ตามล่าเนื้อสมัน!?
nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp ผมสนใจเรื่องเนื้อสมันมาก อยากให้ช่วยหารายละเอียดให้ด้วย เยาวชนและคนรุ่นหลังจะได้ช่วยกันรักษาสัตว์ป่าในเมืองไทยไม่ให้สูญหายไปเช่นเนื้อสมันอีก สุรสิทธิ์ nbsp ลี้ไพโรจน์ กรุงเทพฯ
nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp ผมสนใจเรื่องเนื้อสมันมาก อยากให้ช่วยหารายละเอียดให้ด้วย เยาวชนและคนรุ่นหลังจะได้ช่วยกันรักษาสัตว์ป่าในเมืองไทยไม่ให้สูญหายไปเช่นเนื้อสมันอีก สุรสิทธิ์ nbsp ลี้ไพโรจน์ กรุงเทพฯ
|ซองคำถาม| อ่านพบเกร็ดเรื่องการล่า และสาเหตุสำคัญที่ทำให้เนื้อสมันสูญพันธุ์ ที่อาจารย์จารุจินต์ นภีตะภัฏ เขียนไว้ในวารสาร |วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี| จึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อดังนี้ จากการคาดคะเนของพระยาอินทรมนตรีว่า ในอดีตเนื้อสมันจะอาศัยอยู่ในบริเวณวงนอกรอบลุ่มน้ำเจ้าพระยา บริเวณทุ่งหญ้าในจังหวัด ลพบรี สุพรรณบรี อ่างทอง สิงห์บุรี นครสวรรค์ กำแพงเพชรสุโขทัย สวรรคโลก ตาก พิจิตร พิษณุโลก และอุตรดิตถ์ สมัยนั้นลุ่มน้ำเจ้าพระยายังมีสภาพไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นบริเวณดินที่เกิดขึ้นมาใหม่จากการทับถมของตะกอนจากแม่น้ำ ต่อมาเนื้อสมันได้เริ่มขยายที่อาศัยลงมาสู่บริเวณทางใต้เรื่อย ๆ และแพร่จำนวนออกไปได้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่มีสัตว์จำพวกกวางชนิดอื่น ๆ ที่จะปรับตัวให้อาศัยอยู่ในที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาได้ การแก่งแย่งที่อยู่จึงไม่มีและอาหารจำพวกหญ้า และใบไม้ในทุ่งก็มีจำนวนมากมาย อาณาบริเวณที่อยู่ของเนื้อสมันจึงขยายลงในบริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพฯ สมัยก่อนประเทศไทยทำการเกษตรแบบเพื่อบริโภคกันในประเทศแต่ภายหลังจากที่ประเทศไทยได้เปิดประเทศติดต่อค้าขายสินค้าเกษตรกับต่างประเทศในปี ๒๓๙๓ แล้ว ข้าวเป็นสินค้าออกที่สำคัญ คนไทยตื่นตัวทำนาข้าวกันมากขึ้น เมื่อรัฐบาลในเวลานั้นได้ตัดทางรถไฟสายเหนือ จึงได้พาเอาประชาชนในจังหวัดเพชรบุรี ราชบุรี นครปฐมและอยุธยา ขึ้นไปหักล้างถางป่าเพื่อทำนากันมากขึ้น ประชาชนที่อยู่ในบริเวณภาคกลางเดิมได้อาศัยการขุดคลองรังสิต และคลองชลประทานต่าง ๆ ขยายการทำนาไปยังบริเวณที่เป็นป่าละเมาะชายเขาอันเป็นที่อยู่ของเนื้อสมัน บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่เพียงแห่งเดียวของเนื้อสมันจึงถูกทำลายหมดไป และประชาชนยังล่าและดักจับเนื้อสมันที่หลงเหลืออยู่มาเป็นอาหารและเอาเขาที่สวยงามมาใช้ประดับฝาบ้าน หรือใช้เป็นที่แขวนหมวก ทำเป็นด้ามมีด ด้ามพร้า จนเนื้อสมันหมดไปในที่สุด การล่าเนื้อสมันตั้งแต่อดีตที่ยังมีชุกชุม แบ่งออกได้เป็นหลายแบบแตกต่างกันไปตามท้องที่ และฤดูกาล ในฤดูน้ำหลากท่วมทุ่งเนื้อสมันจะไปรวมกันอยู่ตามเกาะที่เป็นที่ดอน ชาวบ้านในทุ่งละคร จังหวัดนครนายก ชอบชวนกันขี่ควายไปล้อมแทงเนื้อสมัน เพราะควายเดินได้ทนทั้งในโคลน และในน้ำ แต่เนื้อสมันลุยน้ำเหนื่อยง่าย จึงใช้หอกแทงตายได้ง่าย วิธีนี้เนื้อสมันจะถูกทำลายทั้งฝูง บางครั้งอาจจะใช้เรือไล่ตามเนื้อสมันที่ว่ายน้ำหนีไปจากเกาะ ก็สามารถจะล่าได้อย่างง่ายดาย ในฤดูแล้งการล่าแบ่งออกเป็นสองแบบ แบบแรกได้แก่การเอาเขาเนื้อสมันมาตากให้แห้งแล้วใช้ตะไบถูด้านหลังของเขาออก ทั้งนี้เพื่อให้มีน้ำหนักเบาขึ้น แล้วก็นำมาสวมติดไปบนศีรษะ แล้วคลานเข้าไปหาฝูงเนื้อสมันพร้อมอาวุธ เนื้อสมันจะไม่ใคร่หนีเพราะคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน บางครั้งเนื้อสมันตัวผู้อาจจะวิ่งเข้ามาขับไล่เพื่อปกป้องพื้นที่หรือหวงตัวเมียในฝูง จึงถูกล่าได้ง่ายดาย อีกแบบหนึ่งได้แก่การขุดหลุมไว้ในพุ่มไม้ทึบแล้วลงไปนั่งซุ่มอยู่ในหลุม พอเนื้อสมันผ่านมาใกล้ก็จะยิงได้ง่าย นอกจากนี้เนื้อสมันยังมีลักษณะของเขาที่เป็นจุดอ่อนของตัวเองโดยจะมีกิ่งรับหมา ดูภาพประกอบ ที่ทำมุมแหลมกับหน้าผากและมีกิ่งก้านสาขามากมาย ทำให้เนื้อสมันไม่สามารถเข้าไปอาศัยอยู่ในป่าดงดิบได้ เพราะเขามักจะไปพันเกี่ยวเอาเถาเครือหรือกิ่งไม้ต่าง ๆ ทำให้เดินหรือวิ่งไปมาได้ไม่สะดวก เนื้อสมันจึงต้องอาศัยอยู่ตามป่าโปรงและทุ่งหญ้าที่ง่ายต่อการถูกล่ามากกว่ากวางชนิดอื่น ๆ ด้วยสาเหตุดังกล่าว คือการทำลายทุ่งหญ้าเพื่อใช้เป็นที่ปลูกข้าวเป็นสินค้าออก และการล่าเนื้อสมันเพื่อเอาเขาที่สวยงามไปประดับฝาบ้านและเอาเนื้อมาเป็นอาหาร ได้ทำให้เนื้อสมันหมดสิ้นไปจากประเทศไทยในที่สุด “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!