วิธีพิสูจน์ไข่มุก - ถามตอบที่ Sanook! Guru

        วิธีพิสูจน์ไข่มุกทำได้ง่าย ๆ ด้วยการนำไข่มุกมาถูกับฟันหรือใช้ลิ้นสัมผัส ไข่มุกแท้เมื่อนำมาถูกับฟัน จะไม่เป็นรอย ทั้งยังมีความหนืดในการเสียดสี   ถ้าใช้ลิ้นสัมผัสก็จะรู้สึกสาก ๆ ส่วนไข่มุกเทียมจะลื่น เมื่อสีกับฟันแล้วจะเป็นรอยร้านค้าอัญมณีและเครื่องประดับแนะนำให้พิสูจน์ด้วยวิธีส่องไฟ   ถ้าเป็นไข่มุกเทียมจะเห็นรอยเคลือบบาง ๆ อาจเห็นรอยเชื่อมต่อหรือรอยแตก ที่สำคัญคือไข่มุกเทียมจะไม่มีความแวววาว ทั้งยังไม่เห็นเป็นเลื่อมสีเช่นไข่มุกแท้         วิธีสุดท้ายที่มีผู้แนะนำไว้ คือให้ใช้ไฟลน ไข่มุกเทียมจะไม่ทนความร้อน เพียงไฟจากบุหรี่ก็ทำให้เกิดริ้วรอยไหม้หรือแตกกะเทาะได้ง่าย ส่วนไข่มุกแท้จะทนทาน แม้จะเป็นรอยไหม้ก็เช็ดออกได้         ไข่มุกแท้หรือไข่มุกธรรมชาติ เกิดจากวัตถุภายนอก เช่น   เม็ดทราย ตะกอน ฯลฯ พลัดเข้าไปในตัวหอยมุก หรือเกิดจากตัวการแหย่กวนภายในเอง หอยมุกจะบรรเทาความระคายเคืองโดยหุ้มสิ่งนั้นด้วยมุกหรือหินปูน แคลเซียมคาร์บอเนต         ไข่มุกธรรมชาติมีโครงสร้างเหมือนหัวหอม ประกอบด้วยชั้นบาง ๆ มากมายหลายชั้น สีเลื่อมแสง เกิดจากแสงสะท้อนหักเหจากผิวของชั้นโปร่งแสง         ไข่มุกแท้มีหลายสี เช่น สีกุหลาบ นวล เทาเจือขาว สีทอง   สีดำ ม่วงอ่อน น้ำเงิน เหลือง ส้ม น้ำตาล และเขียว ไข่มุกดำหายากและมีราคาสูง   ซึ่งราคาจะใกล้เคียงกับไข่มุกสีชมพูที่งดงามสีไข่มุกโดยทั่วไปจะเหมือนกับเยื่อบุเปลือกหอย         ด้วยเหตุที่ไข่มุกธรรมชาติหายากขึ้นทุกที นายมิกิโมโต   ชาวญี่ปุ่น   จึงทดลองทำไข่มุกเลี้ยงขึ้น โดยใส่วัตถุชิ้นเล็ก ๆ เข้าไปในตัวหอยให้ผลิตมุกออกมาเหมือนที่มันทำตามธรรมชาติครั้งแรกล้มเหลว   แต่ก็ไม่ละความพยายาม   จนสำเร็จเมื่อราว พ ศ ๒๔๓๖ แต่ไข่มุกที่ได้เป็นมุกซีก จนถึง พ ศ ๒๔๕๑   ดร มาซาโย ฟูจิตา ชาวญี่ปุ่นอีกผู้หนึ่งจึงคิดหาวัตถุชนิดที่ทำหน้าที่เป็น “ เม็ดเพาะ   ในตัวหอยมุก ประกอบด้วยกรรมวิธีผ่าตัดพิเศษที่ปกปิดเป็นความลับ ทำให้หอยมุกผลิตไข่มุกชนิดกลมออกมาได้ “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”