ความรู้ เกร็ดความรู้ สารานุกรม สารานุกรมออนไลน์ ความรู้รอบตัว ความรู้ทั่วไป พจนานุกรม เกมส์ เพลงใหม่ เพลง

ผู้หญิงไทยกับศัลยกรรมเสริมความงาม?, ผู้หญิงไทยกับศัลยกรรมเสริมความงาม? หมายถึง, ผู้หญิงไทยกับศัลยกรรมเสริมความงาม? คือ, ผู้หญิงไทยกับศัลยกรรมเสริมความงาม? ความหมาย, ผู้หญิงไทยกับศัลยกรรมเสริมความงาม? คืออะไร
| เปิดอ่าน 0 | ความคิดเห็น 0
คำถาม

ผู้หญิงไทยกับศัลยกรรมเสริมความงาม?

ผู้หญิงไทยเริ่มทำศัลยกรรมเสริมความงามกันมาตั้งแต่เมื่อไรในระยะแรก ๆ แพทย์ไทยมีความรู้ความสามารถแค่ไหน ธีรดา กรุงเทพฯ

คำตอบ

        หนังสือ ศัลยกรรมตกแต่ง โดย นพ กิตติ เย็นสุดใจ และคณะ ได้กล่าวถึงประวัติของศัลยกรรมเสริมความงามว่า เริ่มจากการทำศัลยกรรมตกแต่งโดย เซลซัส Celcus แพทย์ชาวฮินดูสมัยก่อนคริสตกาล เป็นผู้วางรากฐานการทำศัลยกรรมตกแต่งมาตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มียาสลบ ไม่มีการให้เลือดและยาปฏิชีวนะ         ในประเทศอินเดียสมัยก่อนพุทธกาล ช่างปั้นหม้อตระกูลโคมะ Kumar เป็นผู้มีชื่อเสียงในการเสริมจมูกให้สตรีมีชู้ที่ถูกตัดจมูกทิ้ง หลายพันปีมาแล้ว ฮิปโปเครตีส Hippocrates แพทย์ชาวกรีกผู้เป็นบิดาแห่งการแพทย์ ได้อธิบายหลักวิธีพันผ้ายึดกระดูกใบหน้าหักรอบ ๆ หน้าผากและคาง         หนังสือพิมพ์สยามนิกร ๒๑ มกราคม ๒๕๐๗ กล่าวถึงศัลยกรรมเสริมความงามว่า เริ่มมีมาในยุโรปตั้งแต่สมัยกลาง ค ศ ๕๐๐-๑๔๕๐ สมัยนั้นได้มีการพยายามจะซ่อมจมูกหรือหูที่โหว่หรือแหว่งวิ่น ในประเทศเยอรมนียุคนั้นเคยมีกษัตริย์องค์หนึ่งให้ช่างทำจมูกทองคำเข้าสวมแทนพระนาสิกอันโหว่ของพระองค์         หนังสือ Human Face โดย John Liggett กล่าวถึงพัฒนาการของศัลยกรรมเสริมความงามว่า เริ่มต้นประมาณ๑ ๐๐๐ ปีที่แล้วในประเทศอินเดียและในระหว่างยุคกลาง นักกายวิภาค คือ Vesalius Fallopius และ Ambroise Pare ได้เขียนหนังสือเตือนศัลยแพทย์เกี่ยวกับอันตรายและความยากลำบากในการทำศัลยกรรม แต่งานเขียนที่เป็นหลักฐานและได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งแรกเกี่ยวกับศัลยกรรมเสริมความงาม ได้แก่ งานเขียนเรื่อง The Madras Gazette ของ Gaspare Tagliacozzi ชาวอิตาลี ได้กล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการผ่าตัดเสริมจมูกที่หายไปจากอาวุธมีคมหรือโรคร้าย โดยการนำชิ้นส่วนบริเวณหน้าผากมาสร้างทดแทนจมูกที่หายไป นอกจากนี้งานเขียนอีกชิ้นหนึ่งที่ชื่อ De Chirurgia Curtorum ซึ่งตีพิมพ์ในปี ค ศ ๑๕๙๗ อธิบายเกี่ยวกับกระบวนการผ่าตัดหน้าตาอย่างละเอียดถึง ๒๒ แบบ   ซึ่งวิธีการต่าง ๆ ของ Tagliacozzi ทำให้เขามีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จอย่างมากในสมัยนั้น คำอธิบายของเขากลายเป็นรากฐานของการทำศัลยกรรมในสมัยต่อมา แต่สิ่งนี้ทำให้เขาถูกต่อต้านจากคนจำนวนมากและถูกกล่าวหาว่าเป็นพ่อมดที่เข้าไปบิดเบือนงานที่พระเจ้าสร้างมา         ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๑ Harold D Gillies ศัลยแพทย์ชาวนิวซีแลนด์   ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดรักษาทหารบาดเจ็บในสงคราม   เป็นผู้วางรากฐานศัลยกรรมตกแต่ง และแต่งตำราผ่าตัดใบหน้า หลักวิชาศัลยกรรมตกแต่งของเขายังใช้และเป็นประโยชน์จนถึงปัจจุบัน         ในปี ค ศ ๑๙๒๘ JacqueS Joseph ได้เขียนหนังสือ Nasenplastik and Sonstige Gesichtsplastik เพื่ออธิบายถึงการนำเทคนิคใหม่ ๆ มาใช้ในการทำศัลยกรรม โดยเขาได้ประดิษฐ์เครื่องมือพิเศษต่าง ๆ เช่น เครื่องมือที่ใช้สำหรับยกกระดูกเลื่อยสำหรับลดขนาดของกระดูกอ่อนและดั้งจมูก ในสมัยนั้นศัลยกรรมตกแต่งที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปและประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง ได้แก่ การผ่าตัดซ่อมแซมหน้าตาที่เสียโฉมจากอุบัติเหตุทางถนนและการสู้รบในสงคราม เพราะการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงหรือซ่อมแซมหน้าตามีผลต่อจิตใจของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก และสามารถทำให้เขากลับเข้ามาดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปรกติสุข         หลังสงครามโลกครั้งที่ ๑ เป็นต้นมา ศัลยกรรมตกแต่งซบเซาลงไปเนื่องจากทั่วโลกเกิดภาวะวิกฤตหลังสงคราม แต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ ยุติ ศัลยกรรมตกแต่งกลับเป็นที่นิยมทั่วโลกอีกครั้งหนึ่งและเป็นที่นิยมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน         ส่วนการผ่าตัดเสริมความงามของสตรีในเมืองไทย เริ่มต้นประมาณปี พ ศ ๒๕๐๐ โดยการชักนำของกลุ่มบุคคลที่มิได้เป็นแพทย์ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน   มีร้านรับทำศัลยกรรมของชาวจีนเปิดบริการอยู่สองร้าน คือ ร้านซ่งฮุย   ย่านเยาวราช   และร้านซุ่ยเต็ก บริเวณเจริญผล ทั้งสองร้านนี้รับทำตาสองชั้น เสริมจมูกให้โด่ง และเย็บใบหูที่กางออกมากเกินไป แต่เนื่องจากผู้ทำไม่ใช่ศัลยแพทย์และมีความรู้น้อย จึงทำให้เกิดความผิดพลาดทางเทคนิคเนือง ๆ บางคนมีอาการอักเสบและติดเชื้อ เป็นผลให้ผู้ที่ไปทำได้รับความเสียหายถึงขั้นฟ้องศาล จึงต้องเลิกกิจการไป         วงการแพทย์ในขณะนั้นยังมีความเห็นว่า ศัลยกรรมตกแต่งไม่ใช่สิ่งจำเป็น จะทำก็ต่อเมื่อมีความผิดปรกติทางกายหรือทางสรีระเท่านั้น จนถึงปี พ ศ ๒๕๑๒ ได้เริ่มมีแพทย์ไทยที่เรียนและฝึกงานในสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่งโดยตรง เดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ โดยเริ่มปฏิบัติงานในด้านศัลยกรรมตกแต่งทั้งในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน ต่อมาได้ก่อตั้งสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปี พ ศ ๒๕๑๕ จากนั้นงานศัลยกรรมตกแต่งโดยเฉพาะการทำศัลยกรรมเสริมความงามได้เจริญและพัฒนาอย่างรวดเร็วที่เล่ามานี้ คัดย่อมาจากวิทยานิพนธ์เรื่อง สตรีไทยกับศัลยกรรมเสริมความงาม โดย อริยา อินทามระ “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”

ผู้หญิงไทยกับศัลยกรรมเสริมความงาม, ผู้หญิงไทยกับศัลยกรรมเสริมความงาม หมายถึง, ผู้หญิงไทยกับศัลยกรรมเสริมความงาม คือ, ผู้หญิงไทยกับศัลยกรรมเสริมความงาม ความหมาย, ผู้หญิงไทยกับศัลยกรรมเสริมความงาม คืออะไร

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!

คำถามแนะนำ

คำถามในหมวดอื่นๆ

คำยอดฮิต

Sanook.commenu