หัวล้าน - ถามตอบที่ Sanook! Guru

                  ถือเสียว่าคำตอบนี้ให้ไว้เป็นความรู้ก็แล้วกัน   |ซองคำถาม|   ไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครหลาย ๆ คนสะเทือนใจเลย                   อุทัย สินธุสาร เขียนไว้ในสารานุกรมไทยว่า โบราณได้แบ่งศีรษะล้านไว้ ๗ ประเภท คือ                           ๑   ทุ่งหมาหลง   ด้านหน้าล้านเว้าเข้า   มีผมอยู่กลางศีรษะหย่อมเดียวบาง ๆ รอบศีรษะมีผมบ้าง                           ๒   ดงช้างข้าม   ด้านหน้าล้าน   มีผมตอนบนบาง ๆ ข้าง ๆ มีผม                           ๓   ง่ามเทโพ   ด้านหน้าล้านเข้าไปสองข้างเป็นง่ามถ่อ   มีผมรอบศีรษะ                           ๔   ชะโดตีแปลง ด้านหน้าและหลังล้าน   มีผมกลางศีรษะเล็กน้อย                           ๕   แร้งกระพือปีก ด้านหน้าล้านลงไปถึงหลัง มีผมเป็นปีกอยู่สองข้าง                           ๖   ฉีกขวานฟาด ด้านหน้าและบนศีรษะล้าน   เหลือแต่ผมข้าง ๆ   และข้างหลัง                           ๗   ราชครึงเครา   ล้านหมดทั้งศีรษะ เหลือแต่ข้าง ๆ   ยาวลงมารับกับเครา                   |ซองคำถาม|   มีข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกผมที่น่าสนใจว่า ขณะนี้                   นายสเตร้าต์   แมดดิน   ผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังชาวแคนาดา ค้นพบวิธีควบคุมการหลุดร่วงของเส้นผมและรักษาอาการผมบางให้กลับดกดำอีกครั้งด้วยการกระตุ้นหนังศีรษะด้วยสนามไฟฟ้า                   วิธีการทดลองของเขาทำอย่างง่าย ๆ   โดยการให้ชายอาสาสมัครที่หัวล้านมานั่งใต้เครื่องกระตุ้น   ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เขาสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ   รูปร่างคล้ายเครื่องอบผมในร้านเสริมสวย เป็นเวลานาน ๑๒ นาที   อาทิตย์ละครั้งเท่านั้น   ภายในเครื่องกระตุ้นดังกล่าวมีขั้วไฟฟ้าบวกและลบจำนวน ๔ คู่ ระยะห่างระหว่างขั้วไฟฟ้ากับศีรษะประมาณ ๑-๕ เซนติเมตร   ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ๑๒ โวลต์   ขณะเครื่องทำงานจะไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเลย แต่หนังศีรษะจะอยู่ในสนามไฟฟ้า                   ผลการทดลองผ่านไป ๑๒ ๒๔ และ ๓๖ สัปดาห์ ปรากฏว่าเส้นผมของอาสาสมัครหยุดร่วง และโดยเฉลี่ยแล้วทุกคนมีเส้นผมมากขึ้นอีก ๒ ใน ๓ ส่วนของตอนก่อนเริ่มต้นบำบัด                   นายแมดดินกล่าวทิ้งท้ายสำหรับคนหัวล้านที่กำลังเล็งผลเลิศว่า เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะมีผมขึ้นเต็มศีรษะเหมือนเดิม   ถ้าไม่มีรากผมเหลืออยู่เลย   เช่นเดียวกับที่เราไม่สามารถปลูกหญ้าให้ขึ้นกลางลานคอนกรีตได้ยังไงยังงั้น “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”