(1)น้ำเน่าคืออะไร
น้ำเน่า คือ น้ำเสียที่ขาดออกซิเจนละลายในน้ำ (DO-Dissolved Oxygen)นานๆ จนจุลชีพกลุ่มใหม่ กลุ่มไม่ใช้ออกซิเจนในน้ำ ขยายอิทธิพลมากินของเสียในน้ำเสียแทน (ปริมาณของเสียในน้ำเสีย เขาวัดกันด้วยค่า BOD (Biochemical Oxygen Demand)) ส่งผลให้เกิดกลิ่นก็าซไข่เน่า และน้ำมีสีดำจากโลหะซัลไฟด์
(2)มหาอุทกภัยครั้งนี้ เรามีน้ำเน่าแบบไหนบ้าง
น้ำเสียหลัก มี 2 ประเภท คือน้ำเสียจากสารอนินทรีย์เคมี (สารประกอบโลหะหนักต่างๆ) และน้ำเสียอินทรีย์ ที่ปนเปื้อนสารอินทรีย์ ที่จุลชีพสามารถย่อยสะลายหรือทำให้เน่าเสียได้ (เช่น อาหาร พืช หญ้า) และส่วนมากจะมีเชื้อโรค+พยาธิ์แถมมาด้วย
น้ำท่วม ส่วนมากจะชะเอาสารอินทรีย์ เชื้อโรคและพยาธิ์ จากดินปนเปื้อนมาด้วย ดังนั้น จึงต้องระวังเรื่องโรคท้องร่วงระบาด (จากคนท้องร่วงถ่ายลงน้ำ หรือลงดิน) หรือโรคภัยที่น้ำเป็นพาหะ เช่น โรคฉี่หนู ดังนั้น ผู้ที่มีบาดแผล ไม่ควรลงลุยน้ำท่วม เพราะเชื้อโรคจะเข้าร่างกายทางบาดแผลนี้ สำหรับสารอนินทรีย์เคมีนั้น น้ำท่วมจะมีโอกาสปนเปื้อนสารอนินทรีย์เหล่านี้น้อยมาก เพราะมวลน้ำจำนวนมหาศาลจะช่วยทำให้มันเจือจางลงไปได้มาก
(3) EM คืออะไร
EM (Effective Microorganisms) คือจุลชีพที่เก่งเฉพาะทาง (เซียนเฉพาะด้าน) ตามแต่ผู้เพาะเลี้ยง จะแยกคัดพันธุ์มาขาย และรู้กำพืดของมันดี (ระวัง พวกที่เพาะมาจากน้ำเน่า คือจับจุลชีพอะไรก็ไม่รู้ มาใส่ถัง เลี้ยงด้วยอาหาร ซึ่งส่วนมาก ก็คือน้ำตาล และเขาอาจตักเชื้อโรค พยาธิ ต่างๆ มาเพาะให้มันเจริญเติบโตควบคู่กันไปด้วย ซึ่งอันตรายมาก)
EM อาจนำมาขายได้ ทั้งในรูปของของเหลว(เลี้ยงในสารละลายน้ำตาล) หรือ ของแข็ง(เลี้ยงในอาหารจำพวกรำข้าว)
ดังนั้น ต้องเลือกEMให้ถูกกับประเภทของงานที่จุลชีพกลุ่มนั้นถนัด เช่น กลุ่มที่ชอบกินตะกอนน้ำเน่า ที่หมักหมมอยู่ในน้ำเน่าใต้ถุนบ้าน หรือใต้ท้องคลองน้ำเน่า ที่นิ่งไม่ไหลเร็ว จุลชีพในน้ำEM ก็จะขยายพันธุ์ลงไปกินตะกอนเลนเหล่านั้น และขยายพันธุ์จนกลายเป็นอาณาจักรของมัน ถ้าEMไม่ชอบน้ำเน่าประเภทนั้น มันก็จะไม่ขยายพันธุ์ แล้วถูกจุลชีพท้องถิ่นในน้ำเน่าบริเวณนั้นข่ม หรือมันถูกกิน ในที่สุด นั่นคือ การใช้EMชนิดนั้น แล้วไม่ได้ผลอะไร
อย่าลืม ต้องใช้EMให้ถูกกับประเภทของภาระกิจ (ไม่มีEMใด ที่ทำงานได้ครอบจักรวาล) และต้องใช้ในบริเวณพื้นที่จำกัด เพื่อที่EMจะได้ขยายพันธุ์ เพื่อกินของเน่าเสีย ก่อนที่จะถูกจุลชีพในท้องถิ่น มาจับกินเป็นอาหาร ดังนั้น ต้องใช้EMให้ถูกชนิด และมีปริมาณเพียงพอที่มันจะสามารถขยายพันธุ์ เพื่อเอาชนะจุลชีพในท้องถิ่น ที่มีอยู่ก่อนให้ได้ สำหรับการใช้EM เทหรือโยนลงไปในน้ำท่วม ที่ไหลบ่าอย่างรวดเร็ว จะไม่ได้ผลอะไร เพราะมันจะถูกเจือจาง และขยายพันธุ์กันไม่ทัน
(4). EM ช่วยเพิ่ม O2 ได้จริงหรือไม่ ลดโลหะหนักได้จริงหรือไม่ : หากใช้EMถูกประเภท + ใช้ในพื้นที่ ที่จำกัดอาณาบริเวณได้ + และใช้ในปริมาณที่เพียงพอ EMก็จะสามารถขยายพันธุ์ โดยกินของเน่าเสียที่หมักหมม ที่สะสมใต้ท้องบ่อบริเวณน้ำเน่านั้นเป็นอาหารและขยายอาณาจักร์ของมัน เมื่อของเน่าเสียที่สะสมใต้ท้องคลองหมด BODในน้ำเสียก็จะเริ่มลดลงด้วย จนในที่สุดออกซิเจนจากอากาศ ที่ถ่ายผ่านผิวน้ำในบริเวณนั้น มีมากเพียงพอ น้ำเน่านั้นก็จะกลายเป็นน้ำดี คือ มีDOเกิดขึ้นตามมา
นั่นคือ หากการใช้EMถูกชนิดและในปริมาณที่เหมาะสมกับพื้นที่ ก็จะสามารถช่วยกินของเสียที่สะสมหมักหมมอยู่ จนกลายเป็นน้ำดี ที่มีค่าDOได้ ส่วนการลดโลหะหนัก EMส่วนมากที่เพาะมาขายกัน ไม่กินโลหะหนัก ความจริงมีคนเพาะได้ เช่น ฝึกให้มันกินทองแดงจากแร่ แต่นี่ก็เป็นเพียงการย้ายที่โลหะหนักจากแร่มาอยู่ในตัวมัน ก่อนนำไปสกัดโลหะหนักออกจากตัวมัน ซึ่งเป็นไปตามทฤษฎีที่ว่า สสาร(โลหะหนัก)ไม่มีการสูญหาย จะเพียงเปลี่ยนรูป ย้ายไปมาเท่านั้น
(5). ผลข้างเคียงของ EM : อันตรายที่จะพบกัน ก็คือ ผู้ผลิตEM ไม่รู้กำพืดของจุลชีพที่ตนเองผลิต และไม่รู้ว่ามันเก่งทางด้านใด และบางครั้ง อาจเพาะเชื้อโรค หรือมีไวรัสปนเปื้อน โดยใช้น้ำตาลโมลาสเลี้ยง ออกมาขาย แจกจ่ายกัน ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวของ พยาธิ์ เชื้อโรค และไวรัส เกิดโรคระบาด การกลายพันธุ์ ตามมา
ดังนั้น ต้องเลือกชื้อจากผู้ผลิตที่มีการควบคุมคุณภาพ ที่สามารถระบุชนิดและที่มาของจุลชีพของตนได้ และไม่ควรใช้ดื่มหรือสูดดม เพราะอาจมีจุลชีพกลายพันธุ์ หรือปนเปื้อนไวรัส เข้าสู่ร่างกาย (เพราะการผลิตEMบริสุทธิ์100%ทำได้ยากมาก)
โดย บุญยง โล่ห์วงศ์วัฒน
2 พ.ย. 2554
ขอบคุณ : https://www.facebook.com/notes/boonie-loh
เกาะติดข่าวน้ำท่วม ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม 2554 : https://news.sanook.com/thaiflood/