เจ้าหญิงนิทราถูกข่มขืน?
จริงหรือไม่ ที่นิทานเรื่องเจ้าหญิงนิทราไม่ได้จบแบบแฮปปีแอนดิง แต่ตัวเจ้าหญิงถูกข่มขืน ศักดิ์ชาย nbsp อินทร์ฤดี กรุงเทพฯ
จริงหรือไม่ ที่นิทานเรื่องเจ้าหญิงนิทราไม่ได้จบแบบแฮปปีแอนดิง แต่ตัวเจ้าหญิงถูกข่มขืน ศักดิ์ชาย nbsp อินทร์ฤดี กรุงเทพฯ
การข่มขืน การทำทารุณกรรมเด็ก และการทอดทิ้ง เป็นเนื้อหาหลักของข่าวพาดหัวและภาพยนตร์สารคดีในยุคปัจจุบันแต่เชื่อหรือไม่ว่า ความจริงอันโหดร้ายนี้ก็เป็นแก่นเรื่องของนิทานอมตะที่ประทับใจเราหลายต่อหลายเรื่อง เมื่อแรกที่นิทานเหล่านี้ถือกำเนิดขึ้น ตัวอย่างเช่น เค้าโครงเรื่องเดิมของ “ เจ้าหญิงนิทรา ” นั้นมิได้จบลงด้วยความสุขเมื่อเจ้าหญิงตื่นขึ้นด้วยจุมพิตอันแสนโรแมนติก ตรงกันข้าม เธอถูกข่มขืนในขณะหลับใหลจนตั้งครรภ์และให้กำเนิดลูกฝาแฝดชายหญิงซึ่งต้องผจญทุรกรรมเช่นเดียวกับแม่ ถูกจับไปแล่เนื้อปรุงเป็นอาหารโดยภรรยาใจร้ายของชายที่ข่มขืนแม่ของพวกตน ส่วนเรื่องเดิมของ “ หนูน้อยหมวกแดง quot นั้นโหดเหี้ยมไม่แพ้กัน หลังจากเจ้าหมาป่ากัดกินคุณยายแล้วก็กระโจนเข้าขย้ำหนูน้อยหมวกแดง ฉีกเธอออกเป็นชิ้น ๆ แต่เนื่องจากศิลปินผู้วาดภาพประกอบเห็นว่าความตายของสองยายหลานคู่นี้โหดร้ายเกินไป จึงเสนอให้ดัดแปลงเนื้อเรื่องโดยเพิ่มตัวละครนายพรานเข้ามาเพื่อฆ่าเจ้าหมาป่าใหญ่ใจร้าย และช่วยชีวิตหนูน้อยผู้น่าสงสารไว้ได้ในนาทีสุดท้าย ทำไมผู้แต่งนิทานซึ่งเป็นที่นิยมเล่าสืบต่อกันมานับร้อย ๆ ปี จึงเสนอความไร้ศีลธรรม ความโหดร้ายรุนแรงในเรื่องที่แต่งขึ้นสำหรับเด็ก คำตอบหนึ่งพยายามอรรถาธิบายโดยอิงสภาพสังคมในสมัยพระราชินีอลิชาเบทที่ ๑ ค ศ ๑๕๕๘-๑๖๓๐ เรื่อยมาจนถึงต้นศตวรรษที่ ๑๙ โดยชี้ว่าคนในยุคสมัยดังกล่าวมองว่า เด็กก็คือผู้ใหญ่ย่อส่วน ดังนั้นจึงไม่ต้องปฏิบัติต่อพวกเขาเป็นพิเศษแตกต่างไปจากผู้ใหญ่ ครอบครัวในครั้งกระโน้นอยู่เบียดเสียดรวมกันในบ้านซึ่งมีเพียงห้องเดียว เด็กจึงนอนดึกเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ พวกเขาได้ยินได้ฟังคำพูดหยาบโลนและจดจำไปใช้ เด็กไม่ได้ถูกกันออกไปจากเรื่องเพศของผู้ใหญ่ พวกเขายังเห็นผู้ใหญ่เมาเหล้าและทำตามโดยลองหัดดื่มดูบ้าง การลงโทษของบ้านเมืองในเวลานั้นไม่ว่าจะเป็นการโบยตีแขวนคอ คว้านไส้พุง หรือจับใส่ขื่อคา ทำกันที่จัตุรัสกลางเมืองท่ามกลางสาธารณชน เด็กเมื่อสามสี่ร้อยปีก่อนจึงคุ้นเคยชาชินกับความรุนแรง ความโหดร้าย และความตาย นิทานซึ่งถือกำเนิดในเวลาดังกล่าวจึงเป็นส่วนผสมของความนึกฝันอันแสนสุขสนุกสนาน กับความจริงอันแสนโหดร้ายของชีวิต สำหรับผู้แต่งเอง การเสนอนิทานในลักษณะนี้จึงเป็นเรื่องปกติ และไม่ถือว่าเป็นพิษเป็นภัยต่อเด็กแต่อย่างใด บุคคลผู้หนึ่งซึ่งมีบทบาทสำคัญทำให้นิทานหลาย ๆ เรื่องที่เรารักเป็นอมตะ คือ ชาร์ลส์ แปร์โรลต์ แม้ว่าเขาไม่ได้แต่งนิทานเหล่านี้ขึ้นเองทั้งหมดเพราะนิทานบางเรื่องเป็นวรรณกรรมปากเปล่า มุขปาฐะ บางเรื่องมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรอยู่ก่อนแล้ว แต่ด้วยกลวิธีการเขียนและจินตนาการที่แปร์โรลต์สอดใส่เข้าไป ทำให้นิทานที่มีอยู่เดิมเป็นอมตะโด่งดังแพร่หลายไปทั่วโลก นิทานอมตะ ๓ เรื่องที่เขาเขียนขึ้นใหม่จากเค้าโครงเรื่องเดิม คือ “ เจ้าหญิงนิทรา ” “ ซินเดอเรลลา ” และ “ หนูน้อยหมวกแดง ” ชาร์ลส์ แปร์โรลต์ เกิดที่กรุงปารีสเมื่อปี ค ศ ๑๖๒๘ บิดาเป็นนักเขียนมีชื่อคนหนึ่ง เขามีประวัติเป็นนักเรียนสอบตกชอบเปลี่ยนงาน ความไม่พอใจในระบบราชการทำให้เขาหันมาเขียนนิทานที่เขามักเล่าให้ลูก ๆ ฟังก่อนนอน และแล้วเขาก็พบว่านี่แหละคืออาชีพที่เหมาะกับเขาที่สุด ในปี ค ศ ๑๖๙๗ หนังสือเล่มสำคัญที่นำชื่อเสียงและความสำเร็จมาสู่ตัวเขาได้รับการตีพิมพ์ออกจำหน่ายในกรุงปารีสหนังสือเล่มนี้ชื่อ “ นิทานเมื่อวันวาน ” รวบรวมนิทานไว้ทั้งหมด ๘ เรื่องด้วยกัน ปรากฏว่านิทาน ๗ ใน ๘ เรื่องได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง แปลเป็นภาษาต่าง ๆ ออกไปทั่วโลก และได้กลายเป็นนิทานอมตะประทับใจเด็กทั่วโลกตราบจนทุกวันนี้นิทานทั้ง ๗ เรื่องในชื่อฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษครั้งแรก คือ “ The Sleeping Beauty in the wood ” “ Little Red Riding Hood ” “ Cinderella or The Little GIass Slipper ” “ Blue Beard ” “ Diamonds and Toads ” “ The Master Cat or Puss in Boots ” และ “ Hop o| my Thumb ” อัจฉริยภาพของแปร์โรลต์คือความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าเสน่ห์ของนิทานอยู่ที่ความเรียบง่าย เขาเติมแต่งเค้าเรื่องเดิมด้วยของวิเศษ เวทมนตร์ นางฟ้า และใช้สำนวนภาษาที่ไร้เดียงสาของเด็ก ดังนั้นนิทานของเขาจึงให้ความรู้สึกเหมือนเรื่องราวที่เด็กรับฟังมาจากพ่อแม่แล้วเล่าให้เพื่อนฟังอีกต่อหนึ่ง “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!