ค่า SPF ยิ่งมากยิ่งดีจริงหรือ?
nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp SPF ย่อมาจากคำว่า Sun Protection Factor ซึ่งบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดด ทำให้เรารู้ว่าเมื่อใช้เครื่องสำอางนี้แล้วผิวหนังของเราจะถูกแสงแดดได้นานแค่ไหนผิวถึงจะไม่ไหม้ เช่น ถ้าปกติโดนแสงแดดได้นานเป็นเวลา 10 นาที แล้วถึงจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน หรืออาการไหม้ที่บริเวณผิวหนัง แต่เมื่อได้ทาเครื่องสำอางที่ผสมสารป้องกันแสงแดดที่มีค่า SPF 15 แล้ว ก็จะสามารถถูกแสงแดดได้นานขึ้นถึง 15 เท่า ก็คือ 150 นาที โดยที่ผิวไม่ไหม้เป็นต้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างประกอบกันด้วย อย่างเช่น มีเหงื่อออกมาก ว่ายน้ำ หรือทำกิจกรรมใดก็แล้วแต่ที่ทำให้เครื่องสำอางนั้นถูกชะล้างออกจากผิวหนังหรือเปล่า ถ้าใช่ ก็จะต้องทาเครื่องสำอางนั้นซ้ำบ่อยๆ เพราะประสิทธิภาพของการป้องกันแสงแดดของผลิตภัณฑ์จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งผู้ผลิตจะระบุค่า SPF ไว้บนฉลากให้ทราบ nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp nbsp สำหรับประเทศไทยซึ่งมีอากาศร้อน แสงแดดจัด มีข้อแนะนำให้เลือกใช้เครื่องสำอางป้องกันแสงแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 15 ขึ้นไป สำหรับประเด็นที่ว่า ค่า SPF ยิ่งมากยิ่งดีจริงหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายในการใช้ ถ้าอยู่ในที่แสงแดดจ้าเป็นเวลานานๆ เครื่องสำอางที่มีค่า SPF ยิ่งมากย่อมทำให้ระยะเวลาที่ผิวสามารถทนทานต่อแสงแดดนานขึ้นตามลำดับ แต่เครื่องสำอางนั้นก็จะเหนียวเหนอะมากขึ้น และมีสารเคมีที่ใช้กันแดดมากตามเช่นกัน ดังนั้นโอกาสที่ผู้ใช้จะเกิดการแพ้หรือระคายเคืองย่อมมีมากกว่าผู้ที่ใช้เครื่องสำอางที่มีค่า SPF ต่ำ อีกทั้งเครื่องสำอางที่มีค่า SPF ยิ่งมาก ราคายิ่งแพง จึงควรต้องคำนึงถึงความจำเป็นที่ต้องใช้ด้วย ในกรณีที่ไม่ได้ถูกแสงแดดจัดตลอดเวลา เช่น นั่งทำงานอยู่ในสำนักงานทั้งวัน การใช้เครื่องสำอางที่มีค่า SPF มาก ๆ ก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นแต่อย่างใด