การค้าผักและผลไม้ของไทยกับจีน?
การค้าผักและผลไม้ของไทยกับจีนมีปัญหาอะไรบ้าง
การค้าผักและผลไม้ของไทยกับจีนมีปัญหาอะไรบ้าง
1 การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม - ผู้ส่งออกสินค้าผักและผลไม้ของไทยไปจีน ร้องเรียนว่า จีนเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้านำเข้าในอัตราสูงกว่าที่เก็บจากสินค้าที่ผลิตในประเทศ โดยจีนมิได้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับผลไม้ สินค้าเกษตร ที่ปลูกในประเทศ ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ผลไม้ส่งออกของไทย การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของจีนมีระเบียบปฏิบัติเหมือนกันทั้งกับสินค้านำเข้าและสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และมีผลบังคับทั้งระดับรัฐบาลกลางและระดับมณฑล การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้าเกษตรนำเข้าของจีนจึงเป็นไปอย่างถูกต้อง 2 การขอใบอนุญาตนำเข้า - จีนกำหนดมาตรฐานบริษัท Trading firm ที่จะได้รับอนุญาตให้นำเข้าไว้สูง ที่ผ่านมา การนำเข้าจึงต้องอาศัยบริษัทจีนเป็นหลัก ในทางตรงกันข้าม บริษัทจีนสามารถเข้ามาร่วมทุนทำธุรกิจในไทยเพื่อการส่งออกได้ จีนกำลังปรับปรุงกฎหมายการค้าฉบับใหม่ และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2547 เป็นต้นไป ซึ่งจะให้สิทธิผู้ส่งออก นำเข้าของจีน สามารถดำเนินธุรกิจส่งออก นำเข้ากับต่างประเทศได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องผ่าน Trading Firm ของจีน และดูแลด้วยระบบการขึ้นทะเบียนแทนการใช้ระบบใบอนุญาตในปัจจุบัน 3 ปัญหาด้านมาตรฐานสุขอนามัย - การตรวจสอบด้านสุขอนามัยของจีนมีความเข้มงวดมาก และการปฏิบัติมีความแตกต่างกันแต่ละมณฑล ทำให้ขาดมาตรฐาน นอกจากนี้ การตรวจสอบ ณ เมืองท่า ใช้เวลานาน - ก่อนการนำเข้าสินค้าเข้าสินค้าผักและผลไม้ บริษัทนำเข้าจะต้องขอ ใบอนุญาตด้านสุขอนามัย Inspection Quarantine License จากกระทรวงควบคุมคุณภาพและกักกันโรคของจีน AQSIQ ณ กรุงปักกิ่ง ไม่ว่าจะนำเข้าจากมณฑลใดล่วงหน้า และเมื่อสินค้ามาถึงท่า จะทำการตรวจสุขอนามัยอีกครั้ง - การจดทะเบียนสวนทุเรียนและมะม่วงทำให้สินค้าจากสวนอื่นๆไม่สามารถเข้าตลาดจีนได้ รมว เกษตรของไทยและรัฐมนตรีกระทรวงควบคุมและกักกันโรคของจีน ได้ลงนามใน MOU ว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2547 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายได้เร่งหารือและทำความเข้าใจระหว่างกัน เพื่อให้มีระบบการตรวจสอบที่เท่าเทียมกัน ลดขั้นตอนและระยะเวลาในการตรวจสอบ ดังนี้ จีนกำหนดให้มีการขอใบอนุญาตสุขอนามัยล่วงหน้าที่ปักกิ่ง โดยหากสินค้าที่มาถึงตรงกับหลักฐานในใบอนุญาตแล้ว จีนจะปล่อยสินค้าออกทันที แต่จะเก็บตัวอย่างบางส่วนไว้ตรวจเท่านั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะมีการปรับปรุง protocol ทุเรียนและมะม่วง โดยในระหว่างนั้นจะปฏิบัติตาม protocol เดิมอยู่ โดยจีนพร้อมรับรายชื่อสวนทุเรียนและมะม่วงที่ขึ้นทะเบียนของไทยทุกสวน และสามารถเพิ่มสวนได้ตลอดเวลา ขณะนี้ ไทยกำลังเร่งจดทะเบียนรายชื่อสวนอยู่ รวมถึงการขยาย protocol ไปยังสินค้าอื่นๆที่เห็นว่าจำเป็น 4 ปัญหาด้านการคมนาคม - การขนส่งสินค้าทางเรือของไทยไปจีน หลายครั้งต้องประสบปัญหาแม่น้ำตื้นเขิน เพราะจีนมีเขื่อนกักเก็บน้ำไว้ทางตอนบน ทางตอนเหนือของสิบสองปันนา - ในส่วนของการขนส่งทางอากาศยังไม่มีปัญหา แต่จำนวนอากาศยานพาณิชย์ของไทยที่ขนส่งสินค้าเข้าจีนมีจำนวนไม่มากพอ ส่วนการขนส่งทางบกยังอยู่ในระหว่างเร่งการก่อสร้าง คาดว่าจะเสร็จภายในปี 2550 แต่การขนส่งภายในจีนยังไม่ดีพอ ฝ่ายไทยอาจร่วมมือกับจีนในการเร่งพัฒนาในระบบคมนาคม เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น ข้อมูลจาก FTA กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!