หน้าเป็นสิวอักเสบมีรอยแผลเป็นควรรักษาแบบไหนถึงจะหาย ? รักษายังไงก็ไม่หายแถมสิวอักเสบมากขึ้นกว่าเดิมอีก เป็นคนหน้ามัน ก็ใช้โทนเนอร์ควบคุมความ แต่ไม่หาย มีรอยแผลเป็นจุดด่างดำจากสิว ทำยังไงดี ให้มันหายไป
ในการรักษาสิวจะแบ่งยาที่ใช้คร่าวๆเป็น 2 กลุ่ม คือ ยาทาและยารับประทาน ยาทานั้นใช้ได้กับสิวอุดตันและสิวอักเสบ ออกฤทธิ์ได้ช้าแต่ถ้าใช้อย่างสม่ำเสมอจะเป็นตัวที่ป้องกันการเกิดสิวได้ ในกรณีที่มีการอักเสบค่อนข้างมาก ควรมียารับประทานร่วมด้วย เพื่อให้สิวยุบเร็วขึ้น โอกาสเกิดแผลเป็นก็จะน้อยกว่าค่ะ xml namespace prefix o ns urn schemas-microsoft-com office office 1 การฉีดยาเข้าไปในหัวสิวอักเสบ จะเป็นการลดปฏิกิริยาของร่างกาย การบวม แดง ทำให้หัวสิวยุบได้รวดเร็ว ควรใช้ในกรณีที่สิวบวมใหญ่ หรือเป็นถุงหนอง 2 การกดสิว มีข้อดี คือ ทำให้บริเวณที่เป็นสิวอุดตันเรียบได้เร็ว แต่บางครั้งอาจมีสิวอักเสบเกิดขึ้นได้บ้าง บริเวณที่อยู่ใกล้เคียงกัน 3 การกินยา Roaccutane มีฤทธิ์ลดการทำงานของต่อมไขมันที่ผิวหนัง ทำให้การเกิดสิวลดลง ส่วนใหญ่จะเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ร้ายแรง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย คือ ปากแห้ง ผิวแห้ง หรือการกินยากลุ่มอื่นๆ เพื่อควบคุมและฆ่าเชื้อสิว ลดการอักเสบของสิว โดยปกติหลังจากสิวอักเสบยุบแล้วจะทิ้งรอยคล้ำไว้ระยะหนึ่ง แล้วจะค่อยๆจางหายไปเอง การบีบหรือกดสิวอักเสบจะทำให้สิวช้ำมากขึ้น เป็นผลทำให้รอยคล้ำหายช้ากว่าปกติมาก จึงไม่ควรบีบสิว นอกจากนี้เชื้อโรคจากภายนอกจะเข้าสู่สิวอักเสบนั้นได้ง่ายมาก ทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำซ้อนซึ่งจะอันตรายมาก การรักษารอยคล้ำจากสิว ทำได้โดย 1 ทายารักษารอยคล้ำบางประเภท เช่น กรดวิตามินซี AHA Whitening เป็นต้น จะช่วยให้รอยคล้ำจางเร็วขึ้น 2 หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดมากๆ และทายากันแดดเป็นประจำ 3 ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นโดยทาครีมบำรุงผิว Moisturizer และดื่มน้ำมากๆ 4 การทำ Treatment 5 การยิงเลเซอร์ ที่มา
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!
สงวนลิขสิทธิ์ © บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด
