือนหรือข้อแตกต่างอย่างไรบ้าง
1 มาตรฐานทั้ง 2 มาตรฐานมีวัตถุประสงค์หลักที่ตรงกันคือ มุ่งเน้นความปลอดภัยอาหาร ซึ่งข้อกำหนดที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของทั้งสองมาตรฐาน ถือว่าสอดคลองและมีเนื้อหาใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตามยังมีความแตกต่างในส่วนของวัตถุประสงค์อื่นที่เพิ่มเติม คือมาตรฐาน มกอช จะเพิ่มเรื่องของคุณภาพผลิตผล ในขณะที่มาตรฐาน EUREPGAP จะเพิ่มเรื่องคุณภาพผลิตผล สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยของเกษตรกร รวมทั้งแนวทางการจัดการแบบเกษตรยั่งยืน sustainable agriculture ด้วยซึ่งถือเป็นจุดต่างที่สำคัญที่ทำให้มาตรฐาน EUREPGAP มีข้อกำหนดที่เพิ่มมากกว่ามาตรฐาน มกอช 2 มาตรฐานมกอช จัดทำเป็นเฉพาะพืชแต่ละชนิด จึงมีข้อกำหนดบางข้อ เช่น การจัดการคุณภาพก่อนการเก็บเกี่ยว การเก็บเกี่ยว และการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวที่แตกต่างกันไปแต่ละพืช ซึ่งจะมีความชัดเจนในการปฏิบัติมากกว่ามาตรฐาน EUREPGAP ที่เป็นมาตรฐานกลางใช้กับทุกพืช 3 มาตรฐาน EUREPGAP กำหนดให้เกษตรกรต้องจัดทำระบบคุณภาพ โดยต้องมีคู่มือการปฏิบัติงาน มีเอกสารการประเมินความเสี่ยงที่จัดทำขึ้นเอง มีการตรวจประเมินภายในกลุ่มเกษตรกร internal self inspection และการบังคับให้ต้องมีการจัดทำบันทึกข้อมูลผลการปฏิบัติงานจำนวนมาก ซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้ค่อนข้างจะปฏิบัติได้ยากสำหรับเกษตรกรรายย่อยภายในประเทศไทย อาจจะปฏิบัติได้เฉพาะเกษตรกรรายใหญ่หรือเกษตรกรที่ได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากผู้ประกอบการ ผู้ส่งออกเท่านั้น ดังนั้นมาตรฐาน มกอช จึงได้กำหนดเรื่อง การจัดทำเอกสารและบันทึกข้อมูลขั้นต่ำเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เกษตรกรส่วนใหญ่สามารถปฏิบัติได้ ซึ่งจะสามารถพัฒนาเกษตรกรไปสู่มาตรฐาน EUREPGAP ในระยะต่อไปได้ไม่ยาก 4 แนวทางในการรับรองมาตรฐานของ มกอช และ EUREPGAP มีความคล้ายคลึงกัน คือ ทั้ง 2หน่วยเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน เหมือนกันโดยไม่เป็นผู้ตรวจรับรอง แต่จะให้หน่วยงานตรวจรับรอง CB นำมาตรฐานนี้ไปใช่เป็นเกณฑ์ตรวจรับรอง โดย มกอช และ EUREPGAP ทำหน้าที่เป็น Accreditation Body AB รับรองความสามารถของ CB ที่จะมาทำหน้าที่ให้การรับรอง แต่ทั้งนี้ EUREPGAP จะใช้ CB เอกชนเป็นหลักโดยใช้แนวทางธุรกิจในการดำเนินการ แต่ประเทศไทยขณะนี้การรับรองยังต้องใช้ CB ราชการ คือ หน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหลัก เนื่องจากยังขาด CB เอกชนที่พร้อมดำเนินการ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลด้านค่าใช้จ่ายและความคุ้มทุนในการดำเนินการ
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!