ประโยชน์ของวิตามินซี ใครๆ ก็ทราบกันดีว่า วิตามินซี นั้นมีส่วนช่วยบำรุงร่างกายของเราอยู่หลายประการ ตั้งแต่ช่วยให้เรามีภูมิคุ้มกันไม่ให้เกิดหวัดได้ง่าย ไปจนถึงการบำรุงผิวพรรรณให้ดูขาวใส ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ มาจนถึงหล่อก็หันมาดูแลตัวเองด้วยการบริโภค วิตามินซี ด้วยเช่นกัน แต่ ! รู้หรือไม่ว่า วิตามินซี ยังมีประโยชน์ที่มากกว่านั้น เราลองไปดูกันให้ชัดๆ เป็นข้อๆ กันเลยดีกว่า ว่าข้อดีของเจ้าวิตามินชนิดนี้มีอะไรเพิ่มเติมจากที่เรารู้กันบ้าง
- วิตามินซี หรือกรดแอสคอร์บิก เป็นวิตามินที่สามารถละลายในน้ำได้ ทั้งยังเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง
- สัตว์ส่วนใหญ่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีเองได้ แต่มนุษย์ต้องอาศัยวิตามินซีจากอาหารเสริมแทนเท่านั้น
- วิตามินซี มีบทบาทสำคัญในการสร้าง คอลลาเจน เพื่อช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย
- วิตามินซี ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น
- วิตามินซี จะถูกใช้หมดไปอย่างรวดเร็วเมื่อคุณตกอยู่ในสภาวะเครียด
- การขาดวิตามินซีอาจทำให้เกิดโรคเลือดออกตามไรฟันได้
- ผู้ที่สูบบุหรี่และผู้สูงอายุควรได้รับวิตามินซีเพิ่มมากขึ้น
- ร่างกายจะสูญเสียวิตามินซี ประมาณ 25 - 100 mg. ต่อการสูบบุหรี่หนึ่งมวน
- วิตามินซี ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของคอเรสเตอรอลชนิดไม่ดี (DLL)
- แหล่งที่สามารถพบวิตามินซีได้ในธรรมชาติ ได้แก่ ผลไม่รสเปรี้ยว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว แคนตาลูป มันฝรั่ง มะเขือเทศ ดอกกะหล่ำ และพริกไทย เป็นต้น
- วิตามินซี มีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม (มก. หรือ mg.)
- ขนาดวิตามินซีที่แนะนำให้รับประทานอยู่ที่ 60 mg. ต่อวัน และสำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ต้องให้นมบุตรอยู่ที่ 70 - 96 mg. ต่อวัน
วิตามินซีชนิดเม็ด
ที่ปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อและหลายรส ทำมาจากอะไร หรือมีประโยชน์อย่างไร ตอนเด็ก ๆ หลายคนชอบกินวิตามินซีชนิดเม็ด เพราะคุณพ่อคุณแม่หาซื้อมาประเคน นัยว่าป้องกันโรคลักปิดลักเปิด พอโตขึ้นหลายคนก็ยังกินอยู่ เพราะสะดวก หรือบางคนอาจจะไม่ชอบกินผลไม้ แต่ท่านรู้หรือไม่ว่า
นพ.กฤษดา กล่าวว่า วิตามินซี ชนิดเม็ดที่ขายกันอยู่มีทั้งวิตามินซีธรรมชาติ และสังเคราะห์ โดย ชนิดที่เป็นสารสังเคราะห์ประกอบด้วย กรดแอสคอบิก ผสมกับน้ำเชื่อมข้าวโพด หรือ คอร์นไซรัป มีการเติมสี แต่งกลิ่น แต่งรส ดังนั้นการกินวิตามินซีชนิดเม็ดจะได้ความหวานด้วย โดยเฉพาะที่เป็นชนิดแบบอมเล่น รสผลไม้ ทั้งหลาย
ถามว่า วิตามินซี ชนิดเม็ดให้คุณค่าเช่นเดียวกับผลไม้ที่มี วิตามินซี หรือไม่ ขอเรียนว่า ถ้าเป็นวิตามินซีธรรมชาติจะให้คุณค่าไม่ต่างจากผลไม้อุดมวิตามินซีทั่วไป แต่ถ้าเป็นวิตามินซีสังเคราะห์มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าอาจทำให้เกิดมะเร็งมากขึ้นในหนูทดลองและทำให้หลอดเลือดแข็งตีบในคนได้
โดยหลักในการเลือกซื้อ วิตามินซี ธรรมชาติไม่ให้ดูแค่คำว่า ธรรมชาติ หรือ Natural ข้างฉลากเท่านั้น หากแต่ต้องดูคำว่า ผลิตจากผักและผลไม้ในสภาวะที่เหมาะสม หรือ Made from fruits and vegetables below 70 degrees แทน
ความจำเป็นในการกินวิตามินซีชนิดเม็ด
นพ.กฤษดา บอกว่า หากกินผักผลไม้ไม่ค่อยไหวก็อาจรับประทานได้บ้าง แต่ไม่ใช่ใช้แทน เพราะอย่างไรก็ดีวิตามินจะดูดซึมได้ดีต้องมีสารธรรมชาติบางชนิดในผลไม้นั้น ๆ ช่วยด้วย ดังนั้นสูตรสำเร็จสำหรับผู้รักที่จะกินวิตามินซีก็คือ กินอาหารเสริมบวกอาหารสดนั่นเอง
อาหารที่มีวิตามินซีมาก ได้แก่ ฝรั่งกลมสาลี่ มะขามเทศ มะขามป้อม มะละกอแขกดำ พุทรา แอปเปิ้ล และส้มโอขาวแตงกวา ซึ่งจะสังเกตได้ว่าความเปรี้ยวไม่ใช่ตัวบอกวิตามินซี เพราะจะเห็นว่าผลไม้เปรี้ยวจัดอย่างมะยมหรือลูกเสาวรสไม่ติดอันดับต้น ๆ เลย
นอกจากนี้อาหารธรรมชาติที่นึกไม่ถึงอีกชนิดที่มีวิตามินซีมาก คือ ปลาทะเลดิบ มีกรด แอสคอบิกมากเป็นพิเศษ จะเห็นได้ว่าชาวเอสกิโมนั้นแม้ไม่ค่อยได้บริโภคพืชผักผลไม้ ก็ยังไม่เป็นโรคขาดวิตามินซี
กลุ่มคนที่ควรรับประทานวิตามินซี คือ ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ที่เป็นโลหิตจางและผู้รับประทานมังสวิรัติ เพราะบุหรี่หนึ่งมวนจะผลาญวิตามินซีไปเท่ากับส้มเขียวหวานราว 1 ผลเลยทีเดียว ส่วนโลหิตจางบางชนิดกับคนกินมังสวิรัตินั้นมักขาดธาตุเหล็กจากเนื้อสัตว์จึง ต้องอาศัยวิตามินซีช่วยจับธาตุเหล็กให้มากขึ้นแทน รวมถึงผู้ที่เริ่มสูงวัยหรือผิวพรรณเริ่มเสื่อมไป วิตามินซีจะช่วยกวาดสนิมแก่ ช่วยเพิ่มคอลลาเจน ซึ่งเป็นเสมือนกระดูกของผิวให้คงรูปไม่เหี่ยวย่นเร็วเกินวัย วิตามินซียังช่วยเสริมภูมิให้กับผู้ป่วยภูมิแพ้เรื้อรัง ไอเรื้อรังหรือเป็นหวัดบ่อย นอกจากนี้ยังแก้เครียดด้วย เพราะเกี่ยวพันกับต่อมหมวกไตในการสร้างฮอร์โมนต้านเครียดและการอักเสบชื่อว่า คอติซอล
กินมากไปมีผลเสียหรือไม่ ?
นพ.กฤษดา กล่าวว่า มีแน่นอน การกินนับสิบ ๆ เม็ดหรือบ้างก็ใช้ฉีดเข้าเส้นกันโดยหวังว่าจะรักษามะเร็งและโรคร้ายอื่นได้ มีงานวิจัยที่แสดงว่าวิตามินซีปริมาณมากอาจทำให้เกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ได้ เพิ่มอัตราการเกิดมะเร็งในหนูทดลอง ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบแข็งในมนุษย์ ทำให้ขาดธาตุทองแดงและน้ำย่อยสำคัญในร่างกาย
ส่วนอาการเตือนในช่วงแรกที่กินมากไปทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ที่สังเกตได้ อาทิ คลื่นไส้ ถ้ากินมากถึงแก่อาเจียน แสบร้อนกระเพาะอาหาร จุกใต้ลิ้นปี่ ระคายทางเดินอาหาร ถ่ายเหลว ปัสสาวะสีเข้ม
อย่าง ไรก็ตามไม่ต้องตระหนกอกสั่นกับ วิตามินซีเป็นพิษมาก เพราะว่ามันละลายน้ำได้ ถ้าได้เยอะเกินไปร่างกายจะขับออกทางปัสสาวะโดยอัตโนมัติ ไม่ได้เป็นอันตรายอะไร จะแย่หน่อยก็ตรงเสียดายว่ามันจะกลายเป็นฉี่แพงไปหน่อยเท่านั้นเอง
5 ข้อที่ต้องรู้เกี่ยวกับการฉีดวิตามินซี
นอกจากการรับประทานวิตามินซีเพื่อช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูสดใสแล้ว การฉีดวิตามินซี เข้าสู่ร่างกายก็ยังเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ผู้คนในสมัยนี้หันมาให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น นั่นเป็นเพราะว่าการฉีดเข้าสู่ร่างกายจะสามารถแสดงให้เห็นผลได้เร็วกว่า ชัดเจนกว่า แต่วิธีนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ในการดูแลผิวพรรณของเรามากเลยทีเดียว วันนี้ เราจึงมี 5 ข้อควรรู้ก่อนการฉีดวิตามินซีมาฝาก เพื่อเป็นส่วนประกอบก่อนการตัดสินใจว่าการฉีดวิตามินเข้าสู่ร่างกายดีต่อผิวพรรณ หรือร่างกายของคุณจริงรึเปล่า …
- วิตามินซีจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ในปริมาณที่จำกัด ถึงแม้ว่าการฉีดวิตามินซีเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรงนั้นจะมีปริมาณที่เข้มข้นเพียงพอในการบำรุงผิวพรรณ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็แตกต่างกันออกไปตามแต่ละบุคคล โดยวิตามินซีที่ถูกฉีดเข้าไปในร่างกายจะมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ถูกนำไปใช้บำรุงผิวพรรณของเรา ซึ่งคุณสมบัติที่แท้จริงของวิตามินซีมักจะถูกใช้ในฐานะตัวเสริมที่ช่วยทำให้สารดูแลผิวอื่นๆ มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น
- วิตามินซีที่ได้จากการรับประทาน การฉีด และอาหารเสริม ล้วนแล้วแต่มีข้อดี - ข้อเสียแตกต่างกันออกไป ซึ่งการฉีดวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายจะมีปริมาณความเข้มข้นที่มาก มีการฉีดเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง แต่ก็ใช่ว่าวิตามินซีทั้งหมดจะถูกนำไปใช้ในการบำรุงร่างกาย ส่วนใหญ่ก็ยังคงถูกขับออกมาทางปัสสาวะ ในขณะเดียวกัน การรับประทานผัก ผลไม้ ถึงแม้ว่าจะให้ปริมาณวิตามินซีที่น้อยกว่า แต่ในอาหารเหล่านั้นก็ยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการบำรุงผิวพรรณอยู่ด้วย อาทิ วิตามินเอ หรือ วิตามินอี เป็นต้น
- ตรวจสภาพร่างกายและดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพียงพอก่อนเข้ารับการฉีดวิตามินซี เพื่อให้แน่ใจว่าไตและตับของเรามีความแข็งแรง รวมไปถึงต้องไม่มีประวัติของการเป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อการดูดซึมวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายทั้งสิ้น
- ไม่ควรฉีดวิตามินซีเกิน 2 - 5 กรัม/สัปดาห์ โดยการฉีดวิตามินซีเข้าสู่หลอดเลือดดำ จากคำวินิจฉัยของแพทย์ ควรหยุดฉีดวิตามินซีทันทีที่ปรากฏอาการข้างเคียง ถึงแม้ว่าวิตามินซีจะมีความปลอดภัย แต่หากได้รับในปริมาณที่มากจนเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดอาการท้องเสีย ท้องอืดได้
- หลังการฉีดวิตามินซีแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ฉีดวิตามินซีในปริมาณสูง ซึ่งการดื่มน้ำจะเข้าไปช่วยลดโอกาสที่วิตามินซีจะไปขัดขวางกระบวนการดูดซึมสารอาหารประเภทอื่นๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย
ประโยชน์ของวิตามินซีกับความงาม
จะว่าไปแล้วผู้คนที่หันมารับประทานวิตามินซีอาจไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ที่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพมากเท่าใดนัก แต่อาจจะเน้นไปในเรื่องของความงามเสียมากกว่า วันนี้เราก็เลยมีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับประโยชน์ของวิตามินซีที่มีผลต่อความงามของสาวๆ หรือหนุ่มโดยตรงมาฝาก ลองดูพร้อมๆ กันว่าวิตามินซีจะช่วยให้ผิวพรรณและร่างกายของเราเปลี่ยนแปลงไปได้มากเท่าไหร่
- วิตามินซีสามารถป้องกันอันตรายที่เกิดจากแสดงยูวีได้ โดยผลวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าหากเราทาวิตามินซีก่อนออกแดดจะช่วยลดปัญหาผิวไหม้ ผิวหมองคล้ำ บรรเทาอาการอักเสบของผิวเมื่อถูกแดด อีกทั้งยังพบว่าเมื่อทาวิตามินซีร่วมกับวิตามินอี และครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ Oxybenzone ก้ยิ่งช่วยป้องกันอันตรายจากแสดงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- วิตามินซีมีสารต้านการเกิดออกซิเดชั่น (Antioxidant) จะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดจากความชราของผิวหนัง โดยวิตามินจะเข้าช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ได้มีการทดลองทาวิตามินซีที่ใบหน้าเป็นเวลา 3 เดือน ผลปรากฏว่าเส้นริ้วรอยบางๆ ที่อยู่บนหน้าจางหายไป ผิวหน้าเนียนนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- วิตามินซีทำให้เม็ดสีเมลานินจางลง ช่วยให้ผิวขาขึ้นได้ในคนที่เป็นฝ้า กระ รอยด่างดำ อีกทั้งยังส่งผลให้ผิวพรรณสดใส ช่วยสมานแผล ซึ่งมีงานวิจัยบางชิ้นบ่งชี้ให้เห็นว่าวิตามินซีนั้นสามารถลดอัตราเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้อีกด้วย
+ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวิตามินซี
ที่มาข้อมูล: Ovolva.com
ที่มารูปภาพ: newsroom.heart.org