แบล็คมันเดย์ - ถามตอบที่ Sanook! Guru

                            วันจันทร์ที่ ๑๙   ตุลาคม   ๒๕๓๐ เป็นวันที่ราคาหุ้นในตลาดนิวยอร์กดิ่งลงเหวเป็นประวัติการณ์   ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างฉับพลันและรุนแรง   เรียกวันหายนะของตลาดหุ้นวันนี้ว่า   แบล็คมันเดย์   BIack   Monday   ชนวนของวิกฤตการณ์นี้ก็คือ   การขาดดุลการค้าและดุลงบประมาณของสหรัฐฯ   ที่มีมานานและทวีความรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด หลาย ๆ ประเทศได้เรียกร้องให้สหรัฐ ฯ   แก้ไขปัญหาดังกล่าว   ซึ่งสหรัฐฯ   เองก็ได้แก้ไขด้วยการปล่อยให้ค่าดอลล่าร์อ่อนตัวลงเป็นลำดับจากปี ๒๕๒๘   แต่จนถึงปี ๒๕๓๐ สถานการณ์ก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น   เหตุการณ์ดังกล่าวมีผลบั่นทอนตลาดหุ้นเป็นครั้งคราว   จนกระทั่งราววันที่ ๑๔ ตุลาคม ปรากฏว่ารายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เมื่อเดือนสิงหาคมมีการขาดดุลเป็นจำนวน ๑๕ ๖๘ พันล้านดอลล่าร์สร้างความหวั่นวิตกว่า   สหรัฐฯ คงประสบความล้มเหลวในการแก้ปัญหา ดัชนีราคาหุ้น Dow Jones ในตลาดนิวยอร์กตกต่ำถึง ๙๕ ๔๖ จุดในวันเดียว                                         นอกจากนี้   ปัจจัยที่สนับสนุนให้ตลาดหุ้นเกิดเหตุการณ์เลวร้ายก็คือ   การปรับตัวสูงขึ้นของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเยอรมนีตะวันตก ทั้ง   ๆ   ที่ก่อนหน้านั้นสหรัฐ ฯ ได้ขอความร่วมมือจากญี่ปุ่นและเยอรมนีตะวันตกให้ช่วยผ่อนปรนความไม่สมดุลทางการค้าของสหรัฐฯ   กับประเทศคู่ค้าสำคัญ ๆ   เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจแก่รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ คือนายเจมส์   เบเกอร์   ซึ่งได้กล่าวตอบโต้เยอรมนีตะวันตกหลายครั้ง ส่งผลให้เกิดความผันผวนของราคาหุ้น   ในตลาดนิวยอร์กโดยได้ลดลงมาอีก ๑๐๘ ๓๕   จุดในวันศุกร์ที่ ๑๖ ตุลาคม จนกระทั่งวันจันทร์ที่ ๑๙   ตุลาคม   มีการกล่าวโต้ตอบอย่างรุนแรงของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งเชื่อกันว่าคือนายเจมส์ เบเกอร์ ว่าสหรัฐฯ จะลดค่าเงินดอลล่าร์อีก                                   ปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้นทำให้นักลงทุนต่าง ๆ   ทั่วโลกขาดความศรัทธา   และเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นนิวยอร์ก   ต่างพากันเทขายหุ้นทั่วโลก ทำให้ดัชนีหุ้นในตลาดสำคัญ ๆ เหล่านั้นทรุดต่ำลง   ดัชนีหุ้น Dow Jones   เอง ได้หล่นลงถึง ๕๐๘ ๓๒   จุดในวันเดียว “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”