การผงกหัว กับการส่ายหน้า?
ldquo ซองคำถาม rdquo เคยสงสัยบ้างไหมว่า ทำไมมนุษย์จึงส่ายหน้าเมื่อไม่เห็นด้วย และผงกหัวเมื่อเห็นด้วย ไม่ลงชื่อ กรุงเทพฯ
ldquo ซองคำถาม rdquo เคยสงสัยบ้างไหมว่า ทำไมมนุษย์จึงส่ายหน้าเมื่อไม่เห็นด้วย และผงกหัวเมื่อเห็นด้วย ไม่ลงชื่อ กรุงเทพฯ
แม้ว่าการผงกหัวที่หมายถึงว่า “ ใช่ ” กับการส่ายหน้าที่ หมายความว่า “ ไม่ใช่ ” นั้น จะไม่ใช่ธรรมเนียมที่ยอมรับกัน ทั่วโลก แต่ก็เป็นที่นิยมและเข้าใจกันในหลาย ๆ แห่ง นักชีววิทยาหลายคนเห็นด้วยกับข้อเสนอของ ชาร์ลส์ ดาร์วิน ที่อธิบายสาเหตุของการกระทำเช่นนี้ว่า เป็นพฤติกรรมที่ติดมาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นทารก เนื่องจากลักษณะการผงกหัวไปข้างหน้าเป็นอิริยาบถหนึ่งของทารกขณะชุกอกแม่เพื่อดูดนม ส่วนการส่ายหน้าก็เป็นท่าทางแสดงการปฏิเสธของทารกเช่นกัน และลักษณะการปฏิเสธแบบนี้ แม้เมื่อโตขึ้นจนเดินเตาะแตะได้ก็ยังคงใช้อยู่ เช่น กรณีที่เด็กปฏิเสธอาหารที่พ่อแม่ยื่นหรือป้อนให้เด็กก็จะส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธอาหารนั้น lren auml us Eibl-Eibersfeldt นักชีววิทยาสังคมอธิบายว่าการตอบตกลงโดยการผงกหัวอาจเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับการแสดงอาการยอมรับหรือยอมจำนนตามความคิดของผู้อื่นส่วนการส่ายหน้าก็อาจมาจากการสะบัด ขน ตัว ของนก หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เราปฏิเสธความคิดที่เราไม่เห็นด้วยในแบบเดียวกับที่หมาสะบัดขนตอนตัวเปียก อย่างไรก็ตาม จากข้อพิสูจน์ที่ว่า เด็กที่หูหนวก ตาบอดมาแต่กำเนิด ก็สามารถผงกหัวและส่ายหน้าได้โดยไม่ต้องมีตัวอย่างให้ดูนั้น ช่วยสนับสนุนความคิดที่ว่า การผงกหัวและส่ายหน้าเกิดเนื่องมาจากพฤติกรรมของทารก ไม่ใช่สิ่งที่ปลูกฝังกันทางวัฒนธรรม “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!