มีดโกนหนวด?
nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp ผมเป็นคนหนวดดก รู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องโกนหนวดทุกเช้านึกเล่น ๆ ว่าสมัยที่ยังไม่มีมีดโกนหนวด ผู้ชายหนวดดกคงลำบากพิลึก เอก ปรานไพฑูรย์ กรุงเทพฯ
nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp ผมเป็นคนหนวดดก รู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องโกนหนวดทุกเช้านึกเล่น ๆ ว่าสมัยที่ยังไม่มีมีดโกนหนวด ผู้ชายหนวดดกคงลำบากพิลึก เอก ปรานไพฑูรย์ กรุงเทพฯ
เรามักจะคิดว่ามนุษย์ยุคหินไว้หนวดเครารุ่มร่าม แต่แท้ที่จริงแล้วมนุษย์โกนหนวดเครามามากกว่า ๒๐ ๐๐๐ ปีแล้ว ภาพวาดในถ้ำแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ถ้ำมีทั้งที่ไว้หนวดเคราและไม่ไว้หนวดเครา โดยมนุษย์ยุคแรก ๆ ใช้เปลือกหอยที่ลับจนแหลมคมเป็นที่โกนหนวด ต่อมาในยุคโลหะจึงเริ่มมีการประดิษฐ์ที่โกนหนวดจากโลหะต่าง ๆ ความนิยมในการโกนหนวดเคราขึ้นอยู่กับค่านิยมของสังคมแต่ละแห่ง อียิปต์โบราณเชื่อว่าใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาปราศจากหนวดเคราแสดงถึงสถานภาพที่สูงในสังคม ในขณะที่ชาวโรมันเห็นว่าการโกนหนวดเคราดูเป็นผู้หญิงจนเกินไป แต่ชาวโรมันนิยมโกนหนวดเคราในสนามรบ เพราะเชื่อว่าการไว้หนวดเคราทำให้เสียเปรียบในการต่อสู้ตัวต่อตัว เป็นเวลาหลายศตวรรษทีเดียวที่มนุษย์ต้องใช้ความพยายามหัดใช้มีดโกนไม่ให้บาดตัวเอง มีนักประดิษฐ์หลายคนพยายามประดิษฐ์มีดโกนที่ปลอดภัยในการใช้ นักประดิษฐ์คนสำคัญคือ นายชอง จาร์ค เปอร์เรต์ ชาวฝรั่งเศส เขาได้นำแผ่นโลหะมาประกบใบมีดโกน เพื่อป้องกันไม่ให้ใบมีดโกนบาดผิวหน้าขณะโกนหนวด มีดโกนชนิดใหม่นี้ได้รับการปรับปรุงพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ แต่ผู้ใช้ก็ยังคงต้องลับใบมีดโกนอยู่เป็นประจำ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของใบมีดโกนเกิดขึ้นจากฝีมีอของเซลล์แมนชาวอเมริกันชื่อ คิง ยิลเล่ตต์ ยิลเล่ตต์มีความใฝ่ฝันส่วนตัวว่าจะต้องสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์อย่างใดอย่างหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของมนุษย์ได้ ยิลเล่ตต์ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนคนหนึ่งว่า เขาควรจะประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ใช้หนเดียวแล้วทิ้ง ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาปีหนึ่งเต็ม ๆ ในการคิดว่า เขาควรจะประดิษฐ์อุปกรณ์อะไร โดยเขาพยายามนึกชื่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันตามตัวอักษรเลยทีเดียว ยิลเล่ตต์เพิ่งมาได้ความคิดว่าอุปกรณ์ที่เขากำลังหาอยู่คือมีดโกนในขณะที่เขากำลังโกนหนวดอยู่ แม้ว่าความคิดเกี่ยวกับใบมีดโกนที่ใช้หนเดียวแล้วทิ้งเพื่อเปลี่ยนใหม่อาจจะฟังดูง่าย ๆ แต่เทคโนโลยีในการทำใบมีดโกนที่บางขนาดแผ่นกระดาษ และมีราคาไม่แพงนั้นกลับดูจะเป็นไปไมได้เลย ยิลเล่ตต์ต้องใช้เวลา ๖ ปีกว่าจะสามารถหานักประดิษฐ์มาร่วมคิดวิธีทำใบมีดโกนจนเป็นผลสำเร็จในปี ๑๙๐๓ ความสำเร็จของมีดโกนยิลเล่ตต์นั้นอาจจะมากกว่าที่ยิลเล่ตต์เองคาดไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๑ ทหารอเมริกันได้นำใบมีดโกนยิลเล่ตต์ไปเผยแพร่จนเป็นที่รู้จักกันในบรรดาทหารชาติต่าง ๆ ที่มาร่วมรบ ทำให้หลังสงครามความต้องการมีดโกนยิลเล่ตต์มาจากทั่วโลก ความใฝ่ฝันของยิลเล่ตต์ที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมนุษย์ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาจริง ๆ ในปี ๑๙๓๑ มีดโกนยิลเล่ตต์เพิ่งจะถูกท้าทายจากมีดโกนชนิดใหม่เอี่ยม คือมีดโกนไฟฟ้า จาคอบ ชิค ทหารอเมริกันผู้หนึ่งในสงครามโลกครั้งที่ ๑ เห็นว่ามีดโกนยิลเล่ตต์มีจุดอ่อน คือ ต้องใช้น้ำ สบู่ หรือครีมโกนหนวด ซึ่งหาได้ไม่ง่ายนักในบางสถานการณ์ เช่น ยามสงครามดังนั้นเมื่อสงครามยุติลง ชิคจึงพยายามประดิษฐ์มีดโกนแห้งที่ทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้าในขณะนั้นมีขนาดใหญ่มากไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับมีดโกนได้โดยสะดวก ชิคต้องใช้เวลาถึง ๕ ปีในการประดิษฐ์มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กจนเป็นผลสำเร็จในปี ๑๙๒๓ แม้เมื่อแก้ไขปัญหาด้านเทคโนโลยีได้แล้ว ชิคก็ยังประสบปัญหาใหม่ คือทั้งนายทุนและประชาชนทั่วไปพอใจกับมีดโกนยิลเล่ตต์อยู่แล้วชิคต้องใช้เวลาอีกหลายปีต่อมาในการเอาชนะใจผู้ใช้ จนในที่สุดคนเริ่มมองว่า แม้ว่ามีดโกนไฟฟ้าจะไม่ใช่ของจำเป็น แต่ก็เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าชิ้นใหม่ที่น่าเป็นเจ้าของ “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!