จากการลงพื้นที่ตรวจความสะอาดของตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ 50 เขตในกรุงเทพฯ ของหน่วยตรวจสอบเคลื่อนที่เพื่อความปลอดภัยด้านอาหาร คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบว่า
จุลินทรีย์ไม่ผ่านเกณฑ์ เนื่องจากพบแบคทีเรียอีโคลายคิดเป็น 0.57% และพบแบคทีเรียโคลิฟอร์มที่เป็นจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วง เช่นเดียวกับแบคทีเรียอีโคลายคิดเป็น 5.43% ของตัวอย่างน้ำที่ตรวจ แบคทีเรียดังกล่าวไม่ควรพบในน้ำดื่ม แต่หากนำน้ำนั้นไปต้มก่อนดื่มก็จะไม่เป็นอันตรายกับผู้บริโภค
ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญเป็นแหล่งที่ให้บริการน้ำดื่มในราคาย่อมเยา และอำนวยความสะดวกแก่ผู้อาศัยในย่านนั้น ซึ่งความสะอาดของน้ำดื่มไม่สามารถวัดได้ด้วยตาเปล่า และนอกจากการนำน้ำดื่มที่ได้จากตู้ไปต้มก่อนดื่ม เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ในฐานะที่เราเป็นผู้บริโภคก่อนซื้อน้ำดื่มจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญในครั้งต่อไปได้อย่างสะอาด และมีคุณภาพ ควรสังเกตตู้น้ำดื่มก่อนหยอดเหรียญดังนี้
- บริเวณถาดรองน้ำ หัวจ่ายน้ำของตู้น้ำดื่มนั้นสะอาดหรือไม่ มีฝาปิดมิดชิดหรือไม่ และไม่ควรตั้งอยู่กลางแจ้ง เพราะแสงแดดจะทำให้ตะไคร่ขึ้นภายในหัวจ่ายน้ำ
- สังเกตสติ๊กเกอร์บอกวันและเวลาที่ระบุว่าบริษัทเจ้าของตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญได้เปลี่ยนไส้กรอง หรือตรวจคุณภาพครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
- หลังจากกดหรือรองน้ำให้สังเกตสีของน้ำดื่มว่าใส ไม่มีกลิ่นหรือรสชาติผิดปกติ
- หมั่นล้าง และทำความสะอาดขวดบรรจุน้ำก่อนกดซื้อตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ
ที่มา : นิตยสาร Health Today
รวบรวมข้อมูลโดย: งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด
https://www.lib.ru.ac.th/miscell/water_tank.html