ลงขัน?
เวลาเราออกเงินร่วมกันเพื่อใช้จ่ายหรือทำการใดการหนึ่ง เหตุใดจึงเรียกว่า ลงขัน ขันมาเกี่ยวอะไรด้วย ไม่ลงชื่อ กรุงเทพฯ
เวลาเราออกเงินร่วมกันเพื่อใช้จ่ายหรือทำการใดการหนึ่ง เหตุใดจึงเรียกว่า ลงขัน ขันมาเกี่ยวอะไรด้วย ไม่ลงชื่อ กรุงเทพฯ
อาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม อธิบายเรื่องนี้ไว้ในวารสารเมืองโบราณฉบับเดือนกันยายน พ ศ ๒๕๑๗ ว่า งานบุญในชนบทเจ้าของบ้านจะนำขันเงินหรือสำริดมาวางไว้ที่โต๊ะหรือตั่ง ณ มุมใดมุมหนึ่งของบ้าน แล้วให้ญาติคอยจดจำนวนเงินและรายชื่อผู้ที่นำเงินมาให้ เมื่อแขกมาถึง ก็จะตรงมาที่ขันนั้นก่อน นำเงินจำนวนหนึ่งใส่ลงไปในขันเพื่อช่วยเจ้าภาพในการทำบุญ ประเพณีนี้เพิ่งจะเกิดขึ้นมาไม่นาน เพราะย้อนหลังไปราว ๔๐ ปี ชาวบ้านมักจะช่วยกันด้วยสิ่งของและแรงงานมากกว่าจะช่วยเป็นเงิน การลงขันเหมือนกับการเล่นแชร์ ผู้ที่เป็นเจ้าภาพในงานทำบุญเหมือนกับคนที่เปียแชร์นั่นเอง คือหลังจากที่ได้เงินลงขันของเขามาแล้ว ก็ต้องนึกทันทีว่าตกเป็นหนี้เขา ต้องไปช่วยลงขันในงานของคนที่เคยมาช่วยตนบ้างในโอกาสต่อไป โดยเหตุนี้ในงานลงขันจึงต้องมีผู้ที่เป็นญาติสนิทคอยช่วยทำหน้าที่จดชื่อและจำนวนเงินของแขกที่มาลงขันไว้ เพื่อว่าเมื่อถึงคราวของเขาบ้าง จะได้รู้ว่าตนจะต้องช่วยเขาเท่าใด และรายชื่อที่จดไว้นั้นจะได้นำไปตรวจสอบกับรายชื่อของจำนวนแขกที่ตนได้เชิญไปว่ามาครบตามที่เชิญหรือไม่ ใครบ้างที่ขาดไป หรือคนที่มาในงานให้เงินลงขันมากหรือน้อยกว่าเงินที่ตนลงขันให้เขามาก่อนอย่างใดบ้าง ส่วนผู้ที่เป็นแขกนำเงินมาลงขันนั้น ก็จะจำหรือบันทึกไว้ว่า เคยลงขันให้แก่เจ้าภาพเท่าใด และตนได้เคยช่วยลงขันเขามากี่รายแล้ว รายการที่บันทึกไว้นี้จะช่วยให้เจ้าของคาดคะเนจำนวนเงินช่วยและจำนวนแขกได้ หากในโอกาสต่อมาตนจะจัดงานทำบุญบ้าง “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!!