เหตุใดจึงเก็บเงินสมทบของรัฐบาล นายจ้าง ผู้ประกันตนไม่เท่ากัน?
อยากทราบว่า เหตุใดจึงเก็บเงินสมทบของรัฐบาล นายจ้าง ผู้ประกันตนไม่เท่ากัน
อยากทราบว่า เหตุใดจึงเก็บเงินสมทบของรัฐบาล นายจ้าง ผู้ประกันตนไม่เท่ากัน
ในการพิจารณากำหนดอัตราเงินสมทบของรัฐบาลน้อยกว่าลูกจ้างและนายจ้างมีเหตุผล ดังนี้ 1 ตามข้อกำหนดของมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม รัฐบาลไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสมทบในกรณีว่างงานเท่านายจ้างและลูกจ้าง 2 รัฐบาลมีภาระที่จะต้องสนับสนุนการดำเนินงานประกันสังคมกรณีว่างงานอยู่แล้ว โดยสนับสนุนงบประมาณแผ่นดินสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ด้านวัสดุครุภัณฑ์ ประกอบกับคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงแรงงาน ให้ข้อสังเกตุในการกำหนดให้ค่าบริการจัดหางานและค่าพัฒนาฝีมือแรงงานเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งของกองทุนประกันสังคมกรณีว่างงานว่าอาจจะเป็นการขัดต่อพระราชบัญญัติประกันสังคม พ ศ 2533 และพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ ศ 2528 ทำให้ไม่สามารถกำหนดค่าใช้จ่ายสำหรับบริการทั้ง 2 ส่วน ไว้ในกฎกระทรวงได้ จึงสมควรที่จะต้องลดอัตราเงินสมทบในส่วนของรัฐบาลลง เนื่องจากรัฐบาลจะต้องสนับสนุนงบประมาณประจำปีสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการให้บริการจัดหางานและพัฒนาฝีมือแรงงานรวมทั้งบุคลากรและวัสดุครุภัณฑ์ต่าง ๆ ส่วนกรณีที่เกรงว่าจะไม่สามารถควบคุมการให้บริการด้านจัดหางานและพัฒนาฝีมือแรงงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของกระทรวงแรงงานที่จะต้องควบคุมคุณภาพการให้บริการให้เป็นไปตามนโยบายการฝึกอาชีพและการจัดหางานที่สอดคล้องและตอบสนองกับความต้องการของผู้ประกันตน 3 ตามข้อกำหนดของมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคมในกรณีที่เงินกองทุนไม่พอจ่าย รัฐบาลมีหน้าที่จ่ายเงินอุดหนุนหรือเงินทดลองราชการให้ตามความจำเป็น 4 กรณีกองทุนไม่มีค่าใช้จ่ายในการบริการจัดหางานและพัฒนาฝีมือแรงงาน จะทำให้ค่าใช้จ่ายกองทุนลดลง และจากการประมาณการกองทุนพบว่ากรณีจัดเก็บเงินสมทบจากนายจ้างและลูกจ้างในอัตราฝ่ายละ 0 5 และรัฐบาล 0 25 กองทุนยังคงมีความมั่นคงโดยไม่ต้องลดประโยชน์ทดแทน และสามารถจ่ายประโยชน์ทดแทนให้แก่ผู้ถูกเลิกจ้างได้ในอัตรา 50 ไม่เกิน 180 วัน และผู้ลาออกในอัตรา 30 ไม่เกิน 90 วัน
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!