เจ้าชายนักทำหนัง - ถามตอบที่ Sanook! Guru

                  | ซองคำถาม |   ว่าในบรรดาคนที่น่าอิจฉาทั้งหลายในโลก สตีเว่น   สปีลเบิร์ก   นับเป็นคนหนึ่งที่น่าอิจฉาอย่างมาก   เพราะเขาสามารถมองโลกแบบเด็ก ๆ   นั่งคิดนอนคิดถึงเด็กอยู่ได้ทุกวันแถมยังชักชวนให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายหวนกลับไปจินตนาการแบบเด็กได้เป็นเรื่องเป็นราวอย่างประสบความสำเร็จและที่สำคัญ ทำแล้วได้เงินมากมายเป็นร้อยเป็นพันล้าน xml namespace prefix o ns urn schemas-microsoft-com office office                     ชื่อสปีลเบิร์กกลายเป็นเครื่องหมายรับประกันคุณภาพหลังจากทำหนังเรื่อง Jaws ในปี ๑๙๗๕   ซึ่งเรื่องของฉลามขาวอาละวาดได้กลายเป็นหนังทำเงินติดอันดับ ๗ ของบรรดาหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลด้วยตัวเลขสุทธิที่สูงถึง ๓ ๐๐๐ ล้านบาทเศษ E T   The Terrestrail ปี ๑๙๘๒ เป็นหนังทำเงินสูงสุดอันดับหนึ่งตลอดกาล Raider of The Lost Ark ปี ๑๙๘๑ lndiana Jones and The Temple of Doom ปี ๑๙๘๔ ล้วนประสบความสำเร็จทำเงินมากมาย                     ปัจจุบัน สปีลเบิร์กสามารถหาเงินได้วันละ   ๓๒   ล้านบาท   เป็นผู้กำกับที่ยังคงความเป็นเด็กแม้จะมีวัย ๔๔ ปี   เขาเป็นนักสร้างหนังที่ประสบความสำเร็จสุดยอดตลอดกาล                     สปีลเบิร์กเป็นมนุษย์ที่รักการทำหนังมาตั้งแต่เป็นเด็กน้อย   เขาถือกำเนิดที่เมืองซินซิเนติ รัฐโอไฮโอ เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๑๙๔๗ในครอบครัวฐานะปานกลาง   พ่อเป็นวิศวกรไฟฟ้า แม่เป็นนักเปียโนคลาสิค   และทั้งสองได้หย่าร้างกันในเวลาต่อมา ชีวิตในวัยเด็กของเขาไม่ต่างจากชีวิตเด็กชาวชนบททั่ว ๆ ไป โลดโผนโจนทะยานไปตามสภาวะแวดล้อม และดูเหมือนเขาจะชอบโลดโผนไปตามจินตนาการของตัวเองมากกว่าด้วย   หนูน้อยสปีลเบิร์กมักจะนั่ง ๆ   นอน   ๆ   ดูแมลงตัวเล็กตัวน้อยที่ค่อย ๆ   โผล่ออกมาจากรอยแตกบนผนังห้องนอนหรือไม่ก็นั่งดูต้นไม้รูปทรงประหลาดที่เหมือนกับปิศาจทีชูอ้าวงแขนออกคุกคามเหยื่อ                       ประสบการณ์เหล่านี้ล้วนเป็นเพชรอันล้ำค่าที่เขานำมาถ่ายทอดลงในภาพยนตร์ที่เขาสร้างในอีก ๒ o กว่าปีต่อมาสปีลเบิร์กไปเติบโตที่เมืองแฮคตันฟิลด์   รัฐนิวเจอร์ซี   ที่นั่นดูเหมือนเขากลายเป็นคนทำหนังไปเสียแล้ว เมื่อได้ยืมมรดกกล้องขนาด ๘ ม ม จากพ่อพร้อม ๆ กับรับการถ่ายทอดความใฝ่เสน่หาในนิยายวิทยาศาสตร์มาจากพ่อด้วย                     เขาเริ่มถ่ายหนังเป็นเรื่องเป็นราว พออายุครบ ๑๒ ขวบเขาก็สามารถเก็บเงินชื้อกล้องถ่ายหนังขนาด ๘ ม ม เป็นของตัวเอง   แล้วถ่ายหนังเรื่องเกี่ยวกับการปล้นรถม้าโดยสารสมัยก่อนกินเวลา ๓ นาทีครึ่ง   โดยลงทุนไปประมาณ ๑๐ ดอลล่าร์ หนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตสปีลเบิร์กที่มีบทหนัง มีตัวแสดงครบถ้วนตามตำรานักทำหนัง                     อีก ๑ ปีต่อมาเขาทำหนังแนวสงครามขนาด ๘ ม ม ความยาว ๔๐ นาทีขึ้นเรื่องหนึ่งชื่อ Escape to Nowhere นับเป็นความสำเร็จครั้งแรกสุดในอาชีพทำหนังของอัจฉริยะผู้นี้ เพราะเป็นหนังที่ชนะเลิศในการประกวดหนังสมัครเล่น   เขาเอาชนะผู้ใหญ่ได้ขณะอายุเพียง ๑๓ ปีเท่านั้น                     จากนิวเจอร์ซี   สปีลเบิร์กต้องย้ายบ้านตามบุพการีอีกครั้งไปอยู่แถบชานเมืองฟีนิกช์   รัฐอริโซน่า ณ ที่นี้เองเป็นก้าวแรกที่เขาได้เรียนวิชาการถ่ายภาพและร่ำเรียนเรื่องหนังที่สก็อตสเตลส์   ไฮสคูล หลังจากนั้น ๓ ปี เจ้าชายแห่งฮอลลีวู้ดวัย ๑๖ ปี ผู้นี้ก็ได้สร้างผลงานสำเร็จอีกเรื่องหนึ่ง คือ Fire Light ความยาวถึง ๑๔๐ นาที เป็นหนังแนววิทยาศาสตร์ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่ออกค้นหาแสงประหลาดที่ปรากฏบนท้องฟ้ายามราตรี   ว่าไปแล้วไอเดียของเรื่องนี้ก็มาจากจินตนาการเรื่องอวกาศกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่สปีลเบิร์กชอบมาตั้งแต่เด็ก และเรื่องนี้ก็ได้มาจากประสบการณ์ของเขาตอนอายุ ๕ ขวบที่พ่อปลุกเขาขึ้นมาดูผีพุ่งไต้ ดังนั้นเรื่องนี้ก็เลยกลายเป็นเรื่องลองเชิงเพื่อจะสร้าง Close Encounters of The Third Kind ในเวลาต่อมา                     จากอริโซน่า   สปีลเบิร์กต้องอพยพครอบครัวอีกหนไปอยู่ที่ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เขาทุ่มเทเวลาเกือบทั้งหมดให้กับหนังในขณะที่เรียนต่อที่แคลิฟอร์เนีย สเตทคอลเลจ ที่ลองบีช ช่วงนั้นเป็นทศวรรษที่ ๑๙๖๐ ซึ่งหนุ่มสาวรุ่นราวเดียวกับเขาผนึกกำลังต่อต้านสงครามเวียดนาม ทำตัวนอกรีต ไว้ผมยาว ติดยาเสพติด แต่สปีลเบิร์กกลับไม่เคยแม้แต่จะติดเหล้าหรือบุหรี่ เขาใช้เวลาว่างทั้งหมดเดินเข้าโรงหนัง   ดูหนังทุกเรื่องที่ขวางหน้ากล่าวได้ว่าวิชาการทำหนังของเขานั้น หาได้มาจากการร่ำเรียนไม่ เพราะเขาไม่ได้มีโอกาสร่ำเรียนวิชาการทำหนังจากมหาวิทยาลัย เนื่องจากเกรดไม่ถึง                     สปีลเบิร์กมีโอกาสได้พบกับ   เดนิส ฮอฟฟ์แมน แห่ง Universal ซึ่งกำลังมองหาผู้กำกับมือดีเพื่อจะสร้างหนังสักเรื่อง   หลังจากการคุยกัน   ในที่สุดสปีลเบิร์กก็สร้างหนังเรื่อง Amblin เป็นหนัง ๓๕ ม ม ที่เขาทั้งเขียนบท ตัดต่อและกำกับการแสดงเอง   ตอนนั้นราวปี ๑๙๖๙   ซึ่งเป็นปีที่เขากำลังเรียนอยู่ปีสุดท้ายพอดี   แล้วหนังความยาวเพียง ๒๔   นาทีนี้ก็ไปชนะการประกวด   คว้ารางวัลจากทั้งแอตแลนต้าฟิล์มเฟสติวัล   และเวนิสฟิล์มเฟสติวัล   สร้างชื่อให้ผู้กำกับนิรนาม | สปีลเบิร์ก | พอสมควร   ยังผลให้ประธานของยูนิเวอร์แซลทีวี เซ็นสัญญาจ้างสปีลเบิร์กให้มาทำงานด้วยนานถึง ๗ ปีรวด นับเป็นผู้กำกับอายุน้อยที่สุดที่เหยียบย่างเข้ามาในวงการนี้ และสัญญาจ้างนี้ก็กลายเป็นสถิติอีกอย่างของฮอลลีวู้ดด้วย                     สปีลเบิร์กกำกับหนังทีวีดัง ๆ   มากมาย   รวมทั้งเรื่อง Duel   ซึ่งเป็นหนังทีวีที่ออกฉายตามโรงใหญ่และประสบความสำเร็จล้นหลามกวาดรางวัลไปมากมาย ในปี   ๑๙๗๔   สปีลเบิร์กทำหนังใหญ่เรื่องแรก Sugar-land Express แต่กลับไม่ทำเงินเท่าไร   อย่างไรก็ตาม ในปี ๑๙๗๕   Jaws ฉลามขาวก็ออกอาละวาด   ส่งชื่อสปีลเบิร์กให้โด่งดังเป็นพลุไปในฉับพลัน                     กล่าวกันว่าความสำเร็จของผู้กำกับเช่นสปีลเบิร์ก   อยู่ที่ความสามารถในการเล่นกับความกลัวที่อยู่ในจิตใจของคน และความสัมพันธ์ทางใจของตัวละครต่าง ๆ ในหนัง   รวมทั้งมีจินตนาการของการผจญภัยที่ตื่นเต้น จุดนี้แหละคือเสน่ห์ของผู้กำกับอัจฉริยะคนนี้