ยาสีฟันและการรักษาฟันของคนโบราณ?
คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับฟันและช่องปากมาก nbsp ผมอยากรู้ว่าสมัยก่อนเขาใช้อะไรแปรงฟัน nbsp และเขาใช้อะไรรักษาฟัน อภิสิทธิ์ nbsp อัมรากุล กรุงเทพฯ
คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับฟันและช่องปากมาก nbsp ผมอยากรู้ว่าสมัยก่อนเขาใช้อะไรแปรงฟัน nbsp และเขาใช้อะไรรักษาฟัน อภิสิทธิ์ nbsp อัมรากุล กรุงเทพฯ
ยาสีฟันได้รับการกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในบันทึกประวัติศาสตร์ว่าทำขึ้นโดยแพทย์ชาวอียิปต์เมื่อประมาณ ๔ ๐๐๐ ปีมาแล้ว จากผงฝุ่นหินพูมิส ผสมกับน้ำส้มเข้มข้นจากเหล้าองุ่น ใช้แปรงด้วยกิ่งไม้ซึ่งเคี้ยวได้ ยาสีฟันยุคแรกเริ่มนี้มีคุณสมบัติในการขัดสีสูงมาก ทั้งมีรสแหลมจัด แต่ก็ยังถือว่ามีรสชาติถูกปากกว่ายาสีฟันโรมันยุคต้นที่ทำจาก |ฉี่| มนุษย์ โดยอยู่ในสภาพของของเหลวใช้เป็นน้ำยาบ้วนปาก แพทย์ชาวโรมันในศตวรรษที่ ๑ เชื่อว่า |ฉี่| มีคุณสมบัติทำให้ฟันขาวและแข็งแรง สตรีโรมันชั้นสูงยอมจ่ายแพงเพื่อชื้อ |ฉี่| ชาวโปรตุเกส ซึ่งนิยมกันว่า |แรง| ที่สุดในทวีปยุโรป ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากซึ่งมี |ฉี่| เป็นส่วนผสมนี้ เป็นที่นิยมใช้กันแพร่หลายมาจนถึงศตวรรษที่ ๑๘ โดยที่ทันตแพทย์ยุคแรก ๆ นั้นคงไม่รู้ว่าใน |ฉี่| มีสารแอมโมเนียซึ่งมีคุณสมบัติในการทำความสะอาด ยาสีฟันยุคปัจจุบันก็มีแอมโมเนียเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย เมื่ออาณาจักรโรมันล่มสลายลง ศาสตร์การรักษาฟันและอนามัยในช่องปากในยุโรปได้เสื่อมลงอย่างรวดเร็ว เป็นเวลา ๕๐๐ ปี ที่คนทั่วไปบรรเทาอาการปวดฟันของตนด้วยยาพอกพื้นบ้านและการถอนฟันแบบตามมีตามเกิด จนถึงศตวรรษที่ ๑๐ นายแพทย์ ชาวเปอร์เซียน ชื่อ เรสเซส เป็นคนแรกที่คิดค้นการอุดฟันด้วยสารเหลวคล้ายกาวทำจากสารส้มผสมยางไม้ การอุดฟันในช่วงต้นต้องอาศัยความอดทนระดับ |ยอดมนุษย์| ของคนไข้ เพราะยังไม่มีเครื่องกรอฟัน หมอฟันจะใช้โลหะปลายแหลมสกัดฟันส่วนที่ผุออกไป ลองนึกดูเถิดว่าคนไข้ต้องอ้าปากค้างทนเสียวฟันอยู่นานเพียงใด จนมาถึงศตวรรษที่ ๑๘ จอห์น กรีนวูด หมอฟันของประธานาธิบดีจอร์ช วอชิงตัน ได้ดัดแปลงเครื่องปั่นด้ายของมารดามาช่วยหมุนเครื่องกรอฟัน ประดิษฐกรรมชิ้นใหม่นี้แม้จะช่วยลดทอนช่วงเวลาทนทรมานของคนไข้ลงได้มากแต่มีข้อเสียจากความร้อนที่เกิดจากการหมุน อย่างรวดเร็ว ของเครื่องกรอฟัน ในช่วงศตวรรษที่ ๑๔ ชาวยุโรปต่างนิยมชมชอบการมีฟันขาวกันมาก ดังนั้นช่างตัดผมซึ่งเป็นหมอผ่าตัดไปพร้อม ๆ กันด้วย จึงมีหน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือการขัดฟันให้ขาวผ่อง โดยเริ่มตะไบ ฟันของลูกค้าด้วยโลหะผิวหยาบก่อนแล้วป้ายด้วย |อะคเวฟอทิส| สารละลายจำพวกกรดดินประสิวซึ่งมีคุณสมบัติกัดกร่อนสูง กรรมวิธีนี้ทำให้ฟันขาวเพียงชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้น เพราะเคลือบฟันได้ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง เป็นสาเหตุของฟันผุร้ายแรงในช่วงวัยกลางคน อย่างไรก็ตาม ความคลั่งไคล้ฟันขาวยังทำให้การใช้กรดกัดฟันคงปฏิบัติสืบทอดกันในยุโรปจนถึงศตวรรษที่ ๑๘ แม้ว่ายาสีฟันฟลูออไรด์จะเป็นผลิตผลของศตวรรษที่ ๒๐ แต่การใช้ฟลูออไรด์เพื่อลดการผุกร่อนของฟันนั้นมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๙ แล้ว ในปี ค ศ ๑๘๐๒ หมอฟันในแถบเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลีได้สังเกตเห็นจุดสีน้ำตาลปรากฏบนฟันของคนไข้ จุดดังกล่าวเป็นผลจากปฏิกิริยาการผันแปรทางธรรมชาติของเคลือบฟันกับระดับฟลูออไรด์จำนวนมากที่เจือปนอยู่ในดินและน้ำในท้องที่นั้นหมอฟันตั้งข้อสังเกตว่า แม้ฟันที่เป็นจุดสีน้ำตาลนั้นจะไม่น่าดูนักแต่ไม่ผุเลย ดังนั้นในราวปี ค ศ ๑๘๔๐ เป็นต้นมา หมอฟันทั้งในอิตาลีและฝรั่งเศส ได้แนะนำให้ประชาชนเริ่มอมลูกอมที่ผสมด้วยน้ำผึ้งและฟลูออไรด์ ในที่สุดฟลูออไรด์ก็ถูกนำมาผสมในยาสีฟันและใช้กันอยู่จนปัจจุบัน “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!